พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1286/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานกู้ยืมเงินจากคำให้การพยาน: ใช้ฟ้องร้องบังคับคดีได้แม้ทำสัญญากู้ยืมภายหลัง
หลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยผู้ยืมที่จะนำมาฟ้องคดีได้นั้น อาจเกิดขึ้นในขณะกู้ยืมเงินกันหรือภายหลังจากนั้นก็ได้ โจทก์ฟ้องเรียกหนี้เงินกู้จากจำเลยโดยอาศัยคำให้การพยานที่จำเลยเบิกความไว้ในคดีอาญามาเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมคำให้การพยานดังกล่าว จึงเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือใช้ฟ้องร้องบังคับคดีแก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2484/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานการกู้ยืมเงิน: ลายมือชื่อผู้กู้เพียงฝ่ายเดียวก็ฟ้องร้องบังคับคดีได้
เมื่อ ป.พ.พ. มาตรา 653 บังคับให้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อผู้กู้ จึงจะฟ้องร้องบังคับคดีได้ โดยมิได้บังคับผู้ให้กู้ต้องลงลายมือชื่อด้วย ดังนั้น แม้สัญญากู้เงินจะเป็นนิติกรรมสองฝ่าย แต่ก็เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืม เมื่อจำเลยลงลายมือชื่อผู้กู้แล้ว โจทก์หรือผู้แทนโจทก์มิได้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ให้กู้ สัญญากู้ก็ฟ้องร้องบังคับคดีได้ไม่เป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3102/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิการเช่าและการซื้อขายทรัพย์สินโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ การชำระหนี้ทำให้ฟ้องร้องบังคับคดีได้
แม้จะฟังว่าข้อตกลงในการโอนสิทธิการเช่าโทรศัพท์เป็นการขายสิทธิอันเป็นทรัพย์สินชนิดหนึ่ง และแม้จะไม่มีหลักฐานของข้อตกลงเป็นหนังสือแต่ก็ได้มีการชำระหนี้เนื่องในการซื้อขายนี้แล้วจึงหาต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องบังคับคดีตามบทบัญญัติมาตรา456 วรรคสองและวรรคสามแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3982/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ จึงจะฟ้องร้องบังคับคดีได้
โจทก์จำเลยตกลงกันว่า จำเลยยอมชำระเงินตามเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ยให้แก่โจทก์โดยวิธีผ่อนชำระ และโจทก์ยอมถอนคำร้องทุกข์ในคดีเรื่องนั้น ข้อตกลงเช่นนี้เข้าลักษณะสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งจะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดจึงจะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้หาใช่เป็นสัญญาอย่างหนึ่งซึ่งไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือฉะนั้นเมื่อโจทก์จำเลยมิได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือกันไว้ และเอกสารหลักฐานการถอนคำร้องทุกข์ก็มีแต่โจทก์ลงชื่อฝ่ายเดียวโจทก์จึงฟ้องจำเลยตามข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2613/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายสังหาริมทรัพย์เกิน 500 บาท ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ หากมีการส่งมอบสินค้าและชำระหนี้แล้ว
ข้อที่ว่า การซื้อขายเป็นการซื้อขายสังหาริมทรัพย์เกินกว่า500 บาท แต่มิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญ จะฟ้องร้องบังคับคดีหาได้ไม่นั้น เป็นปัญหาในอำนาจฟ้องอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
การซื้อขายกระดาษรายพิพาท จำเลยได้รับมอบกระดาษไปครบถ้วนตามที่สั่งซื้อแล้วถือว่าเป็นการซื้อขายเด็ดขาด ซึ่งมีการชำระหนี้แล้ว โจทก์ผู้ขายมีสิทธิฟ้องเรียกราคากระดาษได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
การซื้อขายกระดาษรายพิพาท จำเลยได้รับมอบกระดาษไปครบถ้วนตามที่สั่งซื้อแล้วถือว่าเป็นการซื้อขายเด็ดขาด ซึ่งมีการชำระหนี้แล้ว โจทก์ผู้ขายมีสิทธิฟ้องเรียกราคากระดาษได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 823/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงินที่ไม่มีหลักฐานชัดเจน ไม่พอฟังเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653
เอกสารที่อ้างเป็นหลักฐานการกู้ยืมมีข้อความว่า " ฯลฯ พักนี้เงินของฉันถอนเงินห้าพันบาทมาซื้อผ้าผวยไว้ขายหมดแล้วไม่มีเงินซื้อของ ฯลฯ พักนี้งาลงราคา ฯลฯ ฉันจะยืมเงินมณีมาซื้อของสัก 5 พันบาท หรือ 4 พันบาทก็ได้ จะรีบเข้าหุ้นส่วนซื้องาเก็บไว้ขายปลายปีนี้ ถ้าเหลือเงินให้รีบส่งมาโดยเร็ว ฯลฯ เงินฉันยังขาดอีกหลายพันบาทถ้ามีให้รีบส่งมา" ข้อความในเอกสารดังกล่าวนี้ฟังได้เพียงว่า ผู้ยืมแสดงเจตนาขอยืมเงินจากผู้ให้ยืมเท่านั้น ส่วนผู้ยืมจะได้รับเงินไปจากผู้ให้ยืมตามที่ขอยืมหรือไม่ จำนวนเท่าใดหาได้มีข้อความหรือเอกสารอื่นใด ลงลายมือผู้ยืมเป็นหลักฐานไม่ เอกสารดังกล่าวจึงไม่พอฟังเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืม ฉะนั้น โจทก์จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 220/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินโดยชำระเงินบางส่วนแล้ว ฟ้องร้องบังคับคดีได้ แม้ไม่มีเอกสารเป็นหนังสือ
โจทก์จำเลยร่วมกันยื่นเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมขอแบ่งขายที่พิพาท โดยโจทก์จะขายให้จำเลยในราคา4,000 บาท จำเลยตกลงชำระเงินให้โจทก์ในวันยื่นเรื่องราวนั้น 3,000 บาทส่วนที่ค้างจะชำระในวันหลังเรื่องราวที่โจทก์จำเลยร่วมกันยื่นนั้นไม่ใช่สัญญาจะซื้อจะขาย เป็นเพียงหลักฐานแห่งการซื้อขายที่ดินเท่านั้น
ผู้จะซื้อได้ชำระเงินค่าที่ดินที่จะซื้อขายกันให้ผู้จะขายแล้วบางส่วน เป็นสัญญาจะซื้อขายที่พิพาทกันโดยสมบูรณ์ในแบบที่ได้ชำระหนี้บางส่วนแล้ว สัญญาแบบนี้ไม่จำต้องมีเอกสารเป็นหนังสือมาแสดงก็ฟ้องร้องบังคับคดีกันได้ และโจทก์มีสิทธิที่จะนำพยานบุคคลมาสืบถึงข้อตกลงในการขายที่ดินนี้ได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
ผู้จะซื้อได้ชำระเงินค่าที่ดินที่จะซื้อขายกันให้ผู้จะขายแล้วบางส่วน เป็นสัญญาจะซื้อขายที่พิพาทกันโดยสมบูรณ์ในแบบที่ได้ชำระหนี้บางส่วนแล้ว สัญญาแบบนี้ไม่จำต้องมีเอกสารเป็นหนังสือมาแสดงก็ฟ้องร้องบังคับคดีกันได้ และโจทก์มีสิทธิที่จะนำพยานบุคคลมาสืบถึงข้อตกลงในการขายที่ดินนี้ได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงินเกิน 50 บาท ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ยืมจึงจะฟ้องร้องบังคับคดีได้
การที่จำเลยขอยืนเงินที่โจทก์จะนำไปชำระให้แก่เจ้าหนี้ไปใช้แก้ขัดก่อนนั้น ถือว่าเป็นการกู้ยืม มิใช่เป็นเรื่องการรับมอบของตัวแทน เมื่อการกู้ยืมเงินกว่า 50 บาทขึ้นไปมิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญจะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5326/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาทขาดองค์ประกอบความผิดเนื่องจากหนี้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ จึงฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้
เช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยทั้งสามร่วมกันออกให้แก่โจทก์แลกเปลี่ยนกับเช็คที่จำเลยทั้งสามร่วมกันออกให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืม 3,000,000 บาท ที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 กู้ยืมไปจากโจทก์ และโจทก์ให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 กู้ยืมเงินโดยไม่ได้ทำสัญญากู้ยืมไว้ ดังนั้น การกู้ยืมเงินระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงไม่มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมที่จะฟ้องร้องบังคับคดีได้ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ มาตรา 4 บัญญัติว่า "ผู้ใดออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยมีลักษณะหรือมีการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (1) เจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น...ฯลฯ เมื่อได้มีการยื่นเช็คเพื่อให้ใช้เงินโดยชอบด้วยกฎหมาย ถ้าธนาคารปฏิเสธไม่ใช้เงินตามเช็คนั้น ผู้ออกเช็คมีความผิด..." และ ป.พ.พ. มาตรา 653 วรรคหนึ่ง ซึ่งใช้ในขณะจำเลยทั้งสามร่วมกันออกเช็ค บัญญัติว่า "การกู้ยืมเงินกว่าห้าสิบบาทขึ้นไปนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่" หนี้เงินกู้ยืมระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 และที่ 3 มีจำนวนเกินกว่าห้าสิบบาท เมื่อไม่มีการทำหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินไว้เป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ แม้จะฟังว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นหนี้โจทก์อยู่จริง แต่หนี้นั้นก็ไม่อาจฟ้องร้องบังคับกันได้ตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงขาดองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ มาตรา 4