คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องหลายคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2038/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กระบวนการพิจารณาคดีอาญา การรับสารภาพ และการฟ้องหลายคดีต่างกรรมต่างวาระ
การที่ศาลชั้นต้นนัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การจำเลยเวลา 9 นาฬิกา แต่เลื่อนมาสอบในเวลา 13.30 นาฬิกา แม้ไม่ได้จดรายงานกระบวนพิจารณา แต่ศาลชั้นต้นก็ดำเนินกระบวนพิจารณาในเวลา 13.30 นาฬิกา ต่อหน้าจำเลยโดยได้อ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟัง และถามจำเลยว่ากระทำผิดจริงหรือไม่ แล้วจดรายงานกระบวนพิจารณาไว้ ถือได้ว่าได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172 โดยชอบแล้ว ทั้งคดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ซึ่งมิใช่ความผิดที่กฎหมายกำหนดอัตราโทษอย่างต่ำให้จำคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไป หรือโทษสถานที่หนักกว่านั้น เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพฐานรับของโจร ศาลย่อมพิพากษาโดยไม่สืบพยานหลักฐานต่อไปได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 วรรคหนึ่งฉะนั้น การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นตั้งแต่เวลา 13.30 นาฬิกา แม้ทนายจำเลยที่จำเลยเตรียมไว้ได้เดินทางกลับไปเสียก่อนก็ตาม ก็หามีผลให้การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่
แม้จำเลยจะยื่นคำให้การต่อศาลไว้ 2 ฉบับ ฉบับแรกเป็นการรับสารภาพฐานรับของโจร ฉบับหลังเป็นการปฏิเสธก็ตาม แต่เมื่อจำเลยมาอยู่ต่อหน้าศาลแล้วศาลได้อ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังและถามว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงหรือไม่จะให้การต่อสู้อย่างไรบ้าง แล้วจดคำให้การจำเลยไว้แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172 วรรคสอง ฉะนั้นเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพฐานรับของโจร จึงถือว่าจำเลยให้การรับสารภาพฐานรับของโจรชัดแจ้งแล้ว แม้ศาลจะไม่ได้สอบคำให้การของจำเลยฉบับหลัง ก็หาใช่กรณีที่ไม่แน่ชัดว่าจำเลยให้การรับสารภาพหรือให้การปฏิเสธแต่อย่างใด
โจทก์ฟ้องจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรคดีนี้กับคดีอื่นรวม 12 คดี อันเป็นการฟ้องว่ากระทำผิดต่างกรรมต่างวาระแยกออกจากกัน เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพฐานรับของโจร จึงต้องฟังว่าจำเลยกระทำผิดแต่ละคดีต่างกรรมต่างวาระกัน การที่จำเลยถูกจับกุมในวันเดียวกันทุกคดีจะฟังว่ากระทำผิดฐานรับของโจรเพียงครั้งเดียวคราวเดียวในวันที่ถูกจับกุมหาได้ไม่