พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแจ้งความเท็จต้องระบุรายละเอียดความสัมพันธ์กับความเสียหายที่เกิดขึ้นครบถ้วน มิฉะนั้นฟ้องไม่สมบูรณ์
คดีแจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่1และที่2ให้การแก่พนักงานสอบสวนว่าโจทก์ไปซื้อน้ำมันก๊าดจากจำเลยและจำเลยที่3ให้การว่าเห็นโจทก์เข้าร่วมประชุมในห้องทำงานของช. อันเป็นความเท็จทำให้โจทก์ถูกควบคุมตัวถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยและถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนแต่ไม่ได้บรรยายว่าการแจ้งความดังกล่าวมีข้อเท็จจริงอะไรอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องที่โจทก์ถูกควบคุมตัวถูกตั้งกรรมการสอบสวนและถูกให้ออกและเป็นการแจ้งความเกี่ยวกับคดีอาญาฐานใดศาลไม่อาจเข้าใจหรือพอแปลความหมายได้ ฟ้องโจทก์ขาดข้อเท็จจริงและรายละเอียดอันจะพอให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ซึ่งศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองแม้จำเลยจะไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในศาลชั้นต้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแจ้งความเท็จต้องระบุรายละเอียดความเชื่อมโยงกับความเสียหายที่เกิดขึ้น มิฉะนั้นฟ้องไม่สมบูรณ์
คดีแจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่1และที่2ให้การแก่พนักงานสอบสวนว่าโจทก์ไปซื้อน้ำมันก๊าดจากจำเลยและจำเลยที่3ให้การว่าเห็นโจทก์เข้าร่วมประชุมในห้องทำงานของช.อันเป็นความเท็จทำให้โจทก์ถูกควบคุมตัวถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยและถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนแต่ไม่ได้บรรยายว่าการแจ้งความดังกล่าวมีข้อเท็จจริงอะไรอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องที่โจทก์ถูกควบคุมตัวถูกตั้งกรรมการสอบสวนและถูกให้ออกและเป็นการแจ้งความเกี่ยวกับคดีอาญาฐานใดศาลไม่อาจเข้าใจหรือพอแปลความหมายได้ฟ้องโจทก์ขาดข้อเท็จจริงและรายละเอียดอันจะพอให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ซึ่งศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองแม้จำเลยจะไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในศาลชั้นต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 245/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแจ้งความเท็จต้องระบุความจริงให้ชัดเจน มิฉะนั้นฟ้องไม่ชอบ
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ โดยบรรยายถึงข้อความที่จำเลยแจ้งความและกล่าวว่า ซึ่งความจริงมิใช่เช่นนั้น แต่มิได้บรรยายว่าความจริงเป็นอย่างไร จำเลยย่อมไม่อาจเข้าใจได้ดีว่าข้อความที่แจ้งเป็นความเท็จ เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 (5)
เมื่อฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 (5) แล้ว แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
เมื่อฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 (5) แล้ว แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894-897/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาท: ความสมบูรณ์ของฟ้องและเขตอำนาจศาล
1.ฟ้องว่าแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานสอบสวนตำรวจสันติบาลแบะสังฆมนตรี แต่ไม่ระบุว่าเป็นใคร นั้นเป็นฟ้องเคลือบคลุม ส่วนที่หาว่าแจ้งความเท็จต่อสังฆนายกแม้ไม่ระบุว่าเป็นใคร นั้น ไม่เคลือบคลุม เพราะใคร ๆ รวมทั้งจำเลยก็เข้าใจ และในขณะฟ้องนั้นสังฆนายกก็มีองค์เดียวเท่านั้น
2,ความผิดฐานหมิ่นประมาทใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่ 3 นั้น ไม่ต้องระบุว่าบุคคลที่ 3 นั้นเป็นใคร เพราะบุคคลที่ 3 นี้อาจเป็นใครก็ได้
3,เมื่อปรากฎว่าที่เกิดเหตุนั้นไม่อยู่ในเขตอำนาจของศาลและศาลเห็นว่าฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย นั้นย่อมมีอำนาจพิพากษายกฟ้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161.
2,ความผิดฐานหมิ่นประมาทใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่ 3 นั้น ไม่ต้องระบุว่าบุคคลที่ 3 นั้นเป็นใคร เพราะบุคคลที่ 3 นี้อาจเป็นใครก็ได้
3,เมื่อปรากฎว่าที่เกิดเหตุนั้นไม่อยู่ในเขตอำนาจของศาลและศาลเห็นว่าฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย นั้นย่อมมีอำนาจพิพากษายกฟ้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 218/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องแจ้งความเท็จ: การบรรยายความจริงผู้ครอบครองทรัพย์มรดก
คำบรรยายฟ้องคดีแจ้งความเท็จ
โจทก์ฟ้องและแก้ฟ้อง ความว่า จำเลยแจ้งความเท็จว่าโจทก์บุกรุกห้องเลขที่ 185 ตำบลท่าข้าม และลักทรัพย์ของจำเลยซึ่งเป็นความเท็จความจริงจำเลยทราบว่าห้องที่กล่าวนี้และทรัพย์ที่หาว่าโจทก์ลักไป เป็นทรัพย์สินของกองมรดกของนายเทศโจทก์ได้ครอบครองอยู่ก่อนแล้วในฐานผู้รับมรดกและจัดการมรดกของนายเทศตามพินัยกรรมจำเลยกับพวกได้ลักทรัพย์เหล่านี้ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา137,172 ตามฟ้องนี้โจทก์ได้บรรยายชัดแจ้งแล้ว ทั้งความเท็จที่จำเลยแจ้งต่อพนักงานสอบสวนและความจริงที่โจทก์เป็นผู้ครอบครองทรัพย์มรดกรายนี้อยู่ก่อนแล้วจำเลยย่อมเข้าใจข้อหาได้ดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์มิได้บรรยายฟ้องให้ชัดว่าความจริงโจทก์ไม่ได้บุกรุกหรือบุกรุกแต่มีสิทธิที่จะทำได้จึงไม่เป็นฟ้องที่สมบูรณ์นั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
โจทก์ฟ้องและแก้ฟ้อง ความว่า จำเลยแจ้งความเท็จว่าโจทก์บุกรุกห้องเลขที่ 185 ตำบลท่าข้าม และลักทรัพย์ของจำเลยซึ่งเป็นความเท็จความจริงจำเลยทราบว่าห้องที่กล่าวนี้และทรัพย์ที่หาว่าโจทก์ลักไป เป็นทรัพย์สินของกองมรดกของนายเทศโจทก์ได้ครอบครองอยู่ก่อนแล้วในฐานผู้รับมรดกและจัดการมรดกของนายเทศตามพินัยกรรมจำเลยกับพวกได้ลักทรัพย์เหล่านี้ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา137,172 ตามฟ้องนี้โจทก์ได้บรรยายชัดแจ้งแล้ว ทั้งความเท็จที่จำเลยแจ้งต่อพนักงานสอบสวนและความจริงที่โจทก์เป็นผู้ครอบครองทรัพย์มรดกรายนี้อยู่ก่อนแล้วจำเลยย่อมเข้าใจข้อหาได้ดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์มิได้บรรยายฟ้องให้ชัดว่าความจริงโจทก์ไม่ได้บุกรุกหรือบุกรุกแต่มีสิทธิที่จะทำได้จึงไม่เป็นฟ้องที่สมบูรณ์นั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องแจ้งความเท็จ แม้ไม่ได้ระบุเจตนา แต่แสดงชัดในเนื้อหา
คำฟ้องที่กล่าวหาว่า จำเลยแจ้งความเท็จนั้นแม้จะไม่ได้บรรยายระบุคำว่า 'จำเลยรู้อยู่ว่าเป็นความเท็จ' แต่เมื่อข้อความที่บรรยายในฟ้องนั้นได้ความแสดงชัดอยู่ในตัวแล้วว่า จำเลยรู้อยู่ว่าข้อความที่แจ้งมานั้นเป็นความเท็จ ก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ครบองค์ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 118 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของฟ้องแจ้งความเท็จ: การระบุความจริงที่ไม่จำเป็นต้องกล่าวซ้ำเมื่อเข้าใจได้จากบริบท
การฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานแจ้งความเท็จนั้นแม้จะไม่ได้กล่าวว่าความจริงเป็นอย่างไร แต่เมื่อพิจารณาคำฟ้องโดยตลอดแล้ว เป็นอันเข้าใจได้ว่าความจริงมีอย่างใดแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกล่าวว่าความจริงเป็นอย่างไรอีก เพราะเป็นอันเข้าใจได้อยู่แล้ว นับว่าเป็นฟ้องที่ถูกต้อง