พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2257/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างที่ไม่ชอบธรรมเนื่องจากลูกจ้างขับรถจักรยานยนต์รับจ้างนอกเวลางาน โดยไม่กระทบต่อภาพลักษณ์หรือกิจการของนายจ้าง
ประกาศของจำเลยที่ห้ามพนักงานของโรงแรมซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยไปขับรถจักรยานยนต์รับจ้างนอกเวลาทำงานตามปกติ ได้ระบุถึงเขตพื้นที่ที่ห้ามไว้โดยเฉพาะคือบริเวณโรงแรมของจำเลยเท่านั้น จึงเป็นอำนาจของจำเลยที่จะออกประกาศคำสั่งเช่นนั้นได้ เพราะมิได้มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายหรือเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
การที่โจทก์ไปขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง แม้สถานที่จอดรถจักรยานยนต์จะอยู่ในซอยอันเป็นทางเข้าออกของโรงแรมจำเลยก็ตาม ก็ไม่มีผลทำให้กิจการของจำเลยได้รับความกระทบกระเทือนหรือภาพพจน์เสียหาย เพราะโจทก์มิได้ขับในเวลาทำงานและมิได้กระทำโดยอ้างว่าเป็นกิจการของจำเลย ทั้งเหตุเลิกจ้างครั้งนี้ก็ไม่ปรากฏจากทางนำสืบว่าโจทก์ได้ขับรถจักรยานยนต์รับจ้างเข้าไปในบริเวณโรงแรมอันเป็นการขัดคำสั่งห้ามของจำเลย โจทก์จึงมิได้ปฏิบัติฝ่าฝืนคำสั่งของจำเลยจำเลยไม่มีสิทธิที่จะเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าและไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
การที่โจทก์ไปขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง แม้สถานที่จอดรถจักรยานยนต์จะอยู่ในซอยอันเป็นทางเข้าออกของโรงแรมจำเลยก็ตาม ก็ไม่มีผลทำให้กิจการของจำเลยได้รับความกระทบกระเทือนหรือภาพพจน์เสียหาย เพราะโจทก์มิได้ขับในเวลาทำงานและมิได้กระทำโดยอ้างว่าเป็นกิจการของจำเลย ทั้งเหตุเลิกจ้างครั้งนี้ก็ไม่ปรากฏจากทางนำสืบว่าโจทก์ได้ขับรถจักรยานยนต์รับจ้างเข้าไปในบริเวณโรงแรมอันเป็นการขัดคำสั่งห้ามของจำเลย โจทก์จึงมิได้ปฏิบัติฝ่าฝืนคำสั่งของจำเลยจำเลยไม่มีสิทธิที่จะเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าและไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1904/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดระเบียบองค์กรและทำร้ายร่างกายพนักงานกระทบภาพลักษณ์และวินัย
โจทก์ชก ว.ที่แขนหนึ่งที เกิดรอยช้ำแดงหายได้ภายใน 4 ชั่วโมงโจทก์กระทำผิดขณะ ว.กำลังปฏิบัติหน้าที่ในเวลางานและภายในบริเวณบริษัทจำเลยซึ่งผิดระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานเป็นกรณีร้ายแรง นอกจากนี้โจทก์ทำร้ายร่างกาย ว.ผู้ใต้บังคับบัญชาต่อหน้าพนักงานอื่นและบุคคลภายนอกในเวลาทำงานและในสถานที่ทำงานของจำเลย ย่อมทำให้จำเลยได้รับความเสียหายต่อภาพพจน์ และการปกครองบังคับบัญชาพนักงานในองค์กรของจำเลย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงานหรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมของนายจ้างเป็นกรณีที่ร้ายแรงตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 47 (3)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2245/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่มิได้ทำให้ประชาชนสับสน แม้จะมีภาพลักษณ์คล้ายกัน
โจทก์จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้ในจำพวก 47 สำหรับสินค้าน้ำมันก๊าส จำเลยยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในจำพวก 47 เช่นเดียวกัน แต่จำกัดเฉพาะสินค้าจำพวกน้ำมันหล่อลื่นสำหรับหยอดเครื่องจักรและจาระบี เครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นรูปคบเพลิงมีรัศมีโดยรอบอยู่ในวงกลม ที่ด้ามของคบเพลิงมีอักษรโรมันว่า TORCH KEROSINE ไม่จำกัดสีที่ใช้ เครื่องหมายการค้าของจำเลยเป็นรูปคบเพลิง ด้ามและฐานของคบเพลิงอยู่ในวงกลมรูปไข่เส้นของวงกลมด้านบนลากสูงจากรูปไข่ขึ้นไปเป็นช่องสำหรับเปลวเพลิง ภายในวงกลมมีอักษรโรมัน AMOCO พาดผ่านจากซ้ายมาขวา ตามขวางกลางด้ามคบเพลิง เห็นได้ชัดเจนจำกัดสีที่ใช้เป็น สีแดง ขาว และน้ำเงิน ส่วนเครื่องหมายการค้าของจำเลยตามคำขออีกคำขอหนึ่ง ก็เหมือนกับเครื่องหมายตามคำขอก่อน เป็นแต่ย่อส่วนให้เล็กลง ไม่จำกัดสีที่ใช้ เปรียบเทียบกันแล้วเห็นได้ว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์และของจำเลยมีลักษณะแตกต่างกัน อักษรโรมันก็มีจำนวนอักษรมากน้อยกว่ากันขึ้นต้นลงท้ายต่างกัน อ่านเป็นสำเนียงคนละอย่าง และอักษรของโจทก์ไม่เป็นจุดเด่น ของจำเลยเป็นจุดเด่นเห็นได้ชัดคนที่ไม่รู้ภาษาต่างประเทศก็ย่อมเห็นได้ว่าแตกต่างกัน แม้ประชาชนอาจจะเรียกตราคบเพลิงเหมือนกัน แต่ประชาชนผู้หาซื้อสินค้าโดยดูตราเครื่องหมายเป็นสำคัญก็คงใช้ความระมัดระวังก่อนซื้อ ย่อมรู้ได้ว่าเป็นสินค้าคนละตรา ไม่สับสนหลงผิดว่าสินค้าของจำเลยเป็นสินค้าของโจทก์ ทั้งโจทก์จำเลยยังจดทะเบียนไว้สำหรับสินค้าคนละประเภทมีวัตถุประสงค์ในการใช้ต่างกันด้วยแล้ว ย่อมไม่มีทางให้ประชาชนหลงผิดยิ่งขึ้น (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 580/2499)