คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
มหรสพ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดเล่นโบว์ลิ่งเก็บเงินจากผู้เล่น ถือเป็น 'มหรสพ' ตามประมวลรัษฎากร ต้องเสียอากร
การแสดง การเล่น หรือการกีฬา การประกวดหรือการกระทำใด ๆถ้าเจ้าของจัดขึ้นเพื่อเก็บเงินจากผู้ดู ย่อมเป็นมหรสพตามประมวลรัษฎากรมาตรา 130 คำว่า 'ผู้ดู' ตามมาตรานี้ หมายความถึงบุคคลผู้เข้าดูหรือเข้าฟังหรือเข้ามีส่วนแสดงมหรสพนั้น ๆ เอง ประเภทใดประเภทหนึ่งก็ได้ แล้วแต่ประเภทของมหรสพ 'ค่าดู' มหรสพไม่ใช่หมายถึงเงินค่าตั๋วแต่อย่างเดียว เงินค่าอย่างอื่น เช่นเงินค่าเล่น หรือค่าเกม การเล่นโบว์ลิ่งก็เป็นค่าดูตามมาตรานี้ด้วย
การจัดให้มีการเล่นโบว์ลิ่ง โดยเก็บเงินผู้เข้าเล่น ซึ่งเป็นผู้เข้ามีส่วนแสดงในการเล่น เป็นการเก็บเงินจากผู้ดูตามกฎหมายแล้วแม้จะไม่เก็บเงินจากผู้เข้าชมหรือดูการเล่นเฉย ๆ ก็เป็น 'มหรสพ'ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 130 อันจะต้องเสียอากรตามกฎหมาย
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 28/2513)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเล่นโบว์ลิ่งเก็บเงินจากผู้เล่น ถือเป็น 'มหรสพ' ตามประมวลรัษฎากร ต้องเสียอากร
การแสดง การเล่น หรือการกีฬา การประกวดหรือการกระทำใด ๆถ้าเจ้าของจัดขึ้นเพื่อเก็บเงินจากผู้ดู ย่อมเป็นมหรสพตามประมวลรัษฎากรมาตรา 130 คำว่า 'ผู้ดู' ตามมาตรานี้ หมายความถึงบุคคลผู้เข้าดูหรือเข้าฟังหรือเข้ามีส่วนแสดงมหรสพนั้น ๆ เอง ประเภทใดประเภทหนึ่งก็ได้แล้วแต่ประเภทของมหรสพ 'ค่าดู' มหรสพไม่ใช่หมายถึงเงินค่าตั๋วแต่อย่างเดียว เงินค่าอย่างอื่น เช่นเงินค่าเล่น หรือค่าเกมการเล่นโบว์ลิ่งก็เป็นค่าดูตามมาตรานี้ด้วย
การจัดให้มีการเล่นโบว์ลิ่ง โดยเก็บเงินผู้เข้าเล่น ซึ่งเป็นผู้เข้ามีส่วนแสดงในการเล่น เป็นการเก็บเงินจากผู้ดูตามกฎหมายแล้วแม้จะไม่เก็บเงินจากผู้เข้าชมหรือดูการเล่นเฉย ๆ ก็เป็น 'มหรสพ'ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 130 อันจะต้องเสียอากรตามกฎหมาย
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 28/2513)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13545/2556

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหาเสียงด้วยดนตรีและการปราศรัยเข้าข่ายจัดมหรสพเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ในการโฆษณาหาเสียงของจำเลยทั้งสิบสองมีการเล่นดนตรีพื้นบ้านประเภทสะล้อซอซึง บนรถยนต์บรรทุกในขบวนรถหาเสียง การที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มจาวเชียงคำยืนปราศรัยอยู่บนรถยนต์บรรทุกหกล้อ โดยมีจำเลยที่ 2 ถึงที่ 12 ยืนอยู่บนรถยนต์บรรทุกคันดังกล่าวร่วมกับจำเลยที่ 1 เมื่อขบวนรถหาเสียงเข้าพื้นที่เลือกตั้งเขตของตน การเล่นดนตรีพื้นบ้านประเภทสะล้อซอซึงในพฤติการณ์ดังกล่าวจึงถือได้ว่าจำเลยทั้งสิบสองซึ่งเป็นผู้สมัครกระทำการเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งแก่ตนเอง โดยทำการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงใด ๆ