พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1052/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายรถยนต์โดยสุจริตและการคุ้มครองตามมาตรา 1332 ป.พ.พ. กรณีผู้ขายไม่มีสิทธิในทรัพย์สิน
ส. ต้องการเช่าซื้อรถยนต์พิพาทจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.ซึ่งมีจำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ แต่จำเลยที่1 ไม่มีเงินทุนเพียงพอจึงขายรถเป็นเงินสดให้แก่จำเลยที่ 2แล้วให้ ส. เช่าซื้อไปจากจำเลยที่ 2 โดยที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. เป็นร้านค้าบริการขายรถยนต์การที่จำเลยที่ 2 ซื้อรถยนต์พิพาทไปจากจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ซื้อรถยนต์พิพาทมาจากพ่อค้าขายของชนิดนั้นโดยสุจริต จำเลยที่ 2ย่อมได้รับความคุ้มครองตามความในมาตรา 1332 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ คือไม่จำต้องคืนรถยนต์พิพาทแก่เจ้าของแท้จริง เว้นแต่เจ้าของจะชดใช้ราคาที่ซื้อมา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 484/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช่าซื้อรถ - สุจริต - ตัวแทน - มาตรา 1332 - ไม่สามารถใช้บังคับโดยอนุโลม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1332 เป็นบทบัญญัติสำหรับกรณีซื้อขายจะนำมาอนุโลมใช้บังคับแก่กรณีเช่าซื้อไม่ได้เพราะสัญญาเช่าซื้อเป็นสัญญาเช่าที่มีคำมั่นว่าจะขายเพิ่มเข้ามาด้วยเท่านั้นไม่มีลักษณะเหมือนสัญญาซื้อขาย
โจทก์ทำสัญญาเช่าซื้อรถกับจำเลยที่ 1 โดยทราบดีอยู่แล้วว่ารถเป็นของจำเลยที่ 3 และข้ออ้างที่ว่าจำเลยที่ 3 มอบให้จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนขายรถคันนี้ก็ฟังไม่ได้ หากว่าได้มีบุคคลใดในห้างจำเลยที่ 1 อ้างต่อโจทก์ว่าจำเลยที่ 3 มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ขายรถคันนี้ก็เป็นการกล่าวอ้างเอาอย่างเลื่อนลอย และโจทก์ก็เชื่อถือด้วยความประมาทเลินเล่อดังนี้ โจทก์จะอ้างว่าโจทก์เช่าซื้อมาโดยสุจริตและจะขอให้นำมาตรา 1332 มาใช้บังคับโดยอนุโลมไม่ได้
โจทก์ทำสัญญาเช่าซื้อรถกับจำเลยที่ 1 โดยทราบดีอยู่แล้วว่ารถเป็นของจำเลยที่ 3 และข้ออ้างที่ว่าจำเลยที่ 3 มอบให้จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนขายรถคันนี้ก็ฟังไม่ได้ หากว่าได้มีบุคคลใดในห้างจำเลยที่ 1 อ้างต่อโจทก์ว่าจำเลยที่ 3 มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ขายรถคันนี้ก็เป็นการกล่าวอ้างเอาอย่างเลื่อนลอย และโจทก์ก็เชื่อถือด้วยความประมาทเลินเล่อดังนี้ โจทก์จะอ้างว่าโจทก์เช่าซื้อมาโดยสุจริตและจะขอให้นำมาตรา 1332 มาใช้บังคับโดยอนุโลมไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 527/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการซื้อคืนทรัพย์จากการขายทอดตลาด: มาตรา 1330 vs. 1332
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ซื้อทรัพย์ของโจทก์ไปจากการขายทอดตลาดของศาลโจทก์ประสงค์จะขอซื้อทรัพย์คืนจากจำเลยคำฟ้องเช่นนี้จะนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1332 มาบังคับใช้ในคดีนี้หาได้ไม่เพราะ มาตรา1332 เป็นเรื่องซื้อทรัพย์ในการขายทอดตลาดหรือในท้องตลาดหรือจากพ่อค้าซึ่งขายของชนิดนั้นไม่เกี่ยวกับการซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งของศาลซึ่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1330 บัญญัติได้โดยเฉพาะแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 706/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายทองรูปพรรณโดยผู้รับของมาขายต่อ: สิทธิของผู้ซื้อโดยสุจริตตามมาตรา 1332
จำเลยที่ 2 ตั้งร้านขายของชำ และมีอาชีพทางรับเครื่องทองรูปพรรณที่ทำด้วยเงิน ทอง นาค จากร้านขายของเช่นนั้นไปจำหน่ายหากำไรบ้างขายเครื่องรูปพรรณของตนเองบ้าง จำเลยที่ 2 ปฏิบัติการค้าเช่นนี้เป็นอาจิณตลอดมาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว จำเลยที่ 2 เคยติดต่อรับของจากร้านจำเลยที่ 1 ไปจำหน่าย ดังนี้ ถือว่าจำเลยที่ 2 เป็นพ่อค้าขายทองรูปพรรณตามความหมายในมาตรา 1332 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฉะนั้นเมื่อจำเลยที่ 2 นำเข็มขัดนาคจากร้านของจำเลยที่ 1 มาขายให้โจทก์ และโจทก์รับซื้อไว้โดยสุจริต โจทก์ย่อมได้รับความคุ้มครองตามมาตรานี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายทรัพย์สินที่ได้มาจากการยักยอก: การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ตาม ม.1332 ป.พ.พ.
ซื้อน้ำมันมะพร้าวจากที่ยักยอกของเขาไปเจ้าของทรัพย์ย่อมฟ้องเรียกคืนได้
จำเลยซื้อน้ำมันมะพร้าวจากบุคคลที่นำมาขายยังสำนักงานของจำเลยไม่ถือว่าเปนการซื้อไนตลาดตาม ม. 1332. ป.พ.พ.
จำเลยซื้อน้ำมันมะพร้าวจากบุคคลที่นำมาขายยังสำนักงานของจำเลยไม่ถือว่าเปนการซื้อไนตลาดตาม ม. 1332. ป.พ.พ.