พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4072/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแย่งการครอบครองที่ดินและการหมดอายุความฟ้องแย่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381
เดิมจำเลยอาศัยที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าของโจทก์อยู่ เมื่อโจทก์ทั้งสามไปขอให้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.) สำหรับที่ดินของโจทก์รวมถึงที่ดินพิพาทด้วย จำเลยคัดค้านจึงออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดินพิพาทไม่ได้ การที่จำเลยคัดค้าน ดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าวไปยังโจทก์ทั้งสามแล้วว่าจำเลย ไม่เจตนาจะยึดถือที่ดินพิพาทแทนผู้ครอบครองต่อไปโดยตนเป็น ผู้ครอบครองเองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 ซึ่งโจทก์จะต้องฟ้องคดีเพื่อเอาคืนภายใน 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่ง การครอบครอง เมื่อโจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยคัดค้าน การรังวัดที่ดินพิพาทเพื่อออก น.ส.3 ก.ให้โจทก์ โจทก์จึงหมดสิทธิ ที่จะฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองที่ดินพิพาท แม้โจทก์จะคัดค้าน การออก น.ส.3 ก. ของจำเลยในที่ดินพิพาทก็ไม่ทำให้สิทธิ การครอบครองของจำเลยเสียไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1473-1474/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองทรัพย์มรดกของทายาทโดยไม่ต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการยึดถือตามมาตรา 1381 และอำนาจศาลในการบังคับแบ่งทรัพย์มรดก
จ.บุตรอาศัยปลูกบ้านอยู่ในที่ดินของบิดามารดาครั้นบิดาตาย ที่ดินแปลงนั้นในส่วนที่เป็นสินสมรส ของบิดาก็เป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทซึ่งมี จ.รวมอยู่ด้วย การที่จ. อยู่ในที่ดินมรดกนับแต่นั้นมา ได้ชื่อว่าเป็นการอยู่การครอบครองของทายาท ในทรัพย์มรดกซึ่งยังมิได้แบ่งกันตามมาตรา 1748 แล้ว โดยไม่ต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือตามมาตรา 1381
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า ทายาทของเจ้ามรดกมีโจทก์จำเลยกับคนอื่น รวม 11 คนเป็นทายาท คำขอท้ายฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยแบ่งที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์มรดกให้โจทก์ตามส่วน หากขัดข้องก็ให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย หรือมิฉะนั้น ให้จำเลยใช้เงินแก่โจกท์ ทั้ง 4 คน ๆ ละ 17,433.33 บาท ดังนี้ ศาลมีอำนาจพิพากษาให้เอาที่ดินและบ้านอันเป็นมรดกมาแบ่งให้แก่โจทก์ตามส่วน และว่าถ้าแบ่งไม่ตกลงก็ให้ประมูลกันเอง หรือขายทอดตลาดทรัพย์ที่จะต้องแบ่ง
(โดยมิได้พิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ก็ได้)
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า ทายาทของเจ้ามรดกมีโจทก์จำเลยกับคนอื่น รวม 11 คนเป็นทายาท คำขอท้ายฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยแบ่งที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์มรดกให้โจทก์ตามส่วน หากขัดข้องก็ให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย หรือมิฉะนั้น ให้จำเลยใช้เงินแก่โจกท์ ทั้ง 4 คน ๆ ละ 17,433.33 บาท ดังนี้ ศาลมีอำนาจพิพากษาให้เอาที่ดินและบ้านอันเป็นมรดกมาแบ่งให้แก่โจทก์ตามส่วน และว่าถ้าแบ่งไม่ตกลงก็ให้ประมูลกันเอง หรือขายทอดตลาดทรัพย์ที่จะต้องแบ่ง
(โดยมิได้พิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ก็ได้)