คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
มาตรา 158

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 627/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความถูกต้องของฟ้องอาญาตามมาตรา 158: การระบุความผิดฐานลักทรัพย์และการรับของโจร
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 โจทก์จะต้องบรรยายฟ้องถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดจากการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ซึ่งในคดีนี้ฟ้องของโจทก์ที่บรรยายไว้ได้กล่าวอ้างถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิด ตามที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 ซึ่งการกระทำทุกอย่างหรืออย่างใดอย่างหนึ่งย่อมเป็นความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เมื่อโจทก์นำสืบได้ข้อเท็จจริงชัดเจนหรือพฤติการณ์แห่งคดีฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทุกอย่าง การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว ฟ้องของโจทก์จึงถูกต้องครบถ้วนแล้ว หาได้เคลือบคลุมดังจำเลยกล่าวอ้างไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4259/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 158 เป็นของผู้เสียหายโดยนิตินัยเท่านั้น
การกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 158 เป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ผู้กระทำความผิดเป็นเจ้าพนักงานของรัฐและทรัพย์หรือเอกสารใดซึ่งเป็นของทางราชการหรือของรัฐนั้นอยู่ในหน้าที่ของเจ้าพนักงานผู้นั้นที่จะปกครองหรือรักษาไว้ถูกทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือทำให้ไร้ประโยชน์หรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทำเช่นนั้น ดังนี้ ย่อมเห็นได้ชัดเจนว่ารัฐเป็นผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงและนับว่าเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัย หากโจทก์ซึ่งเป็นราษฎรจะได้รับความเสียหายจากการกระทำของจำเลยก็เป็นเพียงผู้เสียหายโดยพฤตินัย มิใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย ไม่มีอำนาจฟ้องคดีได้เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2305/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตและความรับผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 158
แม้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 158 จะไม่ได้บัญญัติว่ามีเจตนาทุจริตจึงจะเป็นความผิด แต่ผู้กระทำจะมีความผิดตามมาตรานี้ได้ต่อเมื่อมีเจตนากระทำ
จำเลยเป็นพนักงานสอบสวนผู้เก็บรักษาเช็คและใบคืนเช็คซึ่งจะต้องคืนให้โจทก์ เช็คและใบคืนเช็คนั้นสูญหายไปโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยมีเจตนาทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้นเอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือยอมให้ผู้อื่นกระทำเช่นนั้น ดังนี้ จะลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 158 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1809/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับระยะเวลาในสัญญาประกวดราคา: เริ่มนับในวันรุ่งขึ้นตามมาตรา 158 และการไม่ถือว่าเป็นการทำงานต่อเนื่อง
เงื่อนไขในการประกวดราคาซึ่งกำหนดให้ราคาสินค้าที่เสนอขายยืนราคาอยู่ 45 วันนับแต่วันยื่นซองประกวดราคานั้น.ถือไม่ได้ว่ามีนิติกรรมกำหนดการนับระยะเวลาไว้เป็นประการอื่น. ดังนั้น จึงไม่นับวันแรกแห่งระยะเวลารวมคำนวณเข้าด้วย.
การประกวดราคาซื้อน้ำมันมิใช่เป็นเรื่องการทำงาน. เพราะไม่มีลักษณะหรือสภาพเป็นงานที่ต้องทำต่อๆ ไปอีก. เมื่อยื่นซองประกวดราคาเสร็จก็เป็นอันเสร็จกันไป. ไม่มีการกระทำอะไรในการประกวดราคานั้นอีก. กรณีจึงปรับเข้ากับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158 ตอนท้ายมิได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่สมบูรณ์ขาดรายละเอียดบาดเจ็บสาหัส ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 ข้อ 5
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า จำเลยได้รับบาดเจ็บสาหัสดังปรากฏตามรายงานชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้องนี้ หาได้บรรยายว่าบาดเจ็บสาหัสอย่างไรและรายงานชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้องก็ไม่เข้าเกณฑ์อันตรายสาหัสตามมาตรา 297 ที่ว่ารักษาเกินกว่ายี่สิบวันดังนี้ เป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158ข้อ 5

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาแจ้งความเท็จ – ความเข้าใจโดยสุจริต – ไม่เป็นความผิดตาม ม.158
แจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานตาม ก.ม. อาญา ม. 158 นั้นผู้แจ้งต้องมีเจตนาแจ้งเท็จให้ผู้อื่นเสียหายจึงจะมีความผิด
โจทก์กับบิดาจำเลยทำสัญญาซื้อสวนยางพิพาทกันที่สุดสัญญาต้องเลิกเพราะสามีโจทก์เป็นคนต่างด้าว โจทก์ต้องคืนสวนยาง บิดาจำเลยต้องคืนมัดจำตามที่ศาลตกลงกัน แต่โจทก์ถือว่าโจทก์ยังมีสิทธิตัดยางอยู่เพราะยังไม่ได้คืนมัดจำและจำเลยได้ไปแจ้งตำรวจจับโจทก์หาว่าลักตัดยางของบิดาตามที่บิดาใช้ไปภายหลังที่โจทก์ได้ทราบว่าไม่มีสิทธิซื้อและต้องคืนสวนยางแล้ว เช่นนี้เห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการเข้าใจโดยสุจริตหาได้เจตนาแจ้งความเท็จให้โจทก์เสียหายไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดตาม ก.ม. อาญา ม. 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเท็จตามมาตรา 158 ต้องเป็นการฟ้องในคดีอาญาเท่านั้น การฟ้องแพ่งไม่ถือว่าเป็นการฟ้องเท็จ
การฟ้องเท็จตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 158 นั้น เป็นเรื่องแกล้งเอาความที่รู้อยู่ว่าเป็นความเท็จไปร้องเรียน หรือฟ้องกล่าวโทษผู้อื่นการร้องเรียนหรือฟ้องกล่าวโทษนี้มุ่งหมายถึงการร้องเรียนหรือฟ้องกล่าวโทษในทางอาญา(อ้างฎีกาที่ 434-435/2472 และ38/2491) ถ้าเป็นฟ้องเท็จในทางแพ่ง ยังไม่เป็นผิดตามมาตรานี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1365/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จโดยเจาะจงตัวบุคคลเข้าข่ายความผิดมาตรา 158 อาญา
กล่าวหาผู้มีชื่อว่ากระทำผิดต่อเจ้าพนักงานซึ่งเป็นความเท็จนั้น เป็นความผิดตามมาตรา 158.