พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้อน: โจทก์ต่างกันในคดีจัดการมรดกและฟ้องแย่งครอบครองที่ดิน ไม่ขัดมาตรา 173 วรรคสอง ป.วิ.พ.
คดีก่อนซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จำเลยเป็นผู้ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของ ผ. โดยโจทก์ที่ 1 เป็นผู้ร้องคัดค้าน ส่วนคดีนี้ผู้ร้องคัดค้านกลับเป็นโจทก์ฟ้องผู้ร้องขอเป็นจำเลย โจทก์ในคดีนี้จึงมิใช่โจทก์คนเดียวกับคดีก่อน ฟ้องโจทก์จึงหาต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 173 วรรคสองไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3346/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้อน: คดีอยู่ในระหว่างพิจารณา แม้จำหน่ายคดีจากสารบบความแล้ว หากจำเลยยังอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งจำหน่ายคดีอยู่
คำว่าคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 173 วรรคสอง นั้น หมายความว่าคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาก็ได้ แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งจำหน่ายคดีจากสารบบความแล้ว แต่จำเลยยังอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งดังกล่าวอยู่ ก็ถือว่าคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาเช่นเดียวกัน โจทก์จึงไม่อาจนำคดีเรื่องเดียวกันมาฟ้องอีกได้เป็นฟ้องซ้อน
โจทก์นำคดีเรื่องเดียวกันกับคดีก่อนมาฟ้องจำเลยคนเดียวกัน เป็นฟ้องซ้อนต้องห้ามตั้งแต่วันยื่นคำฟ้องแล้ว โดยไม่ต้องคำนึงถึงเหตุที่จะเกิดขึ้นภายหลังจากวันยื่นคำฟ้องนั้นแม้คดีก่อนต่อมาจะถึงที่สุดก็ตาม ส่วนการจำหน่ายคดีตามมาตรา 201 วรรคแรก ที่ไม่ตัดสิทธิของโจทก์ที่จะเสนอคำฟ้องใหม่นั้น เป็นเพียงไม่ตัดสิทธิของโจทก์ที่จะเสนอคำฟ้องใหม่ ส่วนโจทก์จะยื่นคำฟ้องใหม่ได้หรือไม่ ต้องบังคับตามมาตรา 173 ด้วย
โจทก์นำคดีเรื่องเดียวกันกับคดีก่อนมาฟ้องจำเลยคนเดียวกัน เป็นฟ้องซ้อนต้องห้ามตั้งแต่วันยื่นคำฟ้องแล้ว โดยไม่ต้องคำนึงถึงเหตุที่จะเกิดขึ้นภายหลังจากวันยื่นคำฟ้องนั้นแม้คดีก่อนต่อมาจะถึงที่สุดก็ตาม ส่วนการจำหน่ายคดีตามมาตรา 201 วรรคแรก ที่ไม่ตัดสิทธิของโจทก์ที่จะเสนอคำฟ้องใหม่นั้น เป็นเพียงไม่ตัดสิทธิของโจทก์ที่จะเสนอคำฟ้องใหม่ ส่วนโจทก์จะยื่นคำฟ้องใหม่ได้หรือไม่ ต้องบังคับตามมาตรา 173 ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2429/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีซ้ำเมื่อคดีอยู่ระหว่างพิจารณา: ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173
โจทก์ฟ้องจำเลยกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คต่อศาลอาญา คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์เพราะโจทก์เป็นฝ่ายอุทธรณ์ ฉะนั้น การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องจำเลยในข้อหาเดียวกันต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการอีก จึงเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173 วรรคสอง ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2606/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในคดีแพ่ง: โจทก์ต่างคนกัน ไม่เป็นฟ้องซ้อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 173
การที่จำเลยในคดีซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา กลับเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์ในคดีนั้นเป็นจำเลยในคดีใหม่ด้วยเรื่องเดียวกัน ก็ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173 วรรคสอง(1) เพราะโจทก์ในคดีหลังนี้ไม่ใช่โจทก์คนเดียวกันกับคดีก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2606/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้อน: การฟ้องคดีใหม่โดยโจทก์ต่างจากคดีเดิม แม้ประเด็นคล้ายกัน ไม่ขัดมาตรา 173 วรรคสอง(1)
การที่จำเลยในคดีซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา กลับเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์ในคดีนั้นเป็นจำเลยในคดีใหม่ด้วยเรื่องเดียวกัน ก็ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173 วรรคสอง(1) เพราะโจทก์ในคดีหลังนี้ไม่ใช่โจทก์คนเดียวกันกับคดีก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1673/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งซ้ำในคดีเดิม: การฟ้องแย้งต้องห้ามตามมาตรา 173 วรรคสอง (1) เมื่อเป็นการเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติมจากละเมิดเดิม
จำเลยฟ้องโจทก์ไว้แล้วในคดีดำที่ 1533/2512 ให้รับผิดฐานละเมิด โดยอ้างว่าโจทก์ให้ผู้ก่อสร้างรื้ออาคารที่ถูกไฟไหม้ออกจากที่ดินโจทก์ และนำเศษอิฐ ปูน และวัตถุก่อสร้างเอาไปกองไว้ในที่ดินจำเลย. และโจทก์ได้ทำการก่อสร้างอาคารในที่ดินโจทก์เต็มตามเขตโฉนด ไม่เว้นทางเดิน ซึ่งตกเป็นภารจำยอมสำหรับที่ดินจำเลย เป็นการปิดทางภารจำยอม ขอให้ใช้ค่าเสียหายและเปิดทางภารจำยอม คดีอยู่ในระหว่างพิจารณา โจทก์กลับฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้และจำเลยได้ให้การต่อสู้คดีกับฟ้องแย้งให้โจทก์รับผิดฐานละเมิด ทำนองเดียวกับที่กล่าวอ้างในคดีดำที่ 1533/2512เพียงแต่ให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายเพิ่มเติมอีกบางประการ คือ ค่าหน้าดินและค่าเช่าตึกเท่านั้น ดังนี้ เห็นได้ว่าการกระทำที่จำเลยอ้างว่าโจทก์ได้กระทำละเมิดนั้น เป็นการกระทำอย่างเดียวกัน ทำในคราวเดียวกันแม้จะได้ความต่อมาว่าโจทก์ได้ทำการก่อสร้างตึกทับทางภารจำยอมจนเสร็จบริบูรณ์ ก็เป็นการกระทำที่สืบเนื่องติดต่อกันมากับการกระทำเดิม มิได้กระทำการอื่นใดอันถือว่าเป็นการละเมิดใหม่ต่อจำเลย และความเสียหายที่จำเลยอ้างเพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ในคำฟ้องแย้ง ก็ได้ความจากฟ้องแย้งนั้นเองว่า เมื่อโจทก์เริ่มกระทำละเมิดต่อจำเลยนั้น จำเลยได้รับความเสียหายแล้ว จำเลยควรเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ในคดีเดิมได้ ฟ้องแย้งของจำเลยในคดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้อนกับคดีแพ่งดำที่ 1533/2512. ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173 วรรคสอง (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 331/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการแย่งทำนา แม้คดีเดิมยังไม่สิ้นสุด ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173
คดีก่อนโจทก์ฟ้องว่า ป. ทำพินัยกรรมยกที่นาพิพาทให้โจทก์ จำเลยไปขอรับมรดกที่นารายนี้ โดยแจ้งเท็จว่าจำเลยยังเป็นภริยาของ ป. อยู่ เจ้าพนักงานหลงเชื่อ ได้โอนนาพิพาทให้เป็นของจำเลย ขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่านิติกรรมโอนมรดกที่นาพิพาทเป็นโมฆะ และเพิกถอนเสีย และพิพากษาแสดงว่าโจทก์เป็นผู้มีกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองตามส่วนในพินัยกรรม คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาโจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่ว่า โจทก์จะทำนาในที่พิพาทซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษาแล้วว่าเป็นของโจทก์ จำเลยไม่ยอมให้ทำ และจำเลยเข้าแย่งทำนาเสียทั้งหมด ขอให้บังคับให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ดังนี้ ฟ้องคดีเรื่องใหม่เป็นฟ้องอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก หาใช่เป็นเรื่องเดียวกันกับฟ้องในคดีก่อนไม่ จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 19/2515)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องร้องแบ่งมรดกซ้ำซ้อน แม้เปลี่ยนฐานสิทธิเรียกร้อง ศาลยกฟ้องตามมาตรา 173
ถ้าปรากฏว่าได้เคยฟ้องเรียกทรัพย์มรดกรายเดียวกันมาครั้งหนึ่งและคดียังอยู่ในระหว่างพิจารณา โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจที่จะนำคดีเรื่องเดียวกันมาฟ้องอีก ถึงแม้ว่าการฟ้องสองคราวนี้จะอ้างสิทธิต่างกัน โดยคดีแรกอ้างความเป็นทายาทปกครองมรดกร่วมกันมา ส่วนคดีหลังอ้างสิทธิตามสัญญาประนีประนอมยอมความก็ดี ทั้งนี้เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1109/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแห่นาคไม่ถึงขั้นเป็นพิธีกรรมทางศาสนาตาม ม.173 อาญา
การแห่นาคไปวัดเพื่อจะทำการอุปสมบท เป็นการกระทำตามประเพณีนิยมของชนบางหมู่ยังไม่ถึงขั้นกระทำพิธีกรรมทางศาสนา ตามความหมายใน ม.173
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 981/2561
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จเกี่ยวกับรถหายเพื่อรับเงินประกันภัย ถือเป็นความผิดตามมาตรา 173 ป.อาญา
การที่จำเลยรู้ว่ามิได้เกิดเหตุลักทรัพย์รถกระบะ แต่กลับแจ้งแก่พนักงานสอบสวนว่ามีคนร้ายลักทรัพย์รถกระบะที่จำเลยเช่าซื้อไป เพื่อจะนำเงินที่ได้รับจากบริษัทผู้รับประกันภัยไปชำระค่างวดแก่ธนาคาร ก. ผู้ให้เช่าซื้อ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 173 อันเป็นบทบัญญัติเฉพาะแล้ว ไม่จำต้องปรับบทตามมาตรา 137 อันเป็นบทบัญญัติว่าด้วยการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานทั่ว ๆ ไปอีก และเมื่อไม่เกิดมีความผิดอาญาฐานลักทรัพย์เกิดขึ้นในคดีนี้ จึงไม่เป็นความผิดตามมาตรา 172