พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5585/2543 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง: การดำเนินการตามมาตรา 221 และผลของการไม่ยื่นคำร้องภายในกำหนด
คดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 218วรรคหนึ่ง หากจำเลยประสงค์จะใช้สิทธิฎีกาโดยขอให้ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษารับรองให้ฎีกาตามเงื่อนไขในมาตรา 221 จำเลยก็ต้องดำเนินการใช้สิทธิดังกล่าวให้ถูกต้องเสียก่อนพ้นระยะเวลายื่นฎีกา
คดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จำเลยยื่นฎีกาโดยมิได้ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิตาม ป.วิ.อ.มาตรา 221 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาจำเลย ต่อมาเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลายื่นฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิ่มเติมให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวและให้จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลภายในเวลาศาลชั้นต้นกำหนด ว่าประสงค์จะให้ผู้พิพากษาผู้มีอำนาจอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่ หากไม่ยื่นคำร้องภายในกำหนดก็ให้ถือว่าศาลมีคำสั่งไม่รับฎีกา เท่ากับเป็นการมีคำสั่งขยายระยะเวลาที่เกี่ยวด้วยวิธีพิจารณา ซึ่งคำสั่งเช่นนี้จะกระทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ และศาลได้มีคำสั่งหรือคู่ความมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลานั้น เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ.มาตรา 23 ประกอบ ป.วิ.อ.มาตรา 15 ในเมื่อจำเลยมิได้ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิตามมาตรา 221 จนล่วงพ้นกำหนดยื่นฎีกาและกรณีไม่มีเหตุสุดวิสัยการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งกำหนดวันให้จำเลยดำเนินการดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายปัญหานี้แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา แต่เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
คดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จำเลยยื่นฎีกาโดยมิได้ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิตาม ป.วิ.อ.มาตรา 221 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาจำเลย ต่อมาเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลายื่นฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิ่มเติมให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวและให้จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลภายในเวลาศาลชั้นต้นกำหนด ว่าประสงค์จะให้ผู้พิพากษาผู้มีอำนาจอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่ หากไม่ยื่นคำร้องภายในกำหนดก็ให้ถือว่าศาลมีคำสั่งไม่รับฎีกา เท่ากับเป็นการมีคำสั่งขยายระยะเวลาที่เกี่ยวด้วยวิธีพิจารณา ซึ่งคำสั่งเช่นนี้จะกระทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ และศาลได้มีคำสั่งหรือคู่ความมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลานั้น เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ.มาตรา 23 ประกอบ ป.วิ.อ.มาตรา 15 ในเมื่อจำเลยมิได้ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิตามมาตรา 221 จนล่วงพ้นกำหนดยื่นฎีกาและกรณีไม่มีเหตุสุดวิสัยการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งกำหนดวันให้จำเลยดำเนินการดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายปัญหานี้แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา แต่เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5585/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาต้องห้ามในปัญหาข้อเท็จจริงและการดำเนินการตามมาตรา 221 หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขศาลจะไม่รับฎีกา
คดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่งหากจำเลยประสงค์จะใช้สิทธิฎีกาโดยขอให้ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษารับรองให้ฎีกาตามเงื่อนไขในมาตรา 221จำเลยก็ต้องดำเนินการใช้สิทธิดังกล่าวให้ถูกต้องเสียก่อนพ้นระยะเวลายื่นฎีกา
คดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จำเลยยื่นฎีกาโดยมิได้ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 221 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาจำเลย ต่อมาเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลายื่นฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิ่มเติมให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวและให้จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลภายในเวลาศาลชั้นต้นกำหนดว่าประสงค์จะให้ผู้พิพากษาผู้มีอำนาจอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่ หากไม่ยื่นคำร้องภายในกำหนดก็ให้ถือว่าศาลมีคำสั่งไม่รับฎีกาเท่ากับเป็นการมีคำสั่งขยายระยะเวลาที่เกี่ยวด้วยวิธีพิจารณา ซึ่งคำสั่งเช่นนี้จะกระทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ และศาลได้มีคำสั่งหรือคู่ความมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลานั้น เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23ประกอบ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ในเมื่อจำเลยมิได้ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิตามมาตรา 221 จนล่วงพ้นกำหนดยื่นฎีกาและกรณีไม่มีเหตุสุดวิสัย การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งกำหนดวันให้จำเลยดำเนินการดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ปัญหานี้แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา แต่เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
คดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จำเลยยื่นฎีกาโดยมิได้ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 221 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาจำเลย ต่อมาเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลายื่นฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิ่มเติมให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวและให้จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลภายในเวลาศาลชั้นต้นกำหนดว่าประสงค์จะให้ผู้พิพากษาผู้มีอำนาจอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่ หากไม่ยื่นคำร้องภายในกำหนดก็ให้ถือว่าศาลมีคำสั่งไม่รับฎีกาเท่ากับเป็นการมีคำสั่งขยายระยะเวลาที่เกี่ยวด้วยวิธีพิจารณา ซึ่งคำสั่งเช่นนี้จะกระทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ และศาลได้มีคำสั่งหรือคู่ความมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลานั้น เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23ประกอบ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ในเมื่อจำเลยมิได้ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิตามมาตรา 221 จนล่วงพ้นกำหนดยื่นฎีกาและกรณีไม่มีเหตุสุดวิสัย การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งกำหนดวันให้จำเลยดำเนินการดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ปัญหานี้แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา แต่เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจอนุญาตฎีกาของผู้พิพากษา: ดุลยพินิจเด็ดขาดตามมาตรา 221 ว.พ.พ.
ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221
กฎหมายมอบให้เป็นดุลยพินิจอันเด็ดขาดของผู้พิพากษาผู้มีคำสั่งอนุญาตให้ฎีกา
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2523)
กฎหมายมอบให้เป็นดุลยพินิจอันเด็ดขาดของผู้พิพากษาผู้มีคำสั่งอนุญาตให้ฎีกา
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2523)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2646/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับเนื่องจากคำรับรองไม่เป็นไปตามมาตรา 221 ป.วิ.อาญา เหตุผลไม่ชัดเจนว่าเป็นปัญหาสำคัญ
ฎีกาขอให้ลงโทษจำคุกน้อยลงและรอการลงโทษเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำรับรองของผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาว่า "จำเลยถูกพิพากาษลงโทษโดยกฎหมายซึ่งแก้ไขโทษชั้นต่ำให้สูงจากเดิมมาก สมควรให้ศาลฎีกาวินิจฉัยเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไปจึงรับรองให้จำเลยทั้งหมดฎีกาได้" เป็นคำรับรองที่ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 เพราะไม่ได้ความว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาจึงรับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้ไม่ได้
คำรับรองของผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาว่า "จำเลยถูกพิพากาษลงโทษโดยกฎหมายซึ่งแก้ไขโทษชั้นต่ำให้สูงจากเดิมมาก สมควรให้ศาลฎีกาวินิจฉัยเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไปจึงรับรองให้จำเลยทั้งหมดฎีกาได้" เป็นคำรับรองที่ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 เพราะไม่ได้ความว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาจึงรับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2646/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับเนื่องจากคำรับรองของผู้พิพากษาไม่เป็นไปตามเงื่อนไขมาตรา 221 ป.วิ.อาญา
ฎีกาขอให้ลงโทษจำคุกน้อยลงและรอการลงโทษเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำรับรองของผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาว่า 'จำเลยถูกพิพากษาลงโทษโดยกฎหมายซึ่งแก้ไขโทษขั้นต่ำให้สูงจากเดิมมากสมควรให้ศาลฎีกาวินิจฉัยเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป จึงรับรองให้จำเลยทั้งหมดฎีกาได้' เป็นคำรับรองที่ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 เพราะไม่ได้ความว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด และอนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาจึงรับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้ไม่ได้
คำรับรองของผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาว่า 'จำเลยถูกพิพากษาลงโทษโดยกฎหมายซึ่งแก้ไขโทษขั้นต่ำให้สูงจากเดิมมากสมควรให้ศาลฎีกาวินิจฉัยเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป จึงรับรองให้จำเลยทั้งหมดฎีกาได้' เป็นคำรับรองที่ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 เพราะไม่ได้ความว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด และอนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาจึงรับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 616/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับเนื่องจากขาดคำอนุญาตตามมาตรา 221 แม้มีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ทำความเห็นแย้ง
คดีต้องห้ามฎีกา แต่มีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ทำความเห็นแย้งซึ่งในความเห็นแย้งนั้นไม่มีคำอนุญาตให้ฎีกา ดังนี้ คู่ความจะฎีกาหาได้ไม่