คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
มาตรา 313

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3891/2548 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กักขังเรียกค่าไถ่ด้วยความทารุณโหดร้าย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 313 วรรคสอง
จำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 มีและพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไปที่เคหสถาน อันเป็นที่พักอาศัยของโจทก์ร่วม แล้วใช้อาวุธปืนขู่บังคับโจทก์ร่วมกับรื้อค้นเอาเงินจำนวน 3,000 บาท และนาฬิกาข้อมือราคา 150,000 บาทไป จากนั้นจำเลยเอาเสื้อคลุมศีรษะโจทก์ร่วมบังคับให้ขึ้นรถยนต์ที่ติดเครื่องรออยู่หน้าที่พักอาศัยของโจทก์ร่วมแล้วขับรถนำโจทก์ร่วมไปกักขังไว้ และส่งจดหมายเรียกค่าไถ่ไปยังภริยาและบุตรของโจทก์ร่วมซึ่งอยู่ในต่างประเทศ จนภริยาของโจทก์ร่วมตกลงจ่ายค่าไถ่ให้จำเลยจำนวน 275,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในระหว่างที่โจทก์ร่วมถูกกักขัง จำเลยได้มัดโจทก์ร่วมด้วยโซ่ที่มือ เท้าทั้งสองข้างและใส่กุญแจ และจำเลยควบคุมตัวโจทก์ร่วมอยู่ตลอดเวลา เมื่อโจทก์ร่วมจะถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะ จำเลยทั้งสองจะช่วยถอดกางเกงให้ โจทก์ร่วมถูกกักขังอยู่ในลักษณะดังกล่าวเป็นเวลา 133 วัน จึงหลบหนีออกไปได้ การกระทำของจำเลยทั้งสองทำให้โจทก์ร่วมหมดอิสระในการเคลื่อนไหวร่างกายไปที่อื่นและไม่สามารถประกอบกิจวัตรประจำวันด้วยตนเองได้ตลอดระยะเวลาดังกล่าว เป็นเหตุให้ไม่ได้รับประทานยาแก้โรคเบาหวาน ทำให้อาการกำเริบ มีเลือดปนออกมากับอุจจาระและปัสสาวะ การกระทำของจำเลยต่อโจทก์ร่วมจึงเป็นการกระทำโดยทรมานจนเป็นเหตุให้โจทก์ร่วมได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ จึงเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 313 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3891/2548 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กักขังเรียกค่าไถ่ด้วยการทรมาน: ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 313 วรรคสอง
จำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 มีและพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไปที่ที่พักอาศัยของโจทก์ร่วม แล้วใช้อาวุธปืนนั้นขู่บังคับโจทก์ร่วมกับรื้อค้นเอาเงินจำนวน 3,000 บาท และนาฬิกาข้อมือราคา 150,000 บาท ไป จากนั้นจำเลยทั้งสองเอาเสื้อคลุมศีรษะโจทก์ร่วมบังคับให้ขึ้นรถยนต์นำโจทก์ร่วมไปกักขังไว้บนชั้นที่ 3 ของตึกแถวที่จำเลยที่ 1 เช่าจากผู้อื่น แล้วส่งจดหมายเรียกค่าไถ่ไปยังภริยาและบุตรของโจทก์ร่วมซึ่งอยู่ที่ประเทศไต้หวัน จนภริยาของโจทก์ร่วมตกลงจ่ายค่าไถ่ให้จำเลยทั้งสอง ในระหว่างที่โจทก์ร่วมถูกกักขัง จำเลยทั้งสองได้มัดโจทก์ร่วมด้วยโซ่ที่มือและเท้าทั้งสองข้างและใส่กุญแจ และควบคุมตัวโจทก์ร่วมอยู่ตลอดเวลา โจทก์ร่วมถูกกักขังอยู่เป็นเวลา 133 วัน หมดอิสระในการเคลื่อนไหวร่างกายไปที่อื่น และไม่สามารถประกอบกิจวัตรประจำวันด้วยตนเองได้ เป็นเหตุให้โจทก์ร่วมไม่ได้รับประทานยาแก้โรคเบาหวาน ทำให้อาการกำเริบ มีเลือดปนออกมากับอุจจาระและปัสสาวะ อันเป็นการกระทำที่เลวร้ายยิ่งกว่าการปฏิบัติต่อนักโทษที่ถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำเสียอีกจึงเป็นการกระทำโดยทรมานจนเป็นเหตุให้โจทก์ร่วมได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจแล้ว เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 313 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3891/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กักขังเรียกค่าไถ่โดยทรมาน: จำเลยมีความผิดตามมาตรา 313 วรรคสอง และศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม
จำเลยทั้งสองเข้าไปในที่พักของโจทก์ร่วม แล้วใช้อาวุธปืนขู่บังคับนำตัวโจทก์ร่วมไปกักขังไว้ที่ตึกแถวที่จำเลยที่ 1 เช่าจากผู้อื่น จากนั้นส่งจดหมายเรียกค่าไถ่ไปยังภริยาและบุตรของโจทก์ร่วมซึ่งอยู่ที่ประเทศไต้หวัน ระหว่างโจทก์ร่วมถูกกักขัง จำเลยทั้งสองมัดโจทก์ร่วมด้วยโซ่ที่มือและเท้าทั้งสองข้างและใส่กุญแจ โดยควบคุมตัวโจทก์ร่วมตลอดเวลา เมื่อโจทก์ร่วมจะถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะจำเลยทั้งสองจะช่วยถอดกางเกงให้ โจทก์ร่วมถูกกักขังอยู่เป็นเวลา 133 วัน จึงหลบหนีออกไปได้ การกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าวเห็นได้ว่าโจทก์ร่วมย่อมหมดอิสระในการเคลื่อนไหวร่างกายไปที่อื่น และไม่สามารถประกอบกิจวัตรประจำวันด้วยตนเองได้ตลอดเวลาที่ถูกควบคุม เป็นเหตุให้โจทก์ร่วมไม่ได้รับประทานยาแก้โรคเบาหวาน ทำให้อาการกำเริบ มีเลือดปนออกมากับอุจจาระและปัสสาวะ จึงเป็นการกระทำโดยทรมานจนเป็นเหตุให้โจทก์ร่วมได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 313 วรรคสอง