พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4197/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพรากผู้เยาว์: ศาลพิจารณาเจตนาผู้เสียหายและลงโทษตามมาตรา 319 แทน 318
แม้โจทก์จะฟ้องว่าจำเลยพรากผู้เยาว์โดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจไปด้วยตาม ป.อ. มาตรา 318 แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า ผู้เสียหายเต็มใจไปด้วยกับจำเลยอันเป็นกรณีตาม ป.อ. 319 ซึ่งมีโทษเบากว่า ศาลฎีกาย่อมลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 319 ได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 740/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพรากผู้เยาว์เพื่ออนาจาร: ความสมัครใจของผู้เสียหายมีผลต่อการลงโทษ
จำเลยพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์เต็มใจ ไปด้วยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 วรรคแรก แม้โจทก์จะฟ้องว่าจำเลยพรากผู้เยาว์ โดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจไปด้วยตามมาตรา 318 แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าผู้เสียหายเต็มใจไปด้วยกับจำเลยอันเป็นกรณีตามมาตรา 319 ซึ่งมีโทษเบากว่า ศาลก็ย่อม ลงโทษจำเลยตามมาตรา 319 ได้ เพราะการพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารจะโดยผู้เยาว์เต็มใจไปด้วยหรือไม่ก็ตามประมวลกฎหมายอาญาก็บัญญัติว่าเป็นความผิดอยู่แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1559/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร แม้ผู้เยาว์ไม่ได้เต็มใจ ศาลปรับบทลงโทษตามมาตรา 319
จำเลยได้เสียกับผู้เยาว์อายุ 16 ปี แล้วชวนผู้เยาว์ไปอยู่ด้วยกัน ถ้าไม่ไปจะเปิดเผยเรื่องที่ได้เสียกัน ผู้เยาว์กลัวคำขู่จึงยอมไปกับจำเลย จะถือว่าผู้เยาว์เต็มใจไปด้วยกับจำเลยหาได้ไม่
หลังจากจำเลยได้พาผู้เยาว์ตระเวนไปตามจังหวัดต่างๆ แล้วจำเลยจะให้ผู้เยาว์ไปมีอาชีพเป็นหญิงนั่งชั่วโมงตามร้านอาหาร ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นอาชีพที่เกี่ยวกับกามารมณ์ มิใช่จำเลยมุ่งหมายจะเลี้ยงดูผู้เยาว์เป็นภรรยา จึงถือได้ว่าจำเลยพาผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319แม้ทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามมาตรา 318 ศาลก็ปรับบทลงโทษจำเลยตามมาตรา 319 ได้ (อ้างฎีกาที่119/2517)
ในชั้นฎีกาคดีมีปัญหาแต่เฉพาะข้อกฎหมาย ซึ่งศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วนั้น ถ้าข้อเท็จจริงเท่าที่ศาลอุทธรณ์ฟังมานั้นไม่พอแก่การวินิจฉัย ศาลฎีกาย่อมหยิบยกข้อเท็จจริงอื่นๆ ในสำนวนขึ้นพิจารณาประกอบได้ (อ้างฎีกาที่ 1094/2507)
หลังจากจำเลยได้พาผู้เยาว์ตระเวนไปตามจังหวัดต่างๆ แล้วจำเลยจะให้ผู้เยาว์ไปมีอาชีพเป็นหญิงนั่งชั่วโมงตามร้านอาหาร ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นอาชีพที่เกี่ยวกับกามารมณ์ มิใช่จำเลยมุ่งหมายจะเลี้ยงดูผู้เยาว์เป็นภรรยา จึงถือได้ว่าจำเลยพาผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319แม้ทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามมาตรา 318 ศาลก็ปรับบทลงโทษจำเลยตามมาตรา 319 ได้ (อ้างฎีกาที่119/2517)
ในชั้นฎีกาคดีมีปัญหาแต่เฉพาะข้อกฎหมาย ซึ่งศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วนั้น ถ้าข้อเท็จจริงเท่าที่ศาลอุทธรณ์ฟังมานั้นไม่พอแก่การวินิจฉัย ศาลฎีกาย่อมหยิบยกข้อเท็จจริงอื่นๆ ในสำนวนขึ้นพิจารณาประกอบได้ (อ้างฎีกาที่ 1094/2507)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1927/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร แม้ผู้เยาว์ยินยอม ศาลลงโทษตาม ม.319 ได้
หญิงผู้เสียหายอายุ 16 ปี ยังอยู่ในความปกครองของบิดามารดา จำเลยมีภรรยาและบุตรอยู่แล้ว ได้พาผู้เสียหายไปด้วยความยินยอมของผู้เสียหาย และกระทำชำเราผู้เสียหายโดยผู้เสียหายก็สมัครใจ ดังนี้ ก็ถือว่าจำเลยพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 318 ซึ่งมีโทษหนักกว่าโดยอ้างว่าผู้เสียหายไม่เต็มใจไปด้วย ข้อเท็จจริงได้ความว่าผู้เสียหายเต็มใจไปด้วยกับจำเลย อันเป็นกรณีตามมาตรา 319 ซึ่งมีโทษเบากว่า ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรา319 ได้ เพราะการพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร จะโดยลักษณะที่ผู้เยาว์เต็มใจไปด้วยหรือไม่เต็มใจไปด้วยประมวลกฎหมายอาญาก็บัญญัติว่าเป็นความผิดอยู่แล้ว
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 318 ซึ่งมีโทษหนักกว่าโดยอ้างว่าผู้เสียหายไม่เต็มใจไปด้วย ข้อเท็จจริงได้ความว่าผู้เสียหายเต็มใจไปด้วยกับจำเลย อันเป็นกรณีตามมาตรา 319 ซึ่งมีโทษเบากว่า ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรา319 ได้ เพราะการพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร จะโดยลักษณะที่ผู้เยาว์เต็มใจไปด้วยหรือไม่เต็มใจไปด้วยประมวลกฎหมายอาญาก็บัญญัติว่าเป็นความผิดอยู่แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 814/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกสัญญาก่อนฟ้องคดี และสิทธิในการเรียกร้องเงินที่ชำระไปแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 319
พฤติการณ์ที่แสดงว่าคู่สัญญาตกลงเลิกสัญญากันแล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยโอนที่ดิน ถ้าบังคับไม่ได้ก็ขอให้คืนเงินที่โจทก์ชำระไปแล้วกับค่าเสียหายอีกด้วยโดยอ้างว่าจำเลยกระทำผิดสัญญา ทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์จำเลยได้ยินยอมเลิกสัญญากันแล้วดังนี้ ศาลพิพากษาให้จำเลยคืนเงินที่โจทก์ชำระไว้แล้วตามมาตรา 319 ได้ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ
สัญญาซื้อขายที่ดิน มีข้อตกลงว่าชำระราคาค่าที่ดินครบถ้วนแล้วจะไปทำโอนกันนั้น มีผลเป็นสัญญาจะซื้อขายเท่านั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยโอนที่ดิน ถ้าบังคับไม่ได้ก็ขอให้คืนเงินที่โจทก์ชำระไปแล้วกับค่าเสียหายอีกด้วยโดยอ้างว่าจำเลยกระทำผิดสัญญา ทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์จำเลยได้ยินยอมเลิกสัญญากันแล้วดังนี้ ศาลพิพากษาให้จำเลยคืนเงินที่โจทก์ชำระไว้แล้วตามมาตรา 319 ได้ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ
สัญญาซื้อขายที่ดิน มีข้อตกลงว่าชำระราคาค่าที่ดินครบถ้วนแล้วจะไปทำโอนกันนั้น มีผลเป็นสัญญาจะซื้อขายเท่านั้น