พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรม: ยาสูบเถื่อน & เครื่องหมายการค้าปลอม - โทษปรับตามอัตรากฎหมาย
การมีไว้ในครอบครองและมีไว้เพื่อขายซึ่งบุหรี่ซิกาแรต ซึ่งเป็นยาสูบที่ผลิตในต่างประเทศอันเป็นยาสูบที่มีน้ำหนักเกินกว่าห้าร้อยกรัมซึ่งมิได้ปิดแสตมป์ยาสูบตามกฎหมายเป็นความผิดต่อ พ.ร.บ.ยาสูบ ฯ ส่วนการมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเป็นความผิดต่อ พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า ฯ ความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ที่มีโทษทางอาญาคนละฉบับกันมีองค์ประกอบความผิดแตกต่างกัน สามารถแยกการกระทำต่างหากจากกันได้ประกอบกับโจทก์บรรยายฟ้องข้อหามียาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบตามกฎหมายไว้ในครอบครองเกินกว่าห้าร้อยกรัม และข้อหามีไว้เพื่อขายซึ่งยาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบตามกฎหมายในฟ้องข้อหนึ่ง และบรรยายความผิดข้อหามีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมแยกมาในฟ้องอีกข้อหนึ่ง โดยอ้าง ป.อ. มาตรา 91 มาด้วยเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ จึงรับฟังได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
ส่วนการที่จำเลยมียาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบไว้ในครอบครองเกินกว่าห้าร้อยกรัมและมีไว้เพื่อขายซึ่งยาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบ จำเลยมีเจตนามุ่งประสงค์ต่อผลอย่างเดียวกันคือการหลีกเลี่ยงที่จะไม่ต้องเสียภาษีอากรตามกฎหมาย จึงเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทต้องลงโทษในความผิดฐานมีไว้เพื่อขายซึ่งยาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบตาม พ.ร.บ.ยาสูบ ฯ มาตรา 24 วรรคหนึ่ง, 50 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด
ส่วนการที่จำเลยมียาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบไว้ในครอบครองเกินกว่าห้าร้อยกรัมและมีไว้เพื่อขายซึ่งยาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบ จำเลยมีเจตนามุ่งประสงค์ต่อผลอย่างเดียวกันคือการหลีกเลี่ยงที่จะไม่ต้องเสียภาษีอากรตามกฎหมาย จึงเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทต้องลงโทษในความผิดฐานมีไว้เพื่อขายซึ่งยาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบตาม พ.ร.บ.ยาสูบ ฯ มาตรา 24 วรรคหนึ่ง, 50 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6575/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท – ยาสูบเถื่อน & แสตมป์ปลอม – ลดโทษ & ยกฟ้อง
การที่จำเลยช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งยาสูบอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลักเลี่ยงอากร อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ มาตรา 27 ทวิ แล้วจำเลยมีไว้ในครอบครอง และมีไว้เพื่อขาย ซึ่งบุหรี่จำนวนเดียวกันอันเป็นยาสูบที่มีน้ำหนักเกินกว่าห้าร้อยกรัม ซึ่งมิได้ปิดแสตมป์ยาสูบตามกฎหมาย ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาสูบฯ มาตรา 19 วรรคหนึ่ง และมาตรา 24 วรรคหนึ่ง นั้น แม้การกระทำนี้จะผิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับหลายมาตรา แต่ก็เป็นการกระทำที่มุ่งประสงค์ต่อผลอย่างเดียวกัน คือการหลีกเลี่ยงที่จะไม่ต้องเสียภาษีอากรตามกฎหมาย ฉะนั้น การกระทำของจำเลยจึงถือว่าเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษฐานช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งยาสูบที่มีผู้นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงอากรตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ มาตรา 27 ทวิ อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดเพียงบทเดียว
พ.ร.บ.ยาสูบฯ มาตรา 43 ดังกล่าว มุ่งประสงค์ลงโทษผู้กระทำความผิดที่มีแสตมป์ยาสูบปลอมไว้เพื่อขายหรือเพื่อนำออกใช้โดยตรงเท่านั้น ข้อเท็จจริงในคดีนี้ปรากฏตามคำฟ้องว่า แสตมป์ยาสูบดังกล่าวมีผู้ทำปลอมขึ้นขึ้นและถูกนำมาปิดอยู่บนซองบรรจุยาสูบของกลางแต่ละซองที่จำเลยมีไว้เพื่อขายอยู่แล้ว ซึ่งในการมีไว้เพื่อขายยาสูบแต่ละซองแม้จะมีแสตมป์ปลอมปิดอยู่บนซองด้วยก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาที่จะมีแสตมป์ยาสูบปลอมดวงนั้นๆ ไว้เพื่อขายหรือเพื่อนำออกใช้ตามความหมายของบทบัญญัติดังกล่าว ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดและลงโทษจำเลยฐานนี้ แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นอุทธรณ์แต่ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศจึงมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและพิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับความผิดฐานนี้เสียได้
พ.ร.บ.ยาสูบฯ มาตรา 43 ดังกล่าว มุ่งประสงค์ลงโทษผู้กระทำความผิดที่มีแสตมป์ยาสูบปลอมไว้เพื่อขายหรือเพื่อนำออกใช้โดยตรงเท่านั้น ข้อเท็จจริงในคดีนี้ปรากฏตามคำฟ้องว่า แสตมป์ยาสูบดังกล่าวมีผู้ทำปลอมขึ้นขึ้นและถูกนำมาปิดอยู่บนซองบรรจุยาสูบของกลางแต่ละซองที่จำเลยมีไว้เพื่อขายอยู่แล้ว ซึ่งในการมีไว้เพื่อขายยาสูบแต่ละซองแม้จะมีแสตมป์ปลอมปิดอยู่บนซองด้วยก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาที่จะมีแสตมป์ยาสูบปลอมดวงนั้นๆ ไว้เพื่อขายหรือเพื่อนำออกใช้ตามความหมายของบทบัญญัติดังกล่าว ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดและลงโทษจำเลยฐานนี้ แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นอุทธรณ์แต่ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศจึงมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและพิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับความผิดฐานนี้เสียได้