คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยิงตอบโต้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 552/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายที่เกินสมควรแก่เหตุจากการทำร้ายร่างกายและการยิงตอบโต้
ผู้เสียหายที่ 1 กับจำเลยมีสาเหตุกันอยู่ก่อนแล้วแต่หลังจากนั้นผู้เสียหายที่ 1 กับจำเลยก็แยกกันไปสาเหตุครั้งแรกจึงสิ้นสุดไปแล้ว เมื่อต่อมาผู้เสียหายที่ 1พาส.มาพบจำเลยในลักษณะที่ฝ่ายผู้เสียหายที่ 1มีจำนวนมากกว่าแล้วผู้เสียหายที่ 1 เข้าตบหน้าจำเลยอันเป็นการประทุษร้ายต่อจำเลยเช่นนี้ จำเลยย่อมมีสิทธิป้องกันตัวได้ แต่การที่จำเลยใช้ปืนซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงยิงผู้เสียหายที่ 1 ถึง 2 นัด โดยเฉพาะการยิงนัดที่ 2ในขณะที่ผู้เสียหายที่ 1 ได้วิ่งหนีไปแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 69

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4077/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย: การยิงตอบโต้ในสถานการณ์ที่ถูกยิงก่อนในพื้นที่เสี่ยง
ขณะเกิดเหตุมีเสียงปืนจากทางฝ่ายผู้ตายก่อน ขณะนั้นเป็นยามวิกาลและหมู่บ้านที่เกิดเหตุมีโจรผู้ร้ายชุกชุมย่อมมีเหตุอันสมควรที่จำเลย จะเข้าใจว่า ฝ่ายผู้ตายซึ่งใช้อาวุธปืนยิงก่อนนั้นเป็นคนร้ายและใช้อาวุธปืนยิงใส่ตนซึ่งขณะนั้นอยู่ห่างกันเพียงประมาณ 15 เมตร และจำเลยที่ 1 ไม่อาจทราบได้ว่าจะมีการใช้อาวุธปืนยิงใส่ตนอีกหรือไม่ การที่จำเลยใช้อาวุธปืนคาร์ไปน์ยิงไปที่ผู้ตายทั้งชุดในภาวะเช่นนั้น จึงมิใช่เป็นการกระทำด้วยความประมาทและถือได้ว่าเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3167/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงตอบโต้หลังถูกทำร้าย: ป้องกันตัวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เข้าข่ายบันดาลโทสะ ศาลลดโทษเนื่องจากเหตุการณ์เชื่อมโยง
จำเลยถูกโจทก์ร่วมแทงที่ไหปลาร้า จำเลยโกรธ ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ แล้วกลับมาที่ร้านของตนเล่าเรื่องให้ภริยาทราบ เอาปืนจากร้านตนกลับไปยิงโจทก์ร่วมที่บริษัทที่โจทก์ร่วมอยู่ เมื่อในขณะที่จำเลยยิงโจทก์ร่วม โจทก์ร่วมไม่ได้ทำร้ายหรือกำลังจะทำร้ายจำเลยจึงไม่มีภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายที่ใกล้จะถึง การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายและถือไม่ได้ว่า จำเลยได้กระทำผิดต่อสู้ข่มเหงในขณะที่ถูกข่มเหงจึงไม่เป็นการกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1988/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยป้องกันตนเองจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธร้ายแรง โดยใช้ปืนยิงตอบโต้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ไม้ที่ผู้ตายจะใช้ตีจำเลยมีขนาดใหญ่และยาวพอสมควรที่จะใช้เป็นอาวุธตีจำเลยให้ถึงแก่ความตายได้ และขณะนั้นผู้ตายมีอาการมึนเมาสุราย่อมขาดความยับยั้ง จำเลยกำลังปฏิบัติหน้าที่เป็นยามป้องกันทรัพย์สินของโรงงาน และสัญชาตญาณป้องกันตนเองจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงไปทางผู้ตายโดยกะทันหันทันที แม้กระสุนจะถูกผู้ตายที่หน้าอกก็ยังไม่พอฟังว่าจำเลยเลือกยิงตรงหน้าอกเพราะเป็นเวลาฉุกละหุกไม่มีโอกาสที่จำเลยจะเลือกยิงส่วนใดของผู้ตายหรือยิงขู่ได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3232/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยบันดาลโทสะหลังจากการวิวาทและการยิงตอบโต้
ก่อนเกิดเหตุ ก. และบุตรกับจำเลยทั้งสองทะเลาะวิวาทและชกต่อยทำร้ายร่างกายกันอันเป็นการสมัครใจวิวาท แล้ว ก.ใช้ปืนไล่ยิงจำเลยที่ 1 แต่ไม่ถูกซึ่งเป็นเหตุที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งสองกลับบ้านเอาปืนไปยิงเข้าไปในร้านของ ก.ถูก ว. ได้รับบาดเจ็บ จำเลยทั้งสองจะอ้างว่าถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำไปโดยบันดาลโทสะหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2494/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: ยิงตอบโต้หลังถูกข่มขู่และชักปืนก่อน แม้เป็นฝ่ายป้องกันตัว แต่การยิงหลายนัดและถูกยิงด้านหลังถือเกินกว่าเหตุ
จำเลยที่ 2 พูดทำนองจะฆ่าจำเลยที่ 1 ว่า "มึงตายเสียเถอะไอ้อู๋" และชักปืนออกมาก่อน แม้จะยังไม่ทันได้ยิงเพราะถูกผู้อื่นตบแขน แต่ปืนก็ยังอยู่ในมือประกอบกับห้างนาที่เกิดเหตุกว้างเพียง 4 เมตร ยาว 6 เมตร นับว่าอยู่ในระยะประชิดตัวกัน ดังนี้จำเลยที่ 1 จำต้องยิงจำเลยที่ 2 เพื่อป้องกันตัวได้แต่การที่จำเลยทั้งสองยิงกันหลายนัด จำเลยที่ 2 มีบาดแผลถูกกระสุนปืนที่ด้านหลังและที่ใต้รักแร้ แพทย์ผู้ตรวจและรักษาว่าถูกยิงข้างหลังนั้นการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการป้องกันตัวเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2494/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินกว่ากรณีจำเป็น: การยิงตอบโต้หลังถูกข่มขู่และชักปืน
จำเลยที่ 2 พูดทำนองจะฆ่าจำเลยที่ 1 ว่า "มึงตายเสียเถอะไอ้อู๋"และชักปืนออกมาก่อนแม้จะยังไม่ทันได้ยิงเพราะถูกผู้อื่นตบแขน แต่ปืนก็ยังอยู่ในมือประกอบกับห้างนาที่เกิดเหตุกว้างเพียง 4 เมตร ยาว 6เมตร นับว่าอยู่ในระยะประชิดตัวกันดังนี้จำเลยที่ 1 จำต้องยิงจำเลยที่ 2 เพื่อป้องกันตัวได้แต่การที่จำเลยทั้งสองยิงกันหลายนัด จำเลยที่ 2 มีบาดแผลถูกกระสุนปืนที่ด้านหลังและที่ใต้รักแร้แพทย์ผู้ตรวจและรักษาว่าถูกยิงข้างหลังนั้นการกระทำของจำเลยที่1เป็นการป้องกันตัวเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1428/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันเกินสมควร: การยิงตอบโต้หลังถูกแทงด้วยมีด
ผู้ตายไล่จ้วงแทงจำเลยด้วยมีด ตัวมีดยาวคืบเศษ จำเลยยิงด้วยปืนพก 7.65 ม.ม. 7 นัด เมื่ออยู่ห่าง 1 วา กระสุน 1 นัดพลาดไปถูกผู้อื่นบาดเจ็บ เป็นการกระทำเพื่อป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ความผิดฐานฆ่าคนและพยายามฆ่าคนเป็นกรรมเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1699/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงตอบโต้หลังถูกทำร้ายไม่ถือเป็นการป้องกันตัว หากภยันตรายพ้นไปแล้ว และอาจเข้าข่ายบันดาลโทสะ
จำเลยถูกยิง แล้วเห็นคนที่ยิงวิ่งออกไปจากใต้ถุนเลี้ยวไปทางทิศใต้แล้วเลี้ยวไปทางทิศตะวันตก จำได้ว่าเป็นโจทก์ร่วม จำเลยจึงได้ยิงตามไปถูกโจทก์ร่วมเช่นนี้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิตามกฎหมาย เพราะภยันตรายที่จำเลยได้รับนั้นผ่านพ้นไปแล้ว พฤติการณ์เห็นได้ว่า จำเลยได้ยิงโจทก์ร่วมตอบไปนั้นก็เพราะบันดาลโทสะ โดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72ปัญหานี้ แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
หมายเหตุ คดีนี้มีจำเลยหลายคน จำเลยในที่นี้หมายถึงจำเลยที่ 1 (ดูข้อเท็จจริง)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1598/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบธรรม: การยิงตอบโต้เพื่อป้องกันภยันตรายจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธ
ขณะเกิดเหตุผู้ตายเรียกจำเลยไปหา กล่าวหาว่าจำเลยขัดขวางผู้ตายและพูดเป็นทำนองจะฆ่าจำเลย พร้อมทั้งชักปืนจะยิงจำเลยก่อนในระยะใกล้เพียง 2 ศอก จำเลยจึงยิงโต้ตอบผู้ตายในขณะนั้น ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง อันจำเลยจำต้องกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตน
การทะเลาะกันด้วยวาจาแล้วฝ่ายหนึ่งทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่งถ้าฝ่ายที่ถูกทำร้ายมิได้สมัครใจทำร้ายโต้ตอบด้วย ฝ่ายที่ถูกทำร้ายย่อมป้องกันสิทธิของตนได้โดยชอบด้วยกฎหมายเพราะเพียงทะเลาะกันด้วยวาจาไม่ทำให้ฝ่ายหนึ่งทำร้ายร่างกายหรือชีวิตของอีกฝ่ายหนึ่งได้โดยชอบ ต่อเมื่อฝ่ายหลังสมัครใจทำร้ายโต้ตอบ จึงจะเป็นเรื่องต่างฝ่ายต่างสมัครใจซึ่งกันและกันอันเป็นการละเมิดต่อกฎหมายด้วยกันฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจึงจะอ้างว่ากระทำเพื่อป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายมิได้
บริเวณที่เกิดเหตุเป็นที่โล่ง เมื่อผู้ตายชักปืนจะยิงจำเลย จำเลยกระโดดหนีไปข้างหลังผู้ตายในระยะใกล้ เห็นได้ว่าจำเลยยังไม่พ้นภยันตรายที่จะถูกผู้ตายยิง ในเวลาฉุกละหุกเช่นนี้จำเลยย่อมตัดสินใจกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนได้ตามควรแก่กรณีโดยไม่จำต้องวิ่งหนี การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุกรณีเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายซึ่งผู้กระทำไม่มีความผิด
of 2