พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5531/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความยินยอมจำนองและการสัตยาบันหนี้: หนี้ร่วมผูกพันสินสมรสและสินส่วนตัว
ผู้ร้องในฐานะภรรยาของจำเลยที่ 2 ลงชื่อให้ความยินยอมในการทำนิติกรรมจำนองที่ดิน แม้หนังสือยินยอมจะไม่ได้ทำที่สำนักงานที่ดิน และต่อเจ้าพนักงานที่ดินก็มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายไม่ขัดต่อ ป.พ.พ. มาตรา 1479 หนังสือยินยอมระบุว่า กิจการใดที่จำเลยที่ 2 ได้กระทำไปผู้ร้องร่วมรับผิดชอบในนิติกรรมนั้นด้วย เสมือนหนึ่งผู้ร้องได้กระทำเองทุกประการ แสดงให้เห็นว่าผู้ร้องได้รับรู้ถึงหนี้สินที่จำเลยที่ 2ได้ก่อให้เกิดขึ้น และถือได้ว่าผู้ร้องให้สัตยาบันหนี้ดังกล่าวจึงเป็นหนี้ร่วมตาม ป.พ.พ. มาตรา 1490 ต้องผูกพันที่ดินและทรัพย์สินอื่นรวมทั้งส่วนของผู้ร้องด้วย ไม่ว่าจะเป็นสินสมรสและสินส่วนตัว ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1489 ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขอกันส่วน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3693/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมจำนองสินสมรส & การดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีเมื่อคู่ความไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล
ในระหว่างไต่สวนคำร้องขอกันส่วนของผู้ร้อง ศาลสั่งให้ผู้ร้องวางเงินประกันความเสียหายตามคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์แม้ผู้ร้องจะอุทธรณ์คำสั่ง ศาลก็มิได้สั่งงดสืบพยานโจทก์ซึ่งได้นัดไว้แล้ว และผู้ร้องทราบนัดแล้ว โจทก์และผู้ร้องจึงต้องไปศาลตามนัดเมื่อผู้ร้องไม่ไปศาล ศาลชอบที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป จำเลยได้รับสำเนาคำร้องขอกันส่วนแล้วไม่คัดค้าน กรณีเป็นเรื่องพิพาทระหว่างผู้ร้องกับโจทก์ ศาลไม่จำต้องนัดสืบพยานจำเลย คำยินยอมของสามีหรือภรรยาเพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งทำนิติกรรมกฎหมายมิได้บัญญัติให้ทำต่อหน้าเจ้าพนักงาน เมื่อผู้ร้องซึ่งเป็นภรรยาจำเลยรับว่าหนังสือยินยอมเป็นหนังสือของผู้ร้องที่ถูกต้องแท้จริงแล้ว การที่จำเลยนำหนังสือยินยอมดังกล่าวไปใช้จดทะเบียนจำนองที่ดิน การจำนองย่อมไม่เป็นโมฆะ ผู้ร้องทำหนังสือให้ความยินยอมจำเลยซึ่งเป็นสามีทำนิติกรรมเกี่ยวกับการแก้ไขหนี้จำนองรวมทั้งกิจการอื่นที่กระทำไปโดยผู้ร้องขอร่วมรับผิดชอบในนิติกรรมนั้นเสมือนผู้ร้องได้กระทำเองทุกประการ ถือว่าผู้ร้องยอมให้สัตยาบันหนี้ที่เกิดขึ้นว่าเป็นหนี้ร่วมระหว่างจำเลยกับผู้ร้อง จำนองจึงต้องผูกพันที่ดินทั้งหมดรวมทั้งส่วนของผู้ร้องด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1792/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องขัดทรัพย์: ศาลไม่จำเป็นต้องรับคำร้องหากไม่มีเหตุแก้ไข & การยินยอมให้ผู้อื่นจำนองทรัพย์สินโดยไม่เปิดเผยตัวตน
การที่ศาลชั้นต้นตรวจคำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้อง เมื่อไม่มีเหตุที่ศาลชั้นต้นจะต้องมีคำสั่งให้คืนไปให้ทำมาใหม่หรือแก้ไขเพิ่มเติมแล้วศาลชั้นต้นก็ต้องสั่งให้รับไว้ คำร้องขัดทรัพย์จะแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาหรือไม่นั้น ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องพิจารณาในชั้นตรวจคำร้องขัดทรัพย์ ตามคำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้องที่อ้างว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของที่ดินทั้งสามแปลงที่โจทก์นำยึดโดยใส่ชื่อ จำเลยไว้ในโฉนด แทนนั้นหากเป็นความจริงก็เป็นเรื่องที่ผู้ร้องซึ่งเป็นตัวการไม่เปิดเผยชื่อ ยอมให้จำเลยผู้เป็นตัวแทนทำการออกหน้าเป็นตัวการนำที่ดินพิพาททั้งสามแปลงไปจำนองกับโจทก์ ผู้ร้องจึงหาอาจทำให้เสื่อมเสียแก่สิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่มีต่อจำเลยผู้เป็นตัวแทนและขวนขวายได้สิทธิมาก่อนที่จะรู้ว่าจำเลยเป็นตัวแทนของผู้ร้องได้ไม่ ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขัดทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของรวมยินยอมจำนองทรัพย์ส่วนรวม มีผลผูกพันกับส่วนของผู้ยินยอม
จำเลยเอาห้องแถวซึ่งผู้ร้องเป็นเจ้าของร่วมอยู่ด้วยไปจำนองกับโจทก์ไว้ โดยผู้ร้องรู้เห็นยินยอมด้วยการจำนองรายนี้จึงมีผลผูกพันทรัพย์ที่ยึดซึ่งเป็นส่วนของผู้ร้องด้วย