คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยึดถือเพื่อตน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4001-4002/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน: การยึดถือเพื่อตน แม้ยังไม่ได้จดทะเบียน โอนสิทธิให้ผู้รับโอนไม่ได้
จำเลยที่ 1 ขายที่ดินพิพาทมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่โจทก์ที่ 1 แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยยอมให้โจทก์ที่ 1 เข้าครอบครองที่ดินพิพาท และจำเลยที่ 1 ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาทนับเป็นการสละเจตนาครอบครองและไม่ยึดถือที่ดินพิพาทต่อไป การที่โจทก์ที่ 1 ครอบครองต่อมาและชำระภาษีบำรุงท้องที่มาตลอดจึงเป็นการยึดถือโดยเจตนาจะยึดเพื่อตน โจทก์ที่ 1 ย่อมได้สิทธิครอบครองที่ดินพิพาท แม้ต่อมาจำเลยที่ 1 จะทำนิติกรรมจดทะเบียนขายที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยที่ 2 และมีชื่อจำเลยที่ 2 เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทก็เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเบื้องต้นตาม ป.พ.พ. มาตรา 1373 การที่จำเลยที่ 1 ทำสัญญาขายและจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยที่ 2 ในขณะที่จำเลยที่ 1 ไม่มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทแล้ว แม้จะมีชื่อจำเลยที่ 2 ในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในฐานะผู้รับโอน ก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท
เมื่อคดีทั้งสองสำนวนศาลชั้นต้นสั่งให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน แต่ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยไม่แยกเป็นรายสำนวนนั้นไม่ถูกต้อง เพราะจำเลยที่ 1 ไม่ได้เป็นคู่ความในสำนวนแรก และโจทก์ที่ 2 และที่ 3 ไม่ได้เป็นคู่ความในสำนวนหลัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5003/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินพิพาท: การยึดถือเพื่อตนและการขาดการโต้แย้งสิทธิ
พ. เจ้ามรดกมิได้ยกที่ดินพิพาทให้จำเลยตั้งแต่ก่อนตายเมื่อพ.ตายที่ดินพิพาทจึงเป็นทรัพย์มรดกของพ.และตกทอดแก่ทายาทตามกฎหมาย แต่โจทก์ฟ้องคดีโดยอ้างประเด็นแห่งคดีมาให้คำฟ้องว่า ที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์มรดกของพ. ผู้ตายโจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของพ.ไม่สามารถขอรับโอนมรดกได้ เพราะจำเลยไปขอออก น.ส.3 ในชื่อจำเลยเสียก่อนดังนี้ คดีจึงไม่มีประเด็นว่าจำเลยได้ครอบครองที่ดินพิพาทแทนทายาทหรือไม่ การที่โจทก์เพิ่งมาขอให้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดกของพ.เจ้ามรดกและฟ้องเป็นคดีนี้เพื่อเรียกที่ดินคืนจากจำเลยโดยอ้างว่าเป็นมรดกของพ.หลังจากพ.ตายนานถึง8 ปีเศษ ทั้งการที่ที่ฝ่ายโจทก์เข้าไปเก็บมะพร้าวในที่ดินพิพาทโดยถือวิสาสะในฐานะญาติมากกว่าเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินพิพาท โดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน เมื่อปรากฏว่าจำเลยเป็นฝ่ายยึดถือครอบครองที่ดินพิพาทแต่ฝ่ายเดียวตั้งแต่พ.ตายตลอดมาโดยมีเจตนาจะยึดถือเพื่อตนจนไปขอออก น.ส.3โดยโจทก์ไม่ดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดินพิพาทหรือโต้แย้งแต่ประการใด ดังนี้ จำเลยย่อมได้ไปซึ่งสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367และ 1369

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2831/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตนหลังทำสัญญาซื้อขายและผู้ขายมอบการครอบครอง
บ.ทำสัญญาขายที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่โจทก์ แต่ขณะทำสัญญา บ. ป่วยไม่สามารถไปจัดการโอนได้และได้มอบที่ดินให้โจทก์เข้าครอบครองนับแต่วันทำสัญญา การที่ บ.ยอมให้โจทก์เข้าครอบครองที่ดินดังกล่าวนับเป็นการสละเจตนาครอบครองและไม่ยึดถือที่ดินนั้นต่อไป ดังนั้น ที่โจทก์ได้เข้าครอบครองที่ดินต่อมาจึงเป็นการยึดถือโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน โจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 413/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์หลังสัญญาจะซื้อขายไม่สมบูรณ์ จำเลยสละการครอบครอง โจทก์ยึดถือเพื่อตน
จำเลยทำสัญญาจะขายที่นาพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าให้แก่ ก. สามีโจทก์ และได้ส่งมอบการครอบครองให้ตั้งแต่วันทำสัญญาแล้ว โดยมีข้อตกลงกันว่าจะไปขอออก น.ส.3 แล้วจดทะเบียนโอนในภายหลัง. ต่อมาจำเลยและสามีโจทก์ไปยื่นเรื่องราวขอขายและขอออก น.ส.3 ต่อทางการ แต่ในที่สุดทางการไม่ออก น.ส.3 ให้จึงยังมิได้จดทะเบียนโอนตามที่ตกลงกันไว้ แม้สามีโจทก์เข้าครอบครองที่นาพิพาทตอนแรกตามสัญญาจะซื้อขายเป็นการครอบครองแทนจำเลยผู้ขายก็ตาม แต่ภายหลังจากที่ไม่สามารถออก น.ส.3 ได้ สามีโจทก์ก็ได้ไปแจ้งการครอบครองและนำสำรวจเสียภาษีบำรุงท้องที่ เมื่อสามีโจทก์ตายโจทก์ได้เอาที่นาพิพาทให้จำเลยเช่า พฤติการณ์แห่งคดีเช่นนี้เป็นที่เห็นได้ว่า เมื่อจำเลยไม่สามารถที่จะออก น.ส.3 สำหรับที่พิพาทเพื่อจดทะเบียนสิทธิโอนที่นาพิพาทให้แก่สามีโจทก์แล้ว ทั้งจำเลยและสามีโจทก์ก็ไม่ได้คำนึงถึงการที่จะทำการจดทะเบียนสิทธิที่นาพิพาทให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป ถือได้ว่าจำเลยสละการครอบครองที่นาพิพาทให้แก่สามีโจทก์และโจทก์โดยเด็ดขาดแล้ว สามีโจทก์และโจทก์ได้ยึดถือที่นาพิพาทโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตนจึงเป็นเจ้าของผู้มีสิทธิครอบครองที่นาพิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 585/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิครอบครองที่ดินโดยการส่งมอบและการยึดถือเพื่อตน แม้จะมีการตกลงเรื่องกรรมสิทธิ์ในภายหลัง
การที่ ถ. ทำหนังสือมอบโอนบ้านและที่ดินให้จำเลยเมื่อที่ดินนั้นเป็นที่ดินมือเปล่า และจำเลยเป็นผู้อาศัยอยู่ในที่ดินนั้น เป็นการแสดงเจตนาสละการครอบครองและส่งมอบที่ดินให้จำเลย การยึดถือที่ดินของจำเลยหลังจากนั้นจึงเป็นการยึดถือเพื่อตน ย่อมได้มาซึ่งสิทธิครอบครองในที่ดินและเมื่อบ้านเป็นส่วนควบของที่ดินจึงตกได้แก่จำเลยผู้มีสิทธิในที่ดินด้วย โดยไม่ต้องทำนิติกรรมการโอนและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่อย่างใดอีก ถึงแม้ต่อมาจำเลยกับ ถ. จะได้ตกลงกันว่าการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินจะโอนให้เมื่อออก น.ส. 3 ก เสร็จแล้ว ก็ไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิครอบครองในที่ดินและบ้านที่จำเลยได้รับการยกให้มาก่อนแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานะจากยึดถือแทนเป็นการยึดถือเพื่อตน ทำให้สิทธิครอบครองเดิมสิ้นสุด และเกิดอายุความ
แม้เดิมจำเลยจะยึดถือที่พิพาทไว้เพื่อทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ อันเป็นการยึดถือไว้แทนนายยะและโจทก์ แต่เมื่อนายยะตาย โจทก์และทายาทของนายยะขอชำระหนี้เงินกู้เพื่อเอาที่พิพาทคืน จำเลยไม่ยอมรับชำระ โดยอ้างว่าที่นาเป็นของจำเลย ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าวโจทก์และทายาทของนายยะว่า จำเลยไม่มีเจตนาจะยึดถือที่พิพาทไว้แทนโจทก์และทายาทของนายยะ เป็นการเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือไว้แทนมาเป็นการยึดถือเพื่อตน อันเป็นการแย่งการครอบครองของโจทก์ และจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทตลอดมา โจทก์มิได้ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองภายในปีหนึ่งนับแต่เวลาที่ถูกแย่งการครอบครอง ย่อมหมดสิทธิที่จะเอาคืนซึ่งการครอบครองที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานะจากยึดถือแทนเป็นการยึดถือเพื่อตน ทำให้หมดสิทธิเรียกคืนการครอบครอง
แม้เดิมจำเลยจะยึดถือที่พิพาทไว้เพื่อทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ อันเป็นการยึดถือไว้แทนนายยะและโจทก์แต่เมื่อนายยะตาย โจทก์และทายาทของนายยะขอชำระหนี้เงินกู้เพื่อเอาที่พิพาทคืน จำเลยไม่ยอม รับชำระโดยอ้างว่าที่นาเป็นของจำเลย ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าว โจทก์และทายาทของนายยะว่า จำเลยไม่มีเจตนาจะยึดถือที่พิพาทไว้ แทนโจทก์และทายาทของนายยะ เป็นการเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือไว้แทนมาเป็นการยึดถือเพื่อตนอันเป็นการแย่งการครอบครองของโจทก์และจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทตลอดมา โจทก์มิได้ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองภายในปีหนึ่งนับแต่เวลาที่ถูกแย่งการครอบครองย่อม หมดสิทธิที่จะเอาคืนซึ่งการครอบครองที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2264/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนายึดถือเพื่อตนเป็นสำคัญในการครอบครองอาวุธปืน แม้มีระยะเวลา แต่ขาดเจตนาไม่ถือว่าผิด
ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ คำว่า มี หมายความว่า มีกรรมสิทธิ์หรือมีไว้ในครอบครอง และคำว่า ครอบครอง นั้น มิได้บัญญัติให้มีความหมายเป็นพิเศษจึงต้องถือว่าต้องมีเจตนายึดถือเพื่อตน ทั้งนี้ตามหลักกฎหมายทั่วไป
การที่ปืนของกลางอยู่ที่บ้านจำเลยโดยเจ้าของปืนนำมาฝากบุตรภรรยาจำเลยไว้ชั่วคราว และลืมทิ้งไว้โดยเจ้าของยังมิได้มารับคืนไป จำเลยเป็นแค่เพียงยึดถือไว้แทนเจ้าของเท่านั้น มิได้ยึดถือเพื่อตน แม้การยึดถือปืนจะมีระยะเวลา 3 - 4 วัน มิใช่เพียงชั่วขณะหนึ่ง แต่เมื่อไม่มีพฤติการณ์เศษที่จะแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนายึดถือเพื่อตน จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองปืนของกลางอันเป็นความผิดตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2264/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนายึดถือเพื่อตนเป็นสำคัญในการครอบครองอาวุธปืน แม้จะเก็บรักษาไว้นาน หากมิได้มีเจตนาเป็นเจ้าของ ไม่ถือว่ามีความผิด
ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯคำว่า มี หมายความว่า มีกรรมสิทธิ์หรือมีไว้ในครอบครอง และคำว่า ครอบครอง นั้น มิได้บัญญัติให้มีความหมายเป็นพิเศษ จึงต้องถือว่าต้องมีเจตนายึดถือเพื่อตน ทั้งนี้ตามหลักกฎหมายทั่วไป
การที่ปืนของกลางอยู่ที่บ้านจำเลยโดยเจ้าของปืนนำมาฝากบุตรภรรยาจำเลยไว้ชั่วคราว และลืมทิ้งไว้โดยเจ้าของยังมิได้มารับคืนไป จำเลยเป็นแต่เพียงยึดถือไว้แทนเจ้าของเท่านั้น มิได้ยึดถือเพื่อตน แม้การยึดถือปืนจะมีระยะเวลา 3-4 วัน มิใช่เพียงชั่วขณะหนึ่ง แต่เมื่อไม่มีพฤติการณ์พิเศษที่จะแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนายึดถือเพื่อตน จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองปืนของกลางอันเป็นความผิดตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1649/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดถือแทน vs. ยึดถือเพื่อตน: การบอกกล่าวเปลี่ยนแปลงฐานะสำคัญต่อการเริ่มนับระยะเวลาการครอบครองปรปักษ์
จำเลยขออาศัยอยู่ในที่ดินของโจทก์ จึงต้องถือว่าจำเลยยึดถือที่ดินในฐานะเป็นผู้แทนโจทก์ หากจำเลยยึดถือที่ดินในฐานะเป็นผู้แทนโจทก์ หากจำเลยจะเปลี่ยนลักษณะแพ่งการยึดถือเป็นเพื่อตน ก็ต้องบอกกล่าวไปยังโจทก์ว่าไม่เจตนาจะยึกถือที่ดินแทนโจทก์ต่อไปเสียก่อน การเปลี่ยนเจตนายึดถือโดยไม่บอกกล่าว ไม่มีผลให้เปลี่ยนแปลงฐานะจากยึดถือแทนไปได้
of 2