พบผลลัพธ์ทั้งหมด 12 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7494/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลายมือชื่อปลอมในสัญญากู้ยืม และการยึดโฉนดที่ดินโดยไม่สุจริต ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชนะคดีโดยวินิจฉัยว่าโจทก์รู้เห็นและยินยอมให้ พ. นำโฉนดที่ดินพิพาทไปเป็นประกันการกู้ยืมเงินจากจำเลย เมื่อโจทก์และ พ. ยังไม่ได้ชำระหนี้เงินกู้ยืม จำเลยจึงมีสิทธิยึดหน่วงโฉนดที่ดินพิพาท แต่ศาลชั้นต้นก็ฟังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับหนังสือสัญญากู้เงินที่จำเลยอ้างเป็นพยานหลักฐานว่าลายมือชื่อที่เป็นชื่อโจทก์ในหนังสือสัญญากู้ยืมเงินดังกล่าวไม่ใช่ลายมือชื่อโจทก์ แต่เป็นลายมือชื่อปลอมซึ่งเป็นอันยุติแล้ว แม้ศาลอุทธรณ์จะยกปัญหาว่าลายมือชื่อโจทก์ในหนังสือสัญญากู้เงินเป็นลายมือปลอมหรือไม่ขึ้นวินิจฉัยก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในชั้นอุทธรณ์อันจะทำให้จำเลยมีสิทธิที่จะฎีกาในปัญหาดังกล่าวได้
ลายมือชื่อผู้กู้ยืมในหนังสือสัญญากู้ยืมเงินไม่ใช่ของโจทก์ จึงฟังไม่ได้ว่าโจทก์กู้ยืมเงินจำเลยแล้วมอบโฉนดที่ดินพิพาทให้จำเลยยึดถือไว้เป็นประกันดังที่จำเลยให้การต่อสู้ไว้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิยึดถือโฉนดที่ดินพิพาท
ที่จำเลยฎีกาว่า แม้จะฟังไม่ได้ว่าโจทก์ทำสัญญากู้ยืมเงินจากจำเลยแต่พยานหลักฐานที่นำสืบมาฟังได้ว่าโจทก์รู้เห็นและยินยอมให้ พ. นำโฉนดที่ดินพิพาทไปเป็นประกันการกู้ยืมเงินจำเลย การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องจึงเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต แต่จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ การที่ศาลชั้นต้นยกขึ้นวินิจฉัยจึงเป็นการวินิจฉัยนอกคำให้การเป็นการไม่ชอบ ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ลายมือชื่อผู้กู้ยืมในหนังสือสัญญากู้ยืมเงินไม่ใช่ของโจทก์ จึงฟังไม่ได้ว่าโจทก์กู้ยืมเงินจำเลยแล้วมอบโฉนดที่ดินพิพาทให้จำเลยยึดถือไว้เป็นประกันดังที่จำเลยให้การต่อสู้ไว้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิยึดถือโฉนดที่ดินพิพาท
ที่จำเลยฎีกาว่า แม้จะฟังไม่ได้ว่าโจทก์ทำสัญญากู้ยืมเงินจากจำเลยแต่พยานหลักฐานที่นำสืบมาฟังได้ว่าโจทก์รู้เห็นและยินยอมให้ พ. นำโฉนดที่ดินพิพาทไปเป็นประกันการกู้ยืมเงินจำเลย การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องจึงเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต แต่จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ การที่ศาลชั้นต้นยกขึ้นวินิจฉัยจึงเป็นการวินิจฉัยนอกคำให้การเป็นการไม่ชอบ ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7494/2544
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลายมือชื่อปลอมในสัญญากู้ยืม ทำให้จำเลยไม่มีสิทธิยึดโฉนดที่ดิน และการวินิจฉัยนอกคำให้การของศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับหนังสือสัญญากู้เงินที่จำเลยอ้างเป็นพยานหลักฐานว่าลายมือชื่อที่เป็นชื่อโจทก์ในหนังสือสัญญากู้เงินดังกล่าวไม่ใช่ลายมือชื่อโจทก์ซึ่งข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์โต้แย้งแม้จำเลยจะแก้อุทธรณ์แต่ศาลชั้นต้นก็มีคำสั่งไม่รับคำแก้อุทธรณ์เนื่องจากจำเลยยื่นเกินกำหนดระยะเวลาข้อเท็จจริงที่ว่าลายมือชื่อโจทก์ในหนังสือสัญญากู้เงินไม่ใช่ของโจทก์แต่เป็นลายมือชื่อปลอม จึงฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 จะยกขึ้นวินิจฉัยก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในชั้นอุทธรณ์อันจะทำให้จำเลยมีสิทธิที่จะฎีกาในปัญหาดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2318/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิยึดโฉนดที่ดินจากการกู้ยืมเงิน: กรรมสิทธิ์ร่วม & ความรับผิดชอบของผู้กู้
เมื่อ ป. เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดินแปลงพิพาทย่อมมีสิทธินำโฉนดที่ดินไปให้จำเลยยึดถือเพื่อเป็นหลักประกันในการที่ ป. กู้ยืมเงินจากจำเลยได้ แม้ว่าโจทก์และทายาทอื่น ๆ ผู้มีกรรมสิทธิ์ร่วมกับ ป. ในที่ดินดังกล่าว จะไม่ได้รู้เห็นหรือให้ความยินยอม จำเลยก็ย่อมยึดถือโฉนดที่ดินไว้ได้จนกว่า ป. จะชำระหนี้ให้แก่จำเลย หากโจทก์หรือทายาทอื่นได้รับความเสียหายจากการกระทำของ ป. ก็เป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากล่าวกับ ป. ต่างหาก หาเกี่ยวกับจำเลยไม่ แม้จำเลยจะมีสิทธิบังคับคดีได้เฉพาะที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ป. ดังที่โจทก์อ้าง ก็เป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากล่าวกันในชั้นบังคับคดี อันเป็นคนละเรื่องกับการที่จำเลยใช้สิทธิยึดถือโฉนดที่ดินอันเนื่องมาจากการที่ ป. นำมามอบให้ยึดถือไว้ เพื่อประกันการกู้ยืมเงินดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1898/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้เงินกู้เกิน 50 บาทที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ยืม ไม่อาจฟ้องร้องบังคับคดีได้ และจำเลยไม่มีสิทธิยึดโฉนดที่ดินเป็นประกัน
หนี้กู้ยืมเงินเกินห้าสิบบาทขึ้นไปที่มิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ยืมไม่อาจฟ้องร้องบังคับคดีได้ ผู้ให้ยืมจึงไม่มีสิทธิยึดถือโฉนดที่ดินของผู้ยืมไว้เป็นประกันหนี้ดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5016/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการยึดโฉนดที่ดินเป็นประกันหนี้ต้องมีมูลหนี้ที่บังคับได้ หากมูลหนี้ไม่สมบูรณ์ ย่อมไม่มีสิทธิยึดถือ
เมื่อหนี้ที่จำเลยอาศัยเป็นมูลเหตุให้ยึดถือโฉนดที่ดินพิพาทไม่อาจฟ้องร้องให้บังคับคดีได้จำเลยจึงไม่มีสิทธิยึดถือโฉนดที่ดินพิพาทไว้เป็นประกันหนี้ได้ พฤติการณ์แห่งคดีเชื่อว่าจำเลยถูกหลอกลวงให้กู้ยืมเงินไปจำเลยยึดถือโฉนดที่ดินพิพาทไว้เป็นประกันโดยเข้าใจว่ามีสิทธิยึดไว้ได้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้เมื่อคำนึงถึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความตลอดถึงการดำเนินคดีของคู่ความทั้งปวงแล้วศาลฎีกาเห็นสมควรให้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลเป็นพับแม้โจทก์จะเป็นฝ่ายชนะคดีก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดโฉนดโดยสุจริต แต่ขาดความยินยอมจากเจ้าของ สิทธิในการยึดถือไม่มีผล
จำเลยยึดโฉนดที่ดินของโจทก์ไว้โดยสุจริต เชื่อว่าโจทก์มอบอำนาจให้ ถ. นำมาวางประกันกู้เงินจำเลยซึ่งไม่เป็นความจริงโจทก์เรียกโฉนดคืนจากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1064/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจทำจำนองและการระงับของอำนาจหลังผู้มอบอำนาจเสียชีวิต สิทธิในการยึดโฉนด
คำบรรยายฟ้องที่ถือว่าไม่เคลือบคลุมและไม่ขัดกัน
มอบอำนาจให้ไปทำจำนองและมอบโฉนดให้ไว้ ตราบใดที่ยังมิได้ไปจดทะเบียนจำนองการจำนองก็ยังไม่มีขึ้นโดยสมบูรณ์ เพราะยังไม่ได้ทำตามแบบที่กฎหมายบังคับไว้ เมื่อผู้มอบอำนาจตาย ใบมอบอำนาจย่อมระงับไป ผู้ที่รับโฉนดไว้ไม่มีสิทธิยึดโฉนดไว้ได้
มอบอำนาจให้ไปทำจำนองและมอบโฉนดให้ไว้ ตราบใดที่ยังมิได้ไปจดทะเบียนจำนองการจำนองก็ยังไม่มีขึ้นโดยสมบูรณ์ เพราะยังไม่ได้ทำตามแบบที่กฎหมายบังคับไว้ เมื่อผู้มอบอำนาจตาย ใบมอบอำนาจย่อมระงับไป ผู้ที่รับโฉนดไว้ไม่มีสิทธิยึดโฉนดไว้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 747/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้มีประกันตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย ต้องมีทรัพย์สิทธิเหนือทรัพย์สินลูกหนี้ การยึดโฉนดหรือระบุทรัพย์ในสัญญาไม่ถือเป็นประกัน
เจ้าหนี้มีประกันตามความหมายของมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 นั้น ต้องเป็นเจ้าหนี้ที่มีทรัพย์สิทธิเหนือทรัพย์สินของลูกหนี้ในทางจำนอง จำนำ หรือมีสิทธิยึดหน่วงหรือมีบุริมสิทธิที่บังคับได้ทำนองเดียวกับผู้รับจำนำ
การที่โจทก์เจ้าหนี้เพียงแต่ยึดโฉนดไว้ โดยไม่ได้ไปทำจำนองกันโดยถูกต้อง และเครื่องจักรที่ระบุไว้ในสัญญานั้นจำเลยลูกหนี้ก็ยังคงครอบครองใช้สอยอยู่โดยไม่ได้ส่งมอบให้โจทก์เจ้าหนี้ยึดไว้แต่ประการใด ดังนี้ โจทก์เจ้าหนี้ย่อมไม่ใช่เจ้าหนี้ผู้มีประกันตามความหมายในมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483
การที่โจทก์เจ้าหนี้เพียงแต่ยึดโฉนดไว้ โดยไม่ได้ไปทำจำนองกันโดยถูกต้อง และเครื่องจักรที่ระบุไว้ในสัญญานั้นจำเลยลูกหนี้ก็ยังคงครอบครองใช้สอยอยู่โดยไม่ได้ส่งมอบให้โจทก์เจ้าหนี้ยึดไว้แต่ประการใด ดังนี้ โจทก์เจ้าหนี้ย่อมไม่ใช่เจ้าหนี้ผู้มีประกันตามความหมายในมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงเพิ่มเติมจากสัญญาค้ำประกันและการยึดโฉนดที่ไม่เข้าข่ายจำนอง
เจ้าหนี้เงินกู้จะนำพยานบุคคลมาสืบว่ามีข้อตกลงว่าผู้ค้ำประกันยอมให้เจ้าหนี้ยึดโฉนดที่นาไว้เป็นประกันหนี้นั้นอีกได้แม้ข้อตกลงนั้นจะไม่ได้ระบุไว้ในสัญญาไม่เป็นการสืบเพิ่มเติมเอกสารสัญญาค้ำประกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94(ข) เพราะข้อตกลงนั้นเป็นสัญญาซึ่งตกลงต่างหากจากสัญญาค้ำประกัน และไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
การที่ผู้ค้ำประกันตกลงให้เจ้าหนี้เงินกู้ยึดโฉนดไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้ครบถ้วนดังกล่าวนั้นไม่เข้าลักษณะจำนอง
การที่ผู้ค้ำประกันตกลงให้เจ้าหนี้เงินกู้ยึดโฉนดไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้ครบถ้วนดังกล่าวนั้นไม่เข้าลักษณะจำนอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1416/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาต่างตอบแทน การยึดโฉนดเพื่อชำระหนี้ตามสัญญา
มอบโฉนดที่ดินให้ผู้อื่นไปใช้ประกันจำเลยในคดีอาญาโดยผู้นั้นออกเงินจำนวนหนึ่งไปไถ่ถอนโฉนดนั้นมาจากการที่เจ้าของโฉนดไปวางประกันเงินกู้ไว้กับผู้มีชื่อและตกลงกันว่าเมื่อถอนประกันจำเลยแล้วเจ้าของโฉนดจะคืนเงินจำนวนที่ผู้นั้นออกไปไถ่ถอนโฉนดนั้นมาให้ ถ้ายังหาเงินให้ไม่ทัน ก็ให้ผู้นั้นยึดโฉนดไว้ก่อนดังนี้ ผู้นั้นย่อมมีสิทธิจะยึดโฉนดไว้ได้จนกว่าเจ้าของโฉนดจะปฏิบัติตามข้อสัญญาที่ตกลงกัน