พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องอุทธรณ์ที่ผิดพลาด: ศาลมีอำนาจกำหนดเวลาให้แก้ไขได้ ไม่ถือเป็นการยืดเวลา
ปัญหาว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ให้ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยแก้อุทธรณ์ของจำเลยที่ผิดพลาดมายื่นใหม่ภายในกำหนดระยะเวลาซึ่งแล้ว แต่ศาลชั้นต้นจะเห็นสมควร นั้น เป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลชั้นต้นตำหนิฟ้องอุทธรณ์ขอจำเลยเพราะพิมพ์ตัวเลข ตอนย่อคำพิพากษาศาลชั้นต้นไขว้เขวไป หาใช่ตัวบรรยายอุทธรณ์แท้ไม่ ศาลชั้นต้นสั่งให้ทำมาใหม่ซึ่งต้องเข้าใจว่า ศาลสั่งโดยอาศัยอำนาจ ป.วิ.พ. มาตรา 18 ประกอบด้วยมาตรา 15 ป.วิ.อ. ซึ่งศาลชอบที่จะกำหนดระยะเวลา ถ้าศาลไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ก็พึงเข้าใจว่า ภายในระยะเวลาอันสมควร การที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้จำเลยแก้ฟ้องอุทธรณ์หรือยื่นฟ้องอุทธรณ์ใหม่ให้ถูกต้องตามที่ศาลชั้นต้นตำหนิ หาใช่เป็นยืดเวลา ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 ไม่ หากแต่เป็นเรื่องจะให้ยื่นอุทธรณ์ใหม่ตามที่สั่งไว้เดิมแล้ว หรือไม่เท่านั้น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2503)
ศาลชั้นต้นตำหนิฟ้องอุทธรณ์ขอจำเลยเพราะพิมพ์ตัวเลข ตอนย่อคำพิพากษาศาลชั้นต้นไขว้เขวไป หาใช่ตัวบรรยายอุทธรณ์แท้ไม่ ศาลชั้นต้นสั่งให้ทำมาใหม่ซึ่งต้องเข้าใจว่า ศาลสั่งโดยอาศัยอำนาจ ป.วิ.พ. มาตรา 18 ประกอบด้วยมาตรา 15 ป.วิ.อ. ซึ่งศาลชอบที่จะกำหนดระยะเวลา ถ้าศาลไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ก็พึงเข้าใจว่า ภายในระยะเวลาอันสมควร การที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้จำเลยแก้ฟ้องอุทธรณ์หรือยื่นฟ้องอุทธรณ์ใหม่ให้ถูกต้องตามที่ศาลชั้นต้นตำหนิ หาใช่เป็นยืดเวลา ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 ไม่ หากแต่เป็นเรื่องจะให้ยื่นอุทธรณ์ใหม่ตามที่สั่งไว้เดิมแล้ว หรือไม่เท่านั้น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1534/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยืดเวลายื่นคำให้การ จำเลยไม่ทราบคำสั่ง และสิทธิในการยื่นคำให้การตามมาตรา 204
กรณีที่จำเลยบางคนได้ยื่นแต่บางคนมิได้ยื่นคำให้การภายกำหนด ศาลจะต้องสั่งยืดเวลายื่นคำให้การไปแล้ว แจ้งให้จำเลยที่มิได้ยื่นคำให้การทราบ โดยวิธีส่งหมายธรรมดาหรือโดยวิธีอื่นแทน การที่ศาลออกหมายนัดพิจารณาคิดีเสีทีเดียว ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่มิได้ยื่นคำให้การทราบคำสั่งยืดเวลาคำให้การตามมาตรา 204
จำเลยที่ทราบฟ้องโดยประกาศหนังสือพิมพ์ แต่มิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนด ก็ได้รับประโยชน์ตามมาตรา 204 เช่นเดียวกัน
จำเลยที่ทราบฟ้องโดยประกาศหนังสือพิมพ์ แต่มิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนด ก็ได้รับประโยชน์ตามมาตรา 204 เช่นเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1534/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งคำสั่งยืดเวลายื่นคำให้การ และสิทธิจำเลยที่ทราบฟ้องโดยประกาศ
กรณีที่จำเลยบางคนได้ยื่นแต่บางคนมิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนด ศาลจะต้องสั่งยืดเวลายื่นคำให้การไปแล้วแจ้งให้จำเลยที่มิได้ยื่นคำให้การทราบ โดยวิธีส่งหมายธรรมดาหรือโดยวิธีอื่นแทน การที่ศาลออกหมายนัดพิจารณาคดีเสียทีเดียว ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่มิได้ยื่นคำให้การทราบคำสั่งยืดเวลายื่นคำให้การตามมาตรา 204
จำเลยที่ทราบฟ้องโดยประกาศหนังสือพิมพ์ แต่มิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนด ก็ได้รับประโยชน์ตามมาตรา 204 เช่นเดียวกัน
จำเลยที่ทราบฟ้องโดยประกาศหนังสือพิมพ์ แต่มิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนด ก็ได้รับประโยชน์ตามมาตรา 204 เช่นเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาปรานีประนอมยอมความกับการฟ้องขับไล่: การตกลงยืดเวลาไม่ใช่การยอมออกตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากที่เช่า จำเลยขอทุเลาการบังคับคดี ศาลอุทธรณ์ได้ยกคำร้องขอทุกเลาการบังคับ และนัดสอบถามจำเลยเรื่องให้ออกจากที่เช่า โจทก์จำเลยได้ยื่นคำแถลงต่อศาลร่วมกันว่า โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาปราณีประนอมยอมความต่อกัน คือจำเลยยอมออกจากห้องพิพาทภายใน 3 เดือน ถ้าพ้นกำหนดนี้แล้ว จำเลยยังไม่ออกจากห้องพิพาท จำเลยถือว่าได้ส่งคืนห้องให้แก่โจทก์แล้ว และยอมให้โจทก์ใช้สิทธิเข้าอยู่ในห้องนี้ได้ทันที และโจทก์ขอให้งดสอบถาม ดังนี้คำแถลงของโจทก์จำเลยเป็นแต่เพียงตกลงกันยืดเวลาในการบังคับคดีไปเท่านั้น มิใช่เป็นการยอมออกตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน โจทก์จะนำมาฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยใหม่หาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงระหว่างคู่ความยืดเวลาบังคับคดี: ศาลต้องผูกพันตามตกลงนั้น
จำเลยอุทธรณ์และฎีกาคำพิพากษาชั้นบังคับคดีว่า จำเลยไม่ควรต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างจากที่ดินตามคำพิพากษาเพราะได้ทำสัญญาเช่าจากผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินแล้วทั้งหมดนอกจากนายชัยวัฒน์ โจทก์+แต่ในระหว่างอุทธร์ จำเลย+และนายชัยวัฒน์โจทก์ ได้มา+ศาลทำความตกลงกันยืดเวลาเพื่อให้จำเลยรื้อถอนภายในเวลา 3 เดือน ถ้ารื้อไม่เสร็จจำเลยยอมเสียค่าเสียหายวันละ 100 บาท ดังนี้ ต้องถือตามข้อตกลงนั้น มูลเดิมที่จำเลยอุทธรณ์เป็นอันหมดไป ไม่มีมูลที่จำเลยจะฎีกาอีก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงยืดเวลาบังคับคดี: ศาลยึดตามข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลย แม้คดีถึงที่สุดแล้ว
จำเลยอุทธรณ์และฎีกาคำสั่งชั้นบังคับคดีว่า จำเลยไม่ควรต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างจากที่ดินตามคำพิพากษา เพราะได้ทำสัญญาเช่าจากผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินแล้วทั้งหมดนอกจากนายชัยวัฒน์โจทก์ แต่ในระหว่างอุทธรณ์ จำเลยและนายชัยวัฒน์โจทก์ ได้มาศาลทำความตกลงกันยืดเวลาให้จำเลยรื้อถอนภายใน 3 เดือน ถ้ารื้อไม่เสร็จจำเลยยอมเสียค่าเสียหายวันละ 100 บาท ดังนี้ ต้องถือตามข้อตกลงนั้น มูลเดิมที่จำเลยอุทธรณ์เป็นอันหมดไป ไม่มีมูลที่จำเลยจะฎีกาอีก