คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยื่นบัญชี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2200/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีอาญาจากการไม่ยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สิน: ความผิดธรรมดา ไม่ใช่ความผิดต่อเนื่อง
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคเสรีธรรมแล้ว เป็นผลให้สมาชิกภาพของจำเลยและตำแหน่งกรรมการสาขาพรรคของจำเลยสิ้นสุดลงในวันที่ 6 กันยายน 2544 และจำเลยมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองภายใน 30 วัน นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งกรรมการในพรรคการเมืองตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 มาตรา 42 วรรคหนึ่ง แต่จนถึงวันฟ้องวันที่ 30 ตุลาคม 2545 จำเลยก็ยังมิได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตนคู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จำเลยจึงมีความผิดเมื่อพ้นกำหนด 30 วันดังกล่าว คือ มีความผิดตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2544 ซึ่งมีบทลงโทษตามมาตรา 84 ระวางโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 500 บาท ตลอดเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง และระวางโทษดังกล่าวมีอายุความเพียง 1 ปี ตามอายุความคดีอาญาทั่วไปใน ป.อ. มาตรา 95 วรรคหนึ่ง (5)
จำเลยมิได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ภายในวันที่ 6 ตุลาคม 2544 จำเลยจึงมีความผิดตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2544 การกระทำโดยการงดเว้นและเจตนามิได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิ้น สำเร็จเป็นความผิด เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาที่กำหนด เป็นความผิดธรรมดาที่เกิดจากการกระทำครั้งเดียว กฎหมายมิได้บัญญัติให้แม้ภายหลังจากนั้นก็ยังคงมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอยู่ การกระทำของจำเลยจึงมิใช่ความผิดต่อเนื่อง ส่วนการที่จำเลยยังคงมิได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อมาถึงวันฟ้องเป็นเพียงผลของการกระทำโดยการงดเว้นดังกล่าวเท่านั้น ส่วนที่ความผิดดังกล่าวมีระวางโทษให้ปรับเป็นรายวันต่อไปอีกตลอดเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องนั้นเป็นเพียงบทกำหนดโทษ เป็นบทบังคับคดีให้ผู้กระทำความผิดยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อนายทะเบียนพรรคให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยเร็ว เมื่อมิใช่ความผิดต่อเนื่องอายุความจึงเริ่มนับแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2544 ที่จำเลยมีความผิด โจทก์ฟ้องจำเลยวันที่ 30 ตุลาคม 2545 เกินกว่า 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยกระทำความผิด จึงขาดอายุความ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (6)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 566/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยานต้องเป็นไปตามกฎหมายที่ใช้บังคับขณะยื่น แม้กฎหมายแก้ไขภายหลังก็ใช้ไม่ได้
ในการยื่นบัญชีระบุพยานจำเลยจำเลยต้องกระทำตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะยื่นบัญชีระบุพยานมิใช่กระทำตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ใช้บังคับในภายหลังบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะจำเลยยื่นบัญชีระบุพยานคือบทบัญญัติมาตรา88วรรคแรกและวรรคสี่แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง(ฉบับที่13)พ.ศ.2535ดังนั้นเมื่อศาลชั้นต้นกำหนดวันชี้สองสถานในวันที่7กรกฎาคม2537จำเลยจึงต้องยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันที่7กรกฎาคมไม่น้อยกว่าสิบห้าวันที่จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานเมื่อวันที่22มิถุนายน2537นั้นเป็นการยื่นก่อนวันชี้สองสถานเพียง14วันจึงเป็นการยื่นบัญชีระบุพยานไม่ชอบด้วยบทบัญญัติมาตรา88วรรคแรกดังกล่าวแม้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในบัญชีระบุพยานจำเลยว่า"สำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายรวมสำนวน16อันดับ"ก็ตามแต่เมื่อต่อมาความปรากฎแก่ศาลชั้นต้นว่าการยื่นบัญชีระบุพยานของจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมายศาลชั้นต้นก็ย่อมมีอำนาจเพิกถอนคำสั่งที่ได้สั่งรับบัญชีระบุพยานของจำเลยไว้โดยไม่ถูกต้องนั้นได้ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในรายงานกระบวนพิจารณาว่า"ปรากฎว่าคดีนี้จำเลยมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานคดีไม่มีประเด็นที่สืบพยานจำเลย"นั้นถือได้ว่าศาลชั้นต้นได้เพิกถอนคำสั่งรับบัญชีระบุพยานของจำเลยซึ่งสั่งโดยไม่ถูกต้องไว้แต่เดิมนั้นโดยปริยายแล้วต้องถือว่าจำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันชี้สองสถานไม่น้อยกว่าสิบห้าวันและไม่ปรากฎว่าจำเลยได้ยื่นคำร้องขออ้างพยานหลักฐานเช่นนั้นว่าต่อศาลพร้อมกับบัญชีระบุพยานโดยแสดงเหตุอันสมควรที่ไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานตามกำหนดเวลาดังกล่าวได้ตามมาตรา88วรรคสี่แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งทั้งกรณีไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นที่ให้ศาลมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา87(2)จำเลยจึงไม่มีสิทธินำพยานหลักฐานมาสืบแต่อย่างใดที่ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานจำเลยหรือไม่อนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานเข้าสืบนั้นจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยานก่อนสืบพยาน: สิทธิในการเบิกความขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามขั้นตอน
จำเลยต้องยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคแรก จึงจะมีสิทธิเข้าเบิกความ.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 439/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งโดยไม่ครบถ้วนไม่ถือเป็นความเท็จ ศาลฎีกายกฟ้อง
คดีที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีกาจำต้องฟัง ข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย การยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งโดยไม่มีหลักฐานการจ่ายเงิน หรือมีหลักฐานการจ่ายเงินไม่ครบถ้วน ไม่ถือว่าเป็นการยื่นรายการค่าใช้จ่ายเป็นเท็จ เป็นเพียงการยื่นที่บกพร่องหรือไม่สมบูรณ์เท่านั้น ไม่มีบทบัญญัติกำหนดโทษไว้ลงโทษไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3130/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยาน จำเลยต้องระบุชื่อตนเองในบัญชีหากต้องการเบิกความ
จำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยาน จำเลยอ้างตัวเองเป็นพยานเข้าสืบไม่ได้ จำเลยจะอ้างว่าจำเลยเป็นคู่ความ ไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีระบุอ้างตนเองเป็นพยานตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 627/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุพยานเพิ่มเติมในคดีแพ่ง: ยื่นบัญชีพยานเพียงพอแล้ว ไม่ต้องส่งสำเนาคำแถลง
การระบุพยานเพิ่มเติมก่อนเสร็จการสืบพยานของฝ่ายทีนำสืบก่อน ทำได้โดยยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติมเท่านั้น หาจำต้องทำโดยมีสำเนาคำแถลงให้แก่คู่ความอีกฝ่ายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 627/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุพยานเพิ่มเติมในคดีแพ่ง: การยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติมเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องส่งสำเนาคำแถลง
การระบุพยานเพิ่มเติมก่อนเสร็จการสืบพยานของฝ่ายที่นำสืบก่อนทำได้โดยยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติมเท่านั้น หาจำต้องทำโดยมีสำเนาคำแถลงให้แก่คู่ความอีกฝ่ายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไต่สวนมูลฟ้อง: จำเลยยังไม่เป็นคู่ความ จึงไม่ต้องยื่นบัญชีพยานล่วงหน้า
การไต่สวนมูลฟ้องเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์ โจทก์ไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีระบุพยานล่วงหน้า 3 วัน ก่อนวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง
ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นยกฟ้องอ้างเหตุว่า โจทก์ไม่ยื่นบัญชีพยานล่วงหน้า 3 วันก่อนวัดนัดไต่สวนมูลฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้น ทำการไต่สวนมูลฟ้องต่อไปเช่นนี้ จำเลยไม่มีสิทธิฎีกา เพราะจำเลยยังมิได้อยู่ในฐานะเป็นคู่ความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 381/2477

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยานนอกนัด: ศาลอนุญาตได้หากมีเหตุผลสมควร
ลักษณพะยาน ม.31 มิได้บัญญัติเด็ดขาดว่าคู่ความจะต้องยื่นบัญชีระบุชื่อพะยานก่อนวันนัดพิจารณา ถ้าหากมีเหตุการณ์พิเศษจะยื่นในวันนัดพิจารณาก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5548/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าใช้จ่ายหาเสียงเลือกตั้ง: จำเลยมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายทั้งหมด แม้จะได้รับจากบุคคลอื่น
รถยนต์ที่ อ. นำมาแล่นหาเสียง โดย ค. ผู้สมัครในทีมเดียวกับจำเลยเป็นผู้ว่าจ้างมาหาเสียงให้จำเลยและทีมงาน มีแผ่นป้ายหาเสียงของจำเลยและทีมงานติดตั้งอยู่ และเมื่อมีค่าใช้จ่ายในการที่ อ. นำรถยนต์แล่นหาเสียง ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อว่าจ้างของ ค. หรือจำเลยเป็นผู้ว่าจ้างเอง จำเลยมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการว่าจ้างตามกฎหมาย แม้ว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวเมื่อนำมารวมกับบัญชีค่าใช้จ่ายที่จำเลยได้ยื่นไว้แล้วจะมีจำนวนไม่เกินตามที่กฎหมายกำหนดก็ตาม การที่จำเลยไม่ยื่นรายการค่าใช้จ่ายดังกล่าวจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรา 55 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545