พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1024/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: การยื้อแย่งไม้และการใช้มีดทำร้ายคู่ต่อสู้
ผู้ตายได้ใช้ไม้ตีจำเลยถูกไหล่จนจำเลยขะมำลง มีผู้มาห้ามแต่ผู้ตายกลับตีจำเลยซ้ำ จำเลยยกมือขึ้นจับไม้แล้วยื้อแย่งกัน มือข้างหนึ่งของจำเลยถือมีด จำเลยจึงฟันผู้ตายด้วยมีดนั้นแล้วฟันซ้ำรวม 6 แผล การกระทำของจำเลยจึงเป็นการฆ่าคนโดยเจตนา แต่จำเลยและผู้ตายยื้อแย่งไม้กันอยู่ เป็นการต่อสู้ชุลมุน ผู้ตายอาจใช้อาวุธทำร้ายจำเลยอีกก็ได้ ฉะนั้นการที่จำเลยกระทำแก่ผู้ตาย จึงเป็นการป้องกันตัว แต่เกินสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1024/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุในคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย
ผู้ตายได้ใช้ไม้ตีจำเลยถูกไหล่จนจำเลยขะมำลง มีผู้มาห้ามแต่ผู้ตายกลับตีจำเลยซ้ำ จำเลยยกมือขึ้นจับไม้แล้วยื้อแย่งกัน มือข้างหนึ่งของจำเลยถือมีด จำเลยจึงฟันผู้ตายด้วยมีดนั้นแล้วฟันซ้ำรวม 6 แผลการกระทำของจำเลยจึงเป็นการฆ่าคนโดยเจตนา แต่จำเลยและผู้ตายยื้อแย่งไม้กันอยู่ เป็นการต่อสู้ชุลมุน ผู้ตายอาจใช้อาวุธทำร้ายจำเลยอีกก็ได้ ฉะนั้นการที่จำเลยกระทำแก่ผู้ตาย จึงเป็นการป้องกันตัว แต่เกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2478
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุในคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย
ศาลชั้นต้นให้จำคุก 10 ปี ตาม ม.249-55-59 ศาลอุทธรณ์แก้ให้จำคุก 5 ปี ตาม ม.249-53 เป็นแก้มาก ฎีกาข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3398/2565
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยใช้อาวุธข่มขู่ ยื้อแย่งจนปืนลั่น ศาลแก้เป็นประมาททำให้ผู้อื่นได้รับอันตราย ลดโทษและรอการลงโทษ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตาม ป.อ. มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80 แต่ได้ความจากทางพิจารณาว่า เป็นความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายตาม ป.อ. มาตรา 390 แม้จะเป็นการแตกต่างจากฟ้อง แต่การต่างกันระหว่างการกระทำผิดโดยเจตนากับประมาทนั้น กฎหมายมิให้ถือว่าต่างกันในข้อสาระสำคัญ ทั้งมิให้ถือว่าข้อที่พิจารณาได้ความนั้นเป็นเรื่องเกินคำขอหรือเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่า นาย ส. นาย อ. และบุคคลอื่นเข้ามาขัดขวาง ยื้อแย่งอาวุธปืน เป็นเหตุให้อาวุธปืนลั่น สะเก็ดกระสุนปืนถูก นาย อ. และ นาย ส. ได้รับอันตรายแก่กาย จำเลยนำสืบว่า มีการแย่งอาวุธปืนทำให้ปืนลั่น และหลังเกิดเหตุจำเลยไปเยี่ยม นาย อ. และ นาย ส. ที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดกระสุนปืน แสดงว่า จำเลยไม่ได้หลงต่อสู้ ศาลจึงมีอำนาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายตามที่ได้ความจากการพิจารณาได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสอง และวรรคสาม