พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2661/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันภัยสมบูรณ์ก่อนเกิดเหตุ รถถูกปล้น จำเลยต้องรับผิดชอบค่าสินไหมทดแทน
โจทก์ที่ 2 ทำสัญญาซื้อขายมีเงื่อนไขรถยนต์คันพิพาทมาจากโจทก์ที่ 1 แล้วโจทก์ที่ 2 นำรถไปประกอบการขนส่ง โจทก์ที่ 2จึงเป็นผู้ครอบครองรถยนต์คันพิพาทอันมีส่วนได้เสียที่จะเอาประกันภัยได้ ใบเสร็จรับเงินค่าเบี้ยประกันภัยมีลายมือชื่อผู้จัดการของจำเลย และมีรายละเอียดต่าง ๆ คือ หมายเลขทะเบียนและรายละเอียดอื่น ๆเกี่ยวกับรถยนต์ที่เอาประกันภัย ทุนประกัน ระยะเวลาประกัน ทั้งระบุหมายเลขของกรมธรรม์ด้วย ดังนี้ใบเสร็จรับเงินค่าเบี้ยประกันภัยดังกล่าวย่อมเป็นหลักฐานเป็นหนังสือที่จะฟ้องร้องบังคับคดีกันได้ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2524 โจทก์ที่ 2 ได้โทรศัพท์ทางไกลจากจังหวัดมุกดาหารขอเสนอเอาประกันภัยรถยนต์คันพิพาทกับตัวแทนของจำเลยประจำจังหวัดอุบลราชธานี ตัวแทนจำเลยได้ออกใบเสร็จรับเงินเบี้ยประกันภัยของจำเลยให้แก่โจทก์ที่ 2 ในวันนั้น โดยระบุระยะเวลาประกันเริ่มวันที่ 3 พฤษภาคม 2524 สิ้นสุด 3 พฤษภาคม 2525 เวลา0.01 นาฬิกา ตัวแทนจำเลยได้โทรเลขแจ้งจำเลยที่กรุงเทพมหานครจำเลยได้รับโทรเลขวันที่ 4 เดือนเดียวกัน วันที่ 4 พฤษภาคม 2524โจทก์ที่ 2 ได้ส่งตั๋วแลกเงินชำระเบี้ยประกันภัยให้ตัวแทนจำเลยและวันที่ 6 เดือนเดียวกันจำเลยได้ออกกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์คันพิพาท ดังนี้ ต้องถือว่าการประกันภัยรายนี้ได้ตกลงกันแล้วระหว่างโจทก์ที่ 2 กับตัวแทนจำเลยในวันที่ 2 พฤษภาคม 2524เมื่อรถยนต์คันพิพาทถูกคนร้ายปล้นเอาไปตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม2524 เวลา 22 นาฬิกา จำเลยจึงต้องรับผิดชอบใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ทั้งสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4574/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อระงับจากเหตุสุดวิสัย (รถถูกปล้น) เช็คที่ออกก่อนเหตุไม่มีมูลหนี้
รถแทรกเตอร์ที่จำเลยที่ 1 เช่าซื้อจากโจทก์ร่วมถูกผู้ก่อการร้ายปล้นเอาไปจากจำเลยที่ 1 เป็นผลทำให้สัญญาเช่าซื้อระงับไปตั้งแต่วันก่อนถึงกำหนดที่จำเลยที่ 1ต้องชำระค่าเช่าซื้องวดแรก จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าเช่าซื้อตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้ออีก เช็คทั้งสองฉบับที่จำเลยที่ 1 ออกให้เพื่อชำระค่าเช่าซื้อให้โจทก์ร่วมจึงไม่มีมูลหนี้ ทั้งไม่ได้ความว่าโจทก์ร่วมและจำเลยที่ 1 ได้ตกลงให้เอาเช็คดังกล่าว เป็นการชำระหนี้ที่จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดตามสัญญาเช่าซื้ออันเนื่องมาจากรถแทรกเตอร์ที่เช่าซื้อสูญหายหรือเสียหาย จำเลยที่ 1กับจำเลยที่ 2 ผู้ซึ่งเป็นกรรมการผู้ลงลายมือชื่อในเช็คแทนจำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค