พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทในการขับรถราง ชนรถยนต์เก๋ง ผู้ขับมีหน้าที่ต้องเบารถหรือหยุดเมื่อเห็นรถเก๋งอยู่ในสถานการณ์คับขัน
รถยนต์เก๋งออกพ้นปากตรอกมาคารางรถรางอยู่ก่อนแล้ว และไม่สามารถจะแล่นต่อไปในถนนได้ เพราะกำลังมีรถยนต์แล่นผ่านไปมา ทั้งจะถอยหลังก็ไม่ได้ เพราะจะชนรถยนต์บรรทุกที่แล่นสวนเข้าตรอกไป เวลานั้นจำเลยกำลังขับรถรางมาและจำเลยเห็นรถยนต์เก๋งในระยะประมาณ 30 เมตร จำเลยก็ไม่หยุดหรือเบารถราง แต่จำเลยกลับโบกมือให้รถยนต์เก๋งถอยออกไป ต่อเมื่อเข้ามาในระยะใกล้แล้วจำเลยจึงได้พยายามหยุดรถ แต่หยุดไม่ทันท่วงที รถรางถึงชนรถยนต์เก๋งเสียหาย เช่นนี้ ถือว่าจำเลยกระทำโดยประมาทตามกฎหมายแล้ว
ฎีกาว่า ศาลฟังข้อเท็จจริงโดยไม่มีพยานหลักฐานในสำนวนสนับสนุน เป็นฎีกาในข้อกฎหมาย
แต่ถ้าฎีกาว่า ศาลฟังโดยมีพยานหลักฐานแต่ไม่ควรฟังดังนั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ฎีกาว่า ศาลฟังข้อเท็จจริงโดยไม่มีพยานหลักฐานในสำนวนสนับสนุน เป็นฎีกาในข้อกฎหมาย
แต่ถ้าฎีกาว่า ศาลฟังโดยมีพยานหลักฐานแต่ไม่ควรฟังดังนั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทในการขับรถราง ชนรถยนต์เก๋ง ศาลฎีกาพิจารณาหลักฐานการกระทำและเหตุผลในการตัดสิน
รถยนต์เก๋งออกพ้นปากตรอกมาคารางรถรางอยู่ก่อนแล้วและไม่สามารถจะแล่นต่อไปในถนนได้ เพราะกำลังมีรถยนต์แล่นผ่านไปมาทั้งจะถอยหลังก็ไม่ได้เพราะจะชนรถยนต์บรรทุกที่แล่นสวนเข้าตรอกไปเวลานั้นจำเลยกำลังขับรถรางมาและจำเลยเห็นรถยนต์เก๋งในระยะไกลประมาณ 30 เมตรจำเลยก็ไม่หยุดหรือเบารถราง แต่จำเลยกลับโบกมือให้รถยนต์เก๋งถอยออกไป ต่อเมื่อเข้ามาในระยะใกล้แล้วจำเลยจึงได้พยายามหยุดรถ แต่หยุดไม่ทันท่วงทีรถรางจึงชนรถยนต์เก๋งเสียหาย เช่นนี้ ถือว่าจำเลยกระทำโดยประมาทตามกฎหมายแล้ว
ฎีกาว่า ศาลฟังข้อเท็จจริงโดยไม่มีพยานหลักฐานในสำนวนสนับสนุน เป็นฎีกาในข้อกฎหมาย
แต่ถ้าฎีกาว่า ศาลฟังโดยมีพยานหลักฐานแต่ไม่ควรฟังดังนั้นเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ฎีกาว่า ศาลฟังข้อเท็จจริงโดยไม่มีพยานหลักฐานในสำนวนสนับสนุน เป็นฎีกาในข้อกฎหมาย
แต่ถ้าฎีกาว่า ศาลฟังโดยมีพยานหลักฐานแต่ไม่ควรฟังดังนั้นเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทของผู้ขับรถรางและการดูแลระมัดระวังเมื่อมีผู้โดยสารลงจากรถเมล์
แม้ผู้เสียหายจะประมาทอยู่ด้วยถ้าจำเลยระมัดระวังตามควรแก่ฐานะแล้วก็จะไม่เป็นอันตรายแก่ผู้เสียหายดังนี้ จำเลยจะต้องรับผิดฐานทำให้บาดเจ็บสาหัสโดยประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทในการขับรถราง: การคาดการณ์ผิดพลาดถึงการหลีกเลี่ยงของรถยนต์คันอื่น
จำเลยขับรถรางมาในระยะไกลได้เห็นรถยนต์ขวางทางรถรางอยู่แต่เข้าใจว่ารถยนต์คงถอยหลังพันรางไปเสียทันก่อนที่รถรางจะแล่นไปถึง จึงมิได้หยุดรถราง คงปล่อยให้แล่นเรื่อยไป จนชนรถยนต์ที่ขวางทางอยุ่นั้น ดังนี้ถือได้ว่า จำเลยประมาทผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก
การวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่ ศาลล่างฟังมาว่าจะ+ประมาทปรืไม่นั้นเป็นข้อกฎหมาย
การวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่ ศาลล่างฟังมาว่าจะ+ประมาทปรืไม่นั้นเป็นข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเพียงพอของการบรรยายเหตุแห่งการประมาทในฟ้องอาญา
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า จำเลยเป็นผู้ขับรถรางไปในถนนหลวง โดยความประมาทปราศจากความระมัดระวังอันควรเป็นวิสัยของปกติชน เป็นเหตุให้รถรางคันที่จำเลยขับชนท้ายรถโดยสารประจำทางเสียหาย ดังนี้ ย่อมเป็นฟ้องที่บรรยายเหตุแห่งการประมาทของจำเลยไว้เพียงพอ โดยฉะเพาะข้อที่ว่า จำเลยขับรถด้วยความประมาทเป็นเหตุให้รถจำเลยชนท้ายรถประจำทางเสียหาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขับรถรางในทางแยก ต้องลดความเร็วและให้สัญญาณเสียงเพื่อความปลอดภัย
ขับรถรางเมื่อจะผ่านทางแยกไม่ได้ขับให้ช้าลงพอสมควร และไม่ได้ให้สัญญาณเสียก่อนในระยะเวลาพอสมควรที่จะทำให้ผู้ใช้ทางสัญจรไปมาได้ยินล่วงหน้าต้องมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร ม.13,32
ถนนสายใหญ่ที่มีถนนซอยตัดมาบรรจบที่ ๆ ถนนสอบสายตัดกันนี้เรียกว่าทางแยก
คดีอาญาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ปรับจำเลย 12 บาท จำเลยฎีกาได้แต่ฉะเพาะปัญหาข้อกฎหมาย
ถนนสายใหญ่ที่มีถนนซอยตัดมาบรรจบที่ ๆ ถนนสอบสายตัดกันนี้เรียกว่าทางแยก
คดีอาญาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ปรับจำเลย 12 บาท จำเลยฎีกาได้แต่ฉะเพาะปัญหาข้อกฎหมาย