พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15734/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด: การรวมกรรม, การรับฟังพยาน, และขอบเขตการฎีกา
ความผิดฐานเสพเมทแอมเฟตามีนของจำเลยที่ 2 นั้น แม้ศาลอุทธรณ์รอการลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 อันเป็นการแก้ไขมากก็ตาม แต่เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 2 ปี คดีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 219 เมื่อโจทก์ฎีกาขอให้ไม่รอการลงโทษนั้นเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการกำหนดโทษจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและต้องห้ามฎีกาตามบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าว
เมทแอมเฟตามีน และ 3, 4 - เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยที่ 1 มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย แม้จะเป็นยาเสพติดให้โทษคนละชนิดกันแต่ก็เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 เหมือนกันและเจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นยาเสพติดให้โทษทั้งสองชนิดในเวลาต่อเนื่องกระชั้นชิดกันแสดงว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนามีเมทแอมเฟตามีนและ 3, 4 - เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนตามคำฟ้องข้อ ก. กับข้อ ข. ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายด้วยกันจึงเป็นความผิดกรรมเดียวกัน ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษา ลงโทษจำเลยที่ 1 เป็น 2 กรรมนั้น จึงเป็นการมิชอบ ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
เมทแอมเฟตามีน และ 3, 4 - เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยที่ 1 มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย แม้จะเป็นยาเสพติดให้โทษคนละชนิดกันแต่ก็เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 เหมือนกันและเจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นยาเสพติดให้โทษทั้งสองชนิดในเวลาต่อเนื่องกระชั้นชิดกันแสดงว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนามีเมทแอมเฟตามีนและ 3, 4 - เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนตามคำฟ้องข้อ ก. กับข้อ ข. ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายด้วยกันจึงเป็นความผิดกรรมเดียวกัน ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษา ลงโทษจำเลยที่ 1 เป็น 2 กรรมนั้น จึงเป็นการมิชอบ ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2986/2554
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องไม่ชัดเจน ศาลลงโทษเกินกว่าฟ้องได้หรือไม่ และการรวมกรรมความผิด
โจทก์มิได้บรรยายฟ้องแยกการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสองพอที่จะเห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามฟ้องข้อ ค. ในแต่ละข้อหาเป็นแต่ละกรรมแยกต่างหากจากกัน แม้ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันบุกรุกทำให้เสียทรัพย์และทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองในข้อหาร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป ข้อหาทำให้เสียทรัพย์และข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส 2 กรรมเกินจากฟ้องหาได้ไม่ เพราะเป็นการขัดต่อ ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคหนึ่ง