พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1989/2548
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระงับคดีอาญาจากคำร้องถอนฟ้อง และการกำหนดโทษความผิดกรรมเดียวที่ยังเหลืออยู่
ในระหว่างฎีกา ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์ในความผิดข้อหากระทำชำเราตาม ป.อ. มาตรา 276 วรรคแรก อันเป็นความผิดอันยอมความกันได้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องจึงระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (2) ส่วนข้อหาบุกรุกตามมาตรา 365 (1) (2) (3) ประกอบมาตรา 364 ซึ่งมิใช่ความผิดอันยอมความกันได้นั้น ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 2 ยังมิได้กำหนดโทษแก่จำเลย เนื่องจากเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทกับข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา จึงกำหนดโทษเฉพาะข้อหากระทำชำเราซึ่งเป็นบทกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดเท่านั้น และอัตราโทษตามมาตรา 365 นั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนในส่วนการกระทำความผิดตามศาลชั้นต้น แม้จะยังไม่ได้กำหนดโทษแก่จำเลย แต่ก็เห็นได้ชัดว่า ไม่อาจกำหนดโทษเกินกว่าอัตราโทษตามมาตรา 365 ได้ ซึ่งคดีอาจจะต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคแรก จึงต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นกำหนดโทษในข้อหาบุกรุกแก่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1499/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องค่าบำเหน็จนายหน้าและการระงับคดีอาญาจากการประนีประนอมยอมความ
จำเลยเป็นผู้แทนจำหน่ายรถแทรกเตอร์ของโจทก์ เก็บเงินค่าเช่าซื้อรถแทรกเตอร์จากผู้เช่าซื้อลูกค้าของโจทก์ได้แล้ว เบียดบังยักยอกไม่นำส่งให้โจทก์ขาดบัญชีไป แล้วต่อมาจำเลยได้ทำบันทึกข้อตกลงให้ไว้กับพนักงานและทนายความของบริษัทโจทก์ยอมรับค้างชำระเงินที่ไม่นำส่งและยอมขอผ่อนชำระให้ อันมีลักษณะครบถ้วนเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 ภายหลังจำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง โจทก์จึงนำคดีมาฟ้องกล่าวหาจำเลยกระทำผิดฐานยักยอกเช่นนี้หาได้ไม่ เพราะสิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)
ฟ้องแย้งเรียกค่าบำเหน็จนายหน้าในการเป็นผู้แทนจำหน่ายรถแทรกเตอร์จากจำนวนเงินที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระค่าเช่าซื้อที่จำเลยเก็บได้จากผู้เช่าซื้อแล้วไม่นำส่งให้โจทก์หลายราย โดยคำฟ้องแย้งไม่มีรายละเอียดว่าจะได้จากเงินค่าเช่าซื้อที่เรียกเก็บจากผู้เช่าซื้อคนใดเป็นจำนวนเท่าใด และคิดเป็นบำเหน็จอย่างไร เป็นแต่กล่าวอ้างคลุม ๆ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น เท่านั้น เป็นคำฟ้องแย้งที่เคลือบคลุมเพราะโจทก์ไม่มีทางจะทราบและแก้ฟ้องแย้งของจำเลยได้
ฟ้องแย้งเรียกค่าบำเหน็จนายหน้าในการเป็นผู้แทนจำหน่ายรถแทรกเตอร์จากจำนวนเงินที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระค่าเช่าซื้อที่จำเลยเก็บได้จากผู้เช่าซื้อแล้วไม่นำส่งให้โจทก์หลายราย โดยคำฟ้องแย้งไม่มีรายละเอียดว่าจะได้จากเงินค่าเช่าซื้อที่เรียกเก็บจากผู้เช่าซื้อคนใดเป็นจำนวนเท่าใด และคิดเป็นบำเหน็จอย่างไร เป็นแต่กล่าวอ้างคลุม ๆ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น เท่านั้น เป็นคำฟ้องแย้งที่เคลือบคลุมเพราะโจทก์ไม่มีทางจะทราบและแก้ฟ้องแย้งของจำเลยได้