คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ระบุตัวผู้กระทำผิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3186/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานและการพิสูจน์ความผิดทางอาญา โดยเฉพาะการระบุตัวผู้กระทำผิด
เหตุเกิดในเวลากลางคืน บริเวณที่เกิดเหตุมีแสงสว่างไม่มากที่ผู้เสียหายที่ 1 ซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุ 6 ปี เบิกความว่าจำเลยเอาไฟแช็กมาจุดที่ปากนั้น แม้จะมีแสงสว่างเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่ในพฤติการณ์ที่กำลังถูกประทุษร้ายเช่นนั้น ผู้เสียหายที่ 1 ซึ่งเป็นเด็กย่อมต้องตกใจกลัวยากที่จะจำหน้าคนร้ายได้แม่นยำและจากคำเบิกความของผู้เสียหายที่ 2ว่าจำเลยเป็นเพื่อนบ้านกับตนรู้จักกันมาประมาณ 10 ปีแล้ว แสดงว่าผู้เสียหายที่ 1 ต้องเคยพบเห็นจำเลยมาก่อนเพราะบ้านอยู่ใกล้เคียงกันแต่กลับมิได้บอกผู้เสียหายที่ 2 ซึ่งเป็นบิดาหรือผู้ใดเลยว่าเคยเห็นหน้าคนร้ายมาก่อน ภาพคนร้ายที่ยกร่างตามคำบอกเล่าผู้เสียหายที่ 1 ก็มิได้คล้ายคลึงกับภาพของจำเลยตามภาพถ่าย คงเหมือนกันเพียงเป็นคนที่ไว้หนวดและเคราเท่านั้น การที่ผู้เสียหายที่ 1 ชี้ตัวจำเลยได้ถูกต้องในชั้นสอบสวนก็ไม่ปรากฏว่าคนที่เจ้าพนักงานตำรวจนำไปให้ผู้เสียหายที่ 1ชี้ตัวนั้นไว้หนวดและเคราทุกคนหรือไม่ น่าสงสัยว่าที่ผู้เสียหายที่ 1 อ้างว่าจำจำเลยได้นั้นจะจำได้จริงหรือไม่หรือจำได้เพียงการไว้หนวดและเคราเท่านั้น เมื่อพิจารณาประกอบกับการที่ผู้เสียหายที่ 1 เบิกความต่อศาลด้วยการพยักหน้าและส่ายหน้าเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากการใช้คำถามนำของโจทก์เกือบทั้งหมดด้วยแล้ว ทำให้เห็นว่าคำเบิกความของผู้เสียหายที่ 1ไม่มีน้ำหนักในการรับฟัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุตัวผู้กระทำผิดจากพยานหลักฐานที่ไม่ชัดเจนเพียงพอ ศาลฎีกายืนยกฟ้อง
วันเกิดเหตุเป็นคืนเดือนมืด ผู้เสียหายอ้างว่าจำเสียงของชายร่างเล็กที่สวมหมวกผ้าสีดำคลุมศีรษะและใบหน้าโดยโผล่ ให้เห็นเพียงลูกนัยน์ตาได้ว่าเป็นจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นคนรู้จักและเห็นหน้ามาก่อน ประกอบกับรูปร่างลักษณะของคนพูดก็ตรงกับจำเลยที่ 4 แต่ไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายจำรูปร่างและน้ำเสียง ของจำเลยที่ 4 ได้โดยอาศัยหลักการสังเกตจากอะไร และจำเลยที่ 4 มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากบุคคลทั่วไปอย่างไร เพียงบอกว่ารูปร่างคุ้น ๆ เหมือนเคยเห็น หรือรูปร่างลักษณะตรงกับจำเลยที่ 4 โดยไม่ทราบว่าที่ว่าคุ้น ๆ นั้นคุ้นเช่นใด และตรงกับรูปร่างของจำเลยที่ 4 ในส่วนไหนแม้จำเลยที่ 4 จะเสนอใช้ค่าเสียหายแต่ก็มิได้ยอมรับว่าเป็นผู้กระทำผิดแต่อย่างใด ทั้งจำเลยที่ 4 เมื่อถูกจับก็ปฏิเสธมาตลอดและไม่ได้หลบหนีไปไหน ดังนี้ พยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่พอฟังลงโทษจำเลยที่ 4 ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 297/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานในการระบุตัวผู้กระทำผิด: การพิจารณาปัจจัยแวดล้อมและข้อพิรุธของพยาน
พยานนั่งไปในกระบะท้าย รถยนต์ ขนาดหกล้อซึ่งแล่นไปตามถนนลูกรังด้วยความเร็วเกือบ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีฝุ่นฟุ้ง กระจายเต็มท้ายรถที่แล่นไป คนร้ายขับรถจักรยานยนต์ตามหลังรถที่พยานนั่ง ดังนี้ โอกาสที่พยานจะมองฝ่า ละอองฝุ่นที่ฟุ้ง กระจายเต็มท้ายรถที่ตนนั่งไปถึงขนาดเห็นหน้าคนร้ายชัดเจนนั้นย่อมไม่มีทางเป็นไปได้ ยิ่ง เป็นคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ประกอบกับมีช่วงเวลาเพียง 5 นาที ความเป็นไปไม่ได้ก็ยิ่ง มีมากขึ้นไปอีกจึงไม่น่าเชื่อว่าพยานจะจำคนร้ายได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องร่วมทำร้ายร่างกาย: การระบุตัวผู้กระทำความผิดไม่จำเป็นหากฟ้องว่าทั้งสองฝ่ายทำร้ายกัน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ฝ่ายหนึ่ง กับจำเลยที่ 2 ที่ 3 กับพวกอีกฝ่ายหนึ่งทั้งสองฝ่ายต่างเข้าทำร้ายซึ่งกันและกัน โดยจำเลยที่ 2ที่ 3 ใช้มือผลักและชกจำเลยที่ 1 ที่ใบหน้า ส่วนพวกที่หลบหนีคนหนึ่งใช้จอบตีจำเลยที่ 1 ย่อมมีความหมายว่า ฝ่ายของจำเลยที่2ที่ 3 ได้ร่วมกันกระทำความผิดในการทำร้ายฝ่ายจำเลยที่ 1 นั่นเองซึ่งโจทก์ก็ได้อ้างประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 มาด้วยแล้วแม้โจทก์จะไม่ได้บรรยายว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 คนใดผลักคนใดชกเป็นการกระทำร่วมกันหรือสมคบกันอย่างไร ก็ไม่ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 984-985/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องวิวาทต่อสู้: การระบุตัวผู้กระทำความผิดและฐานความผิดทำร้ายร่างกาย
กล่าวในฟ้องระบุถึงบุคคลตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปว่าเข้าทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันโดยไม่ระบุว่าใครทำร้ายใครนั้น ถือว่าระบุฟ้องเป็นกรณีวิวาทต่อสู้กัน โจทก์บรรยายฟ้องเป็นเรื่องวิวาทต่อสู้กัน แต่ขอให้ลงโทษฐานทำร้ายร่างกายและในการวิวาทนั้นไม่มีถูกทำร้ายถึงสาหัสดังนี้แม้จำเลยให้การรับสารภาพศาลก็ต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1211/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุตัวผู้กระทำผิดในคดีวิวาททำร้ายร่างกาย - การบรรยายฟ้องไม่ชัดเจน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลย 5 คนแย่งกันเปน 2 พวกใช้สาตราวุธวิวาททำร้ายร่างกายกันบาดเจ็บจำเลยรับสารภาพฝ่ายโจทก์จำเลยไม่สืบพะยานดังนี้ จะลงโทษจำเลยตาม ม.254 มิได้