พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 941/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานยืนยัน จำเลยร่วมปล้นทรัพย์ พยานระบุตัวได้ ชี้ตัวได้ และหลบหนีหลังเกิดเหตุ
แม้ผู้เสียหายจะเบิกความว่าขณะเกิดเหตุมีโอกาสเห็นหน้าคนร้ายชัดเจนอยู่นานพอสมควรจึงจำคนร้ายได้แต่ขณะเบิกความคดีนี้จำคนร้ายไม่ได้เพราะเวลาล่วงเลยมานานถึง 5 ปีเศษแล้วก็ตาม แต่ผู้เสียหายเคยเบิกความไว้ในคดีอาญาก่อนว่าในคืนเกิดเหตุจำคนร้ายได้ 1 คน ทราบชื่อภายหลังว่า ชื่อ อ.และได้ชี้บุคคลที่ศาลทำเครื่องหมายดอกจันไว้ในภาพถ่ายในคดีดังกล่าวประกอบคำเบิกความว่าคือ อ.จำเลยคดีนี้ ซึ่งจำเลยก็ยอมรับว่าบุคคลที่ศาลทำเครื่องหมายดอกจันไว้ในภาพถ่ายคือจำเลย จึงมีเหตุให้น่าเชื่อว่าขณะเกิดเหตุพยานจำคนร้ายได้ว่าเป็นจำเลยและสามารถชี้ภาพถ่ายจำเลยได้ถูกต้อง ส่วนประจักษ์พยานโจทก์อีก 3 ปาก เป็นเจ้าพนักงานตำรวจที่ออกตรวจท้องที่ในคืนเกิดเหตุก็เพราะได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนร้าย ซึ่งในภาวะและพฤติการณ์เช่นนั้นประจักษ์พยานย่อมมีความระมัดระวังต่อเหตุการณ์ทุกขณะ การที่รถแล่นมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่เปลี่ยวและมีคนออกมายืนข้างถนนส่องไฟฉายขึ้นลงเป็นสัญญาณ ให้รถหยุดย่อมมีเหตุให้ระแวงสงสัยว่าอาจจะเป็นคนร้ายที่มาดักปล้นรถยนต์ทั้งคนร้ายที่ส่องไฟฉายให้สัญญาณรถยนต์ซึ่งกระทำอยู่หน้ารถย่อมจะหันหน้าเข้าหารถและแสงไฟจากหน้ารถ ก็จะส่องไปที่หน้าคนร้าย ประจักษ์พยานทั้งสามซึ่งคอยระมัดระวังเหตุอยู่แล้วย่อมสนใจมองไปที่คนร้ายที่ส่องไฟฉายว่าจะเป็นพวกที่มาดักปล้นรถหรือไม่ เพราะขณะนั้นก็มีรถจักรยานยนต์จอดอยู่คนละฟากถนน 1 คันและมีชายยืนอยู่ข้างรถ 2 คน แสงไฟหน้ารถที่ส่องสว่างก็สามารถเห็นได้ ตั้งแต่ระยะ 50 เมตรจนกระทั่งรถแล่นเข้าไปใกล้และจอดในระยะห่าง จากคนร้ายประมาณ 10 เมตร ในพฤติการณ์ดังกล่าวประจักษ์พยานโจทก์ทั้งสามย่อมมีโอกาสเห็นหน้าคนร้ายชัดเจน ประกอบกับประจักษ์พยานโจทก์ต่างก็รู้จักจำเลยดีเพราะเคยจับกุมจำเลยมาก่อน ดังนั้น ที่ประจักษ์พยานยืนยันว่า จำหน้าคนร้ายที่ส่องไฟฉายขึ้นลงเป็นสัญญาณให้หยุดได้ว่าเป็นจำเลยและชี้ตัวจำเลยในชั้นสอบสวนได้ถูกต้องด้วยจึงน่าเชื่อถือนอกจากนี้ ในคืนเกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจได้ยิงต่อสู้กับคนร้ายด้วย ซึ่งต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจก็ติดตามจับ ส. ได้เพราะถูกยิงได้รับบาดเจ็บไปรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล แสดงว่าเจ้าพนักงานตำรวจได้ทราบชื่อคนร้ายตั้งแต่คืนเกิดเหตุจึงช่วยสนับสนุนให้คำเบิกความของประจักษ์พยานโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อยิ่งขึ้น อนึ่ง หลังเกิดเหตุแล้วจำเลยหลบหนีไปนานถึง 5 ปีเศษ นับว่าเป็นพิรุธ ที่จำเลยนำสืบปฏิเสธอ้างฐานที่อยู่ก็เป็นการนำสืบลอย ๆ มีน้ำหนักน้อยไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ ฟังได้ว่าจำเลย กับพวกได้ร่วมกับ ส. กระทำความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์ตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 941/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดผู้รับมรดกที่เป็นหลานในพินัยกรรม ต้องสามารถระบุตัวผู้รับได้แน่นอน
เจ้ามรดกทำพินัยกรรมมีข้อกำหนดว่า หากข้าพเจ้าถึงแก่กรรมทรัพย์มรดกทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนี้หรือจะเกิดมีขึ้นในอนาคต ให้ ส. เป็นผู้จัดการมรดกและรวบรวมเอาจัดการศพและทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ข้าพเจ้าตามสมควร ส่วนที่เหลือนอกนั้นให้จัดการแบ่งปันแก่หลานๆ ของข้าพเจ้า นั้นเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าเจ้ามรดกไม่มีลูก และเจ้ามรดกมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันอีก 3 คน คือ ป. ผ. และ ท. โดยเจ้ามรดกเป็นคนสุดท้อง ฉะนั้น หลานตามข้อกำหนดในพินัยกรรมจึงหมายถึงลูกของพี่ของเจ้ามรดกดังกล่าวที่มีชีวิตอยู่ทุกคน อันเป็นการกำหนดบุคคลซึ่งอาจทราบตัวแน่นอนได้ เป็นผู้รับพินัยกรรม ข้อกำหนดในพินัยกรรมดังกล่าวจึงไม่เป็นโมฆะ