คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ระมัดระวัง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7231/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถชนคนข้ามถนน ผู้ขับมีหน้าที่ต้องระมัดระวังและให้สิทธิคนเดินเท้า
จำเลยขับรถโดยสารมาติดสัญญาณจราจรไฟสีแดงหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเป็นคันแรกโดยจอดอยู่ช่องขวาสุดริมเกาะกลางถนนเพื่อเลี้ยวขวาไปทางท่าช้าง เวลาเดียวกันส.และผู้ตายกำลังจะข้ามถนนเมื่อส. และผู้ตายก้าวลงจากทางเท้าข้ามถนนตรงทางข้ามนั้นเป็นจังหวะเดียวกับสัญญาณไฟจราจรซึ่งอยู่ข้างหน้าจำเลยเปลี่ยนเป็นไฟสีเขียว จำเลยจึงเร่ง ออกรถโดยไม่ทันดูว่าส. และผู้ตายกำลังข้ามถนนในทางข้ามอยู่ ถึงแม้จำเลยจะเลี้ยงขวาเมื่อสัญญาณจราจรไฟสีเขียว จำเลยก็จะต้องขับรถด้วยความระมัดระวังและต้องให้สิทธิแก่คนเดินเท้าในทางข้ามด้วยตามมาตรา 22(4) วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 จำเลยมิได้ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว จึงเป็นการขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ ส. ได้รับอัตราสาหัสและผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291,300 พระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 22(4),43(4),152 และ 157

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 390/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทของผู้ขับขี่คันหลัง: หน้าที่ในการระมัดระวังและรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า
จำเลยที่ 1 ขับรถประมาทตัดหน้ารถยนต์ของโจทก์โดยกะทันหัน ผู้ขับรถยนต์ของโจทก์ได้ระมัดระวังและหยุดรถยนต์ทันทีเพื่อป้องกันมิให้ชนกับรถยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับ แต่จำเลยที่ 3ซึ่งขับรถยนต์ตามหลังรถยนต์ของโจทก์มา ไม่ใช้ความระมัดระวังทำให้หยุดรถไม่ทันและชนท้ายรถยนต์ ของโจทก์แล้วดันรถยนต์ของโจทก์ไปชนรถยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับ จึงเป็นความประมาทของจำเลยที่ 3 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3002/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับขี่: ผู้ขับขี่ต้องระมัดระวังหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง แม้ผู้ถูกชนมิได้ติดตั้งสัญญาณเตือน
จำเลยขับรถยนต์บรรทุกไม้กระดาน โดยไม้กระดานบางส่วนยื่นพันท้ายรถออกไป 1 เมตรเศษ ขณะจอดรถเพื่อรอเลี้ยวตรงเกาะกลางถนนโจทก์ขับรถยนต์ไปชนถูกไม้กระดานที่ยื่นออกมานั้น ขณะเกิดเหตุท้องฟ้ากำลังสลัว พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน แต่ยังไม่มืดและไม้กระดานที่ยื่นมีจำนวนมากแผ่น ย่อมมองเห็นชัดเจนในระยะไกล หากโจทก์ระมัดระวังย่อมสังเกตเห็น และหลบหลีกไม่ให้ชนถูกไม้กระดานที่ยื่นการเกิดเหตุชนกันจึงเป็นเพราะโจทก์ขับรถโดยประมาทปราศจากความระมัดระวัง แม้จำเลยมิได้ติดสัญญาณไฟหรือผ้าสีแดงไว้ที่ปลายไม้กระดาน โจทก์ก็เป็นฝ่ายประมาทมากกว่า โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานเบิกความขัดแย้ง เหตุผลไม่สมเหตุสมผล และการฟังพยานด้วยความระมัดระวัง
จำเลยกับผู้เสียหายมีสาเหตุโกรธเคืองกัน ผู้เสียหายแจ้งตำรวจจับจำเลยก็เพียงสงสัยว่าจำเลยเป็นผู้ตัดฟันต้นยางไม่ใช่แจ้งเพราะ ทราบจากภริยา ชั้นสืบพยานภริยาผู้เสียหายเบิกความว่าเห็นจำเลย ตัดฟันต้นยางของผู้เสียหาย แต่ไม่บอกให้ผู้เสียหายทราบ ดังนี้ ประจักษ์พยานโจทก์มีภริยาผู้เสียหายปากเดียว และเคยมีสาเหตุ โกรธเคืองกัน จึงต้องฟังด้วยความระมัดระวัง ทั้งคำเบิกความขาดเหตุผล จึงรับฟังลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2090/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทเลินเล่อในการจุดไฟเผาพื้นที่ และการไม่ระมัดระวังจนเกิดเพลิงไหม้ลุกลามเสียหาย
แม้ก่อนจะจุดไฟเผาสวนของจำเลย จำเลยได้ถากถางต้นไม้เพื่อกันไฟมิให้ลุกลามติดสวนของผู้อื่น และไฟที่จำเลยจุดมิได้ลุกลามไปติดสวนของผู้เสียหายในทันทีก็ตาม แต่การที่จำเลยมิได้ใช้ความระมัดระวังตรวจตราดูและดับไฟที่จำเลยจุดเผาสวนไว้ก่อนเกิดเหตุ 3-4 วันให้หมด ปล่อยไว้ให้ติดคุขอนไม้จนเป็นเหตุให้ลุกลามไปไหม้ทรัพย์สินของผู้เสียหายจำเลยย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้ทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท และเป็นเหตุให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายจำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3231-3233/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่เจ้าหน้าที่รัฐในการจัดซื้อที่ดินต้องระมัดระวัง ป้องกันความเสียหายจากการซื้อขายที่ไม่สุจริต
การที่คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการจัดซื้อที่ดินให้ทางราชการว่า "การจัดซื้อควรติดต่อโดยตรงกับเจ้าของที่ดินด้วย" นั้น คำว่า "ควร" ไม่ได้หมายความว่า ผู้มีหน้าที่จัดซื้อที่ดินไม่จำต้องติดต่อโดยตรงกับเจ้าของที่ดินทุกรายเสมอไป เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีอำนาจหน้าที่ในการจัดซื้อที่ดินย่อมต้องมีหน้าที่รับผิดชอบในการป้องกันรักษาประโยชน์ของรัฐมิให้เกิดเสียหาย เพื่อป้องกันมิให้ผู้ใดฉวยโอกาสแสวงหาผลประโยชน์ในการเป็นนายหน้าเสนอขายที่ดินให้แก่ทางราชการโดยที่ตนเองมิได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
แม้จำเลยจะถูกฟ้องในคดีอาญาข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการจัดซื้อที่ดินโดยมิชอบและทุจริต และมีคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีส่วนอาญาให้ยกฟ้องแล้วก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ฟ้องเป็นคดีแพ่งให้จำเลยรับผิดในมูลละเมิดอันเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อจึงเป็นข้อเท็จจริงคนละประเด็นต่างหากจากคดีอาญาศาลมีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำโดยประมาทนั้นได้ไม่เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2794/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขับขี่รถยนต์ต่อการชนบุคคลอื่น แม้ไม่ได้ข้ามทางม้าลาย ผู้ขับขี่มีหน้าที่ระมัดระวัง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ขับรถชนโจทก์เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2519 แต่กลับนำสืบว่าจำเลยที่ 1 ขับรถชนโจทก์เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2519 เมื่อจำเลยไม่ได้หลงต่อสู้ในเรื่องวันที่ทำละเมิด โดยต่อสู้ว่าจำเลยไม่ได้เป็นฝ่ายละเมิดจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะปัญหาสำคัญอยู่ที่ว่าจำเลยเป็นฝ่ายละเมิดในการขับรถชนโจทก์ครั้งนี้หรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถ ผู้ขับขี่มีหน้าที่ต้องระมัดระวังเมื่อเห็นยานพาหนะขับขี่ผิดปกติ
จำเลยขับรถประจำทางมาตามถนนได้เห็นรถยนต์บรรทุกคันหนึ่งกำลังแล่นสวนทางมาในระยะห่างไปไม่น้อยกว่า 50 เมตร ในลักษณะผิดธรรมดา โดยแล่นกินทางตรงข้ามเข้ามาด้วยความเร็วสูงและส่ายไปมา เช่นนี้จำเลยควรมีหน้าที่หยุดรถหรือชลอรถแอบเข้าข้างทาง แต่กลับคงขับรถต่อไป และเพิ่งจะห้ามล้อเมื่อใกล้กันในระยะเพียง 7-8 เมตร และหักรถไปทางขวาเป็นเหตุให้รถชนกับรถบรรทุกนั้นจนมีผู้ตายและบาดเจ็บถือว่าเป็นการกระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์และอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้เพียงพอไม่ จำเลยจึงมีความผิดฐานประมาททำให้คนตายและบาดเจ็บ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลี้ยวรถขวางทางเดินรถของผู้อื่น ถือเป็นความประมาททำให้เกิดอุบัติเหตุ ผู้ขับขี่มีหน้าที่ต้องระมัดระวัง
ในกรณีที่รถแล่นคนละช่อง ต้องรักษาช่องเดินรถของตน เมื่อจะเปลี่ยนช่องต้องระวังมิให้กีดขวางรถที่แล่นอยู่ในช่องนั้น ๆ เมื่อจะเลี้ยวรถทางซ้ายจะต้องแล่นชิดขอบทางด้านซ้าย จะเลี้ยวได้เมื่อสามารถกระทำได้โดยปลอดภัย ถ้าหากแล่นเข้าไปกีดขวางในช่องทางเดินรถอื่นแล้ว อันตรายเกิดขึ้นเพราะการกระทำของตนจะต้องรับผิด เมื่อให้สัญญาณเลี้ยวแล้ว จะเลี้ยวทันทีไม่ได้ เพราะไม่สามารถจะป้องกันอันตรายได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถราง: ผู้ขับมีหน้าที่ระมัดระวัง แม้คาดการณ์ว่ารถยนต์จะหลีกทาง
จำเลยขับรถรางมาในระยะไกลได้เห็นรถยนต์ขวางทางรถรางอยู่แต่เข้าใจว่ารถยนต์คงถอยหลังพ้นรางไปเสียทันก่อนที่รถรางจะแล่นไปถึง จึงมิได้หยุดรถราง คงปล่อยให้แล่นเรื่อยไป จนชนรถยนต์ที่ขวางทางอยู่นั้นดังนี้ถือได้ว่า จำเลยประมาทผิดตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก
การวินิจฉัยจากข้อเท็จจริงที่ศาลล่างฟังมาว่าจะเป็นประมาทหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
of 2