คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ระยะใกล้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5664/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการยิงใกล้ระยะ แม้อ้างยิงขู่ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยว่าเป็นการกระทำโดยเจตนา
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายในระยะห่างเพียง 3 เมตร ถูกที่บริเวณเอวของผู้เสียหายอันเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกายซึ่งหากรักษาไม่ทันท่วงทีอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ถือได้ว่าจำเลยกระทำไปโดยเจตนาฆ่าผู้เสียหายแล้ว หากเป็นเพียงการยิงขู่ จำเลยก็มีโอกาสที่จะยิงไปยังทิศทางอื่นที่มิใช่ทิศทางที่ผู้เสียหายยืนอยู่ เช่นยิงขึ้นฟ้า เป็นต้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5409/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากเหตุยิงในระยะใกล้ และความผิดต่อเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่
จำเลยทั้งสองไล่ตามผู้เสียหายที่ 1 และที่ 2 มาถึงที่เกิดเหตุและขณะเกิดเหตุผู้เสียหายที่ 1 ที่ 2 ได้เข้าไปนั่งรวมอยู่ในกลุ่มของผู้เสียหายที่ 3 ถึงที่ 6 แล้ว จำเลยทั้งสองตามมาถึงโดยอยู่ห่างไปประมาณ 2 วา พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มผู้เสียหายทันที เมื่อปรากฏว่าอาวุธปืนที่ใช้ยิงเป็นอาวุธปืนลูกซองสั้น และยิงในระยะใกล้ชิดเช่นนี้ จำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่ากระสุนปืนอาจถูกผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ จึงถือได้ว่าจำเลยทั้งสองมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายโดยตรง มิใช่เป็นการกระทำโดยพลาด
ผู้เสียหายที่ 3 ที่ 4 เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่งเครื่องแบบถูกยิงขณะที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายที่ 1 และที่ 2 ว่าถูกคนร้ายไล่ยิง และผู้เสียหายที่ 3 กำลังสอบปากคำผู้เสียหายที่ 1 ที่ 2เพื่อติดตามจับกุมคนร้าย ถือว่าผู้เสียหายที่ 3 ที่ 4 ถูกยิงขณะปฏิบัติหน้าที่ การที่จำเลยทั้งสองไล่ตามผู้เสียหายที่ 1 และที่ 2มาจนถึงที่เกิดเหตุสามารถมองเห็นผู้เสียหายที่ 3 และที่ 4 ซึ่งแต่งเครื่องแบบตำรวจได้ชัดเจน ก็ย่อมทราบได้ทันทีว่าผู้เสียหายที่ 1 และที่ 2 หลบหนีเพื่อมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่จำเลยทั้งสองก็ยังยิงปืนใส่กลุ่มผู้เสียหาย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายที่ 6 ถึงแก่ความตาย ผู้เสียหายที่ 4 และที่ 5 ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส จำเลยทั้งสองจึงมีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้เสียหายที่ 6 ร่วมกันพยายามฆ่าผู้เสียหายที่ 1 ที่ 2 และที่ 5และร่วมกันพยายามฆ่าผู้เสียหายที่ 3 และที่ 4 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานเพราะเหตุที่จะกระทำการตามหน้าที่ แต่การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท จึงต้องลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นอันเป็นบทหนัก
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานเพราะเหตุที่จะกระทำการตามหน้าที่อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(2), 80 แต่มิได้ปรับบทลงโทษมาด้วย และที่ศาลชั้นต้นลดโทษที่จะลงแก่จำเลยที่ 1 ก็มิได้ปรับบทตามมาตรา 52(1) เป็นการไม่ถูกต้องชัดแจ้ง แม้โจทก์มิได้ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยให้ถูกต้องได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1598/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัว: การยิงตอบโต้เมื่อถูกทำร้ายด้วยอาวุธปืนในระยะใกล้ ถือเป็นการกระทำที่สมควรแก่เหตุ
ขณะเกิดเหตุผู้ตายเรียกจำเลยไปหา กล่าวหาว่าจำเลยขัดขวางผู้ตายและพูดเป็นทำนองจะฆ่าจำเลย. พร้อมทั้งชักปืนจะยิงจำเลยก่อนในระยะใกล้เพียง 2 ศอก. จำเลยจึงยิงโต้ตอบผู้ตายในขณะนั้น. ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย. และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง อันจำเลยจำต้องกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตน.
การทะเลาะกันด้วยวาจาแล้วฝ่ายหนึ่งทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่ง.ถ้าฝ่ายที่ถูกทำร้ายมิได้สมัครใจทำร้ายโต้ตอบด้วย. ฝ่ายที่ถูกทำร้ายย่อมป้องกันสิทธิของตนได้โดยชอบด้วยกฎหมาย.เพราะเพียงทะเลาะกันด้วยวาจาไม่ทำให้ฝ่ายหนึ่งทำร้ายร่างกายหรือชีวิตของอีกฝ่ายหนึ่งได้โดยชอบ. ต่อเมื่อฝ่ายหลังสมัครใจทำร้ายโต้ตอบ. จึงจะเป็นเรื่องต่างฝ่ายต่างสมัครใจซึ่งกันและกันอันเป็นการละเมิดต่อกฎหมายด้วยกัน.ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจึงจะอ้างว่ากระทำเพื่อป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายมิได้.
บริเวณที่เกิดเหตุเป็นที่โล่ง เมื่อผู้ตายชักปืนจะยิงจำเลย. จำเลยกระโดดหนีไปข้างหลังผู้ตายในระยะใกล้. เห็นได้ว่าจำเลยยังไม่พ้นภยันตรายที่จะถูกผู้ตายยิง. ในเวลาฉุกละหุกเช่นนี้จำเลยย่อมตัดสินใจกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนได้ตามควรแก่กรณีโดยไม่จำต้องวิ่งหนี. การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุกรณีเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายซึ่งผู้กระทำไม่มีความผิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1476/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการยิงด้วยอาวุธร้ายแรง: การพิจารณาจากระยะ, ตำแหน่งที่ยิง, และอาวุธที่ใช้
จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายด้านหลังในระยะห่างประมาณ 1 วา ยิงไปที่สบักซ้ายซึ่งเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย ย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1945/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากความหึงหวง การยิงในระยะใกล้ถือเป็นหลักฐานสำคัญ
จำเลยกับผู้เสียหายต่างรักใคร่กับหญิงคนรักคน ๆ เดียวกัน คนรักถูกผู้ปกครองต่อว่าเสียใจวิ่งขึ้นบนห้อง จำเลยตามขึ้นไปผู้เสียตามขึ้นไปภายหลัง ถามจำเลยว่ามึงมาใหญ่โตที่นี่หรือ จำเลยยกมือไหว้ว่ามีอะไรสั่งสอนผม ๆ นับถือพี่พงษ์ (ผู้เสียหาย) แล้วจำเลยกับผู้เสียหายใช้มือผลักกันไปมาคนรักหนีเข้าห้อง จำเลยวิ่งหนีไปอีกห้องติด ๆ กัน ผู้เสียหายตามเข้าไปกอดคนรักและพูดว่า "พี่อยู่ทั้งคนไม่ต้องกลัว" ทันใดจำเลยอยู่หน้าประตูห้องคนรักก็ยิงผู้เสียหาย ดังนี้การกระทำของผู้เสียหายหาใช่เป็นการข่มเหงไม่และไม่ใช่เป็นการชวนวิวาทเพราะ เมื่อจำเลยหนีเข้าไปในห้องอีกห้องหนึ่ง ผู้เสียหายไม่ได้ติดตามเข้าไปหรือพูดอะไรกับจำเลยอีก ผู้เสียหายพูดว่าจำเลยในฐานเป็นผู้ใหญ่กว่า การผลักกันไปมานั้นก็ไม่หมายความว่าผู้เสียหายผลักจำเลยเป็นการชวนทำร้าย
อาวุธปืนเป็นของร้ายแรง แผลที่จำเลยยิงก็อยู่ใกล้อวัยวะส่วนสำคัญของร่างกาย จำเลยยิงในระยะใกล้ ๆ 1 วาเศษ อย่างน้อย 2 นัด และยิงเพราะความหึงหวงที่ผู้เสียหายกอดหญิงที่ตนรักใคร่ จึงส่อให้เห็นว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าตาม ม.249 ไม่ใช่ 256.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1045/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ปืนยิงในระยะใกล้หลายนัดแสดงเจตนาฆ่า แม้ไม่สำเร็จถือเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า
การที่จำเลยใช้ปืนสั้นยิงในระยะใกล้ กระสุนปืนถูกผู้เสียหายมีบาดแผลถึง 7 แห่ง ดังนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าให้ตายแต่เผอิญถูกในที่ไม่สำคัญจึงไม่ตายจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน
เมื่อจำเลยเป็นผู้ก่อเหตุใช้ปืนยิงผู้เสียหายก่อน ผู้เสียหายจึงทำร้ายจำเลย ๆ ก็ยิงอีก หาใช่เป็นการป้องกันตัวดั่งข้อต่อสู้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1045/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าและการป้องกันตัว: การใช้ปืนยิงในระยะใกล้แสดงเจตนาฆ่า แม้ไม่สำเร็จ
การที่จำเลยใช้ปืนสั้นยิงในระยะใกล้ กระสุนปืนถูกผู้เสียหายมีบาดแผลถึง 7 แห่ง ดังนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าให้ตายแต่เผอิญถูกในที่ไม่สำคัญจึงไม่ตาย จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน
เมื่อจำเลยเป็นผู้ก่อเหตุใช้ปืนยิงผู้เสียหายก่อน ผู้เสียหายจึงทำร้ายจำเลยจำเลยก็ยิงอีก หาใช่เป็นการป้องกันตัวดั่งข้อต่อสู้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1045/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า vs. ป้องกันตัว: การใช้ปืนยิงในระยะใกล้หลายนัดแสดงถึงเจตนาฆ่า แม้ไม่สำเร็จ
การที่จำเลยใช้ปืนสั้นยิงในระยะใกล้ กระสุนปืนถูกผู้เสียหายมีบาดแผลถึง 7 แห่ง ดังนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าให้ตายแต่เผอิญถูกในที่ไม่สำคัญจึงไม่ตาย จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน
เมื่อจำเลยเป็นผู้ก่อเหตุใช้ปืนยิงผู้เสียหายก่อน ผู้เสียหายจึงทำร้ายจำเลยจำเลยก็ยิงอีก หาใช่เป็นการป้องกันตัวดั่งข้อต่อสู้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่า vs. ทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาชนิดและระยะใกล้ของอาวุธในการประเมินเจตนา
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249, 60 ศาลชั้นต้นไม่เชื่อข้อ เท็จจริง พิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254 จำคุก 2 ปี ดังนี้ ดจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฐานพยายามฆ่าคนตามมาตรา 249 - 60 ได้, ไม่ต้องห้าม.
ปืนที่จำเลยใช้ยิงเขาเป็นปืนลูกซองพก ยาวราว 1 คืบ กระสุนโตเท่าเมล็ดพริกไทย ยิงในระยะห่าง 5 วา ถูกผู้เสีย หายกระสุนฝังเนื้อกล้าม หมอได้แคะออกแสดงว่า ฝังอยู่ตื้น ๆ ผู้เสียหายคนหนึ่งรักษาบาดแผล 10 วัน หาย อีกคน หนึ่งรักษา 6 - 7 วันหาย ประกอบกับโจทก์ไม่ได้สืบว่าปืนนี้ หรือปืนชะนิดนี้อย่างนี้มีกำลังแรงมากน้อยเพียงไร สามารถยิงให้หถึงตายได้หรือไม่ นั้น ควรฟังว่าปืนที่ยิงนั้น ไม่สามารถจะทำให้ผู้ถูกยิงถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึง ยังไม่ผิดฐานพยายามฆ่าคนตาย คงผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บ เท่านั้น. /

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1201/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า: การยิงด้วยอาวุธร้ายแรงในระยะใกล้ถือเป็นหลักฐานแสดงเจตนาได้ แม้จะอ้างเหตุผลอื่น
ใช้ปืนลองยิงคนที่อ้างว่าอยู่คงวิธีพิจารณาอาชญากรรมชี้เจตนา ใช้อาวุธปืนยิงเขาในระยะใกล้ ๆ และหมายถูกที่สำคัญ เปนการแสดงเจตนาจะฆ่าทำร้ายเขาแล้วได้รีบเข้าช่วยประคับประคองทันที นับว่าเปนการบันเทาผลร้าย