พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3936/2543 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานสำเนาเอกสาร หากจำเลยไม่โต้แย้ง ถือเป็นความยินยอมและรับรองความถูกต้อง
จำเลยมิได้โต้แย้งความถูกต้องของสำเนาเอกสารก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาตามขั้นตอนที่ ป.วิ.พ.มาตรา 125 วรรคสามและวรรคสี่ กำหนดไว้ ถือได้ว่าเป็นการตกลงรับรองความถูกต้องแห่งสำเนาเอกสารดังกล่าว และผู้อ้างไม่จำต้องส่งต้นฉบับเอกสารอีกตาม มาตรา 93 (1) สำเนาเอกสารนั้นย่อมรับฟังได้เสมอกับต้นฉบับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2709/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าหนี้ในการฟ้องคดีล้มละลาย และการรับรองความถูกต้องของเอกสารสำเนา
ในกรณีเจ้าหนี้มีลูกหนี้หลายคน เจ้าหนี้จะฟ้องลูกหนี้คนใดและจะฟ้องอย่างไร ย่อมเป็นสิทธิของเจ้าหนี้ที่จะเลือกกระทำได้ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้จึงมีสิทธิฟ้องลูกหนี้คนอื่น ๆ เป็นคดีล้มละลายโดยไม่จำต้องฟ้องจำเลยด้วย ทั้งการที่โจทก์ไม่ได้ฟ้องจำเลยในคดีล้มละลายดังกล่าว ย่อมเป็นคุณแก่จำเลยในอันที่จะไม่ต้องตกเป็นบุคคลล้มละลาย และแม้ต่อมาลูกหนี้คนอื่น ๆ จะตกเป็นบุคคลล้มละลายก็ตาม จำเลยก็หาได้หลุดพ้นจากความรับผิดต่อโจทก์ไม่ โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ โดยไม่จำต้องคำนึงว่าจำเลยจะขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายได้หรือไม่ และจะเสียสิทธิในการไล่เบี้ยหรือไม่ เพราะการไล่เบี้ยเป็นเรื่องระหว่างลูกหนี้ด้วยกันเอง กรณีถือไม่ได้ว่าโจทก์ใช้สิทธิฟ้องจำเลยโดยไม่สุจริต
โจทก์นำสำเนาภาพถ่ายของต้นฉบับเอกสารที่สูญหายไปมาสืบว่าถูกต้องกับต้นฉบับ แม้จะไม่ปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้โจทก์นำสำเนาเอกสารหรือพยานบุคคลมาสืบก็ตาม แต่การที่ศาลชั้นต้นยอมให้โจทก์นำสำเนาหนังสือสัญญาเอกสารและพยานบุคคลมาสืบ ถือได้ว่าศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้โจทก์นำสำเนาเอกสารและพยานบุคคลมาสืบแล้ว สำเนาหนังสือสัญญาดังกล่าวจึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานแห่งเอกสารดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 93(2)
ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นควรให้จำเลยใช้แทนโจทก์ตามทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี แทนที่จะให้ใช้ตามทุนทรัพย์ที่โจทก์ฟ้องคดีนั้นเป็นดุลพินิจของศาล เมื่อไม่นอกเหนือไปจากบทบัญญัติกฎหมายก็ไม่มีเหตุที่จะต้องแก้ไข
โจทก์นำสำเนาภาพถ่ายของต้นฉบับเอกสารที่สูญหายไปมาสืบว่าถูกต้องกับต้นฉบับ แม้จะไม่ปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้โจทก์นำสำเนาเอกสารหรือพยานบุคคลมาสืบก็ตาม แต่การที่ศาลชั้นต้นยอมให้โจทก์นำสำเนาหนังสือสัญญาเอกสารและพยานบุคคลมาสืบ ถือได้ว่าศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้โจทก์นำสำเนาเอกสารและพยานบุคคลมาสืบแล้ว สำเนาหนังสือสัญญาดังกล่าวจึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานแห่งเอกสารดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 93(2)
ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นควรให้จำเลยใช้แทนโจทก์ตามทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี แทนที่จะให้ใช้ตามทุนทรัพย์ที่โจทก์ฟ้องคดีนั้นเป็นดุลพินิจของศาล เมื่อไม่นอกเหนือไปจากบทบัญญัติกฎหมายก็ไม่มีเหตุที่จะต้องแก้ไข
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 897/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารพยานร่วมกัน การนำสืบหักล้างข้อความในเอกสาร หากไม่ได้การรับรองความถูกต้อง
ในกรณีที่โจทก์และจำเลยอ้างเอกสารเป็นพยานร่วมกันและความในเอกสารนั้นแสดงไปในทางที่ว่าจำเลยเป็นฝ่ายออกเงินสร้างเรือนคือสมข้างข้อต่อสู้ของจำเลยก็ตาม แต่เมื่อโจทก์อ้างว่าโจทก์ก็มีส่วนออกทุนสร้างเรือนด้วยและโจทก์จะขอนำสืบว่าโจทก์เป็นฝ่ายออกเงินสร้างเรือนด้วยนั้น โจทก์จะนำสืบได้หรือไม่นั้นย่อมอยู่ที่ว่า เอกสารดั่งกล่าวนั้นโจทก์ได้รับรองความถูกต้องแท้จริงหรือไม่ ถ้าเป็นแต่เพียงโจทก์อ้างเอกสารร่วมกับจำเลยจะให้หมายความว่าโจทก์รับรองความถูกต้องแท้จริงไปในตัวยังหาชอบไม่ เมื่อไม่ได้ความว่าโจทก์รับรองความถูกต้องแท้จริงของเอกสาร โจทก์จึงมีสิทธินำพยานบุคคลเข้าสืบหักล้างได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 897/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างเอกสารร่วมกันและการนำสืบหักล้างข้อความในเอกสารเมื่อไม่ได้การรับรองความถูกต้อง
ในกรณีที่โจทก์และจำเลยอ้างเอกสารเป็นพยานร่วมกันและความในเอกสารนั้นแสดงไปในทางที่ว่าจำเลยเป็นฝ่ายออกเงินสร้างเรือนคือสมข้างข้อต่อสู้ของจำเลยก็ตามแต่เมื่อโจทก์อ้างว่าโจทก์ก็มีส่วนออกทุนสร้างเรือนด้วยและโจทก์จะขอนำสืบว่าโจทก์เป็นฝ่ายออกเงินสร้างเรือนด้วยนั้นโจทก์จะนำสืบได้หรือไม่นั้นย่อมอยู่ที่ว่า เอกสารดังกล่าวนั้นโจทก์ได้รับรองความถูกต้องแท้จริงหรือไม่ถ้าเป็นแต่เพียงโจทก์อ้างเอกสารร่วมกับจำเลยจะให้หมายความว่าโจทก์รับรองความถูกต้องแท้จริงไปในตัวยังหาชอบไม่เมื่อไม่ได้ความว่าโจทก์รับรองความถูกต้องแท้จริงของเอกสารโจทก์จึงมีสิทธินำพยานบุคคลเข้าสืบหักล้างได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานจากสำเนาเอกสารที่รับรองความถูกต้อง
จำเลยอ้างต้นฉบับรายงานเบ็ดเสร็จประจำวันของสถานีตำรวจเป็นพยานต่อศาล แต่ผู้บังคับกองตำรวจคัดสำเนาส่งมาให้โดยรับรองว่าเป็นสำเนาอันแท้จริง ดังนี้ถ้าโจทก์มิได้คัดค้านว่าเจ้าหน้าที่คัดสำเนาผิดจากต้นฉบับแล้ว ศาลก็ชอบที่จะฟังสำเนาเอกสารนั้น เป็นพยานหลักฐานได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 238 หาจำต้องอ้างพยานบุคคลมาสืบประกอบเอกสารที่อ้างนั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15657/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งในการยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายและการรับรองความถูกต้อง แม้จะมอบหมายให้สมุห์บัญชีดูแล
พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541 มาตรา 43 วรรคหนึ่ง กำหนดให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งแต่ละคนต้องยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายที่สมุห์บัญชีเลือกตั้งจัดทำขึ้นและผู้สมัครรับรองความถูกต้องภายในกำหนดเก้าสิบวันหลังจากวันประกาศผลเลือกตั้ง ผลแห่งกฎหมายทำให้จำเลยในฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้งมีหน้าที่โดยตรงที่จะต้องยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายและรับรองความถูกต้อง แม้บทบัญญัติในมาตรา 42 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว จะกำหนดให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งแต่งตั้งสมุห์บัญชีเลือกตั้งเพื่อทำหน้าที่รับผิดชอบในการจัดทำบัญชีและรับรองความถูกต้องของบัญชีรายรับรายจ่ายของผู้สมัครก็ตาม ก็ไม่ทำให้จำเลยหลุดพ้นจากหน้าที่ที่ต้องกระทำการให้ถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อจำเลยลงลายมือชื่อในฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้งในบัญชีรายรับรายจ่ายที่สมุห์บัญชีเลือกตั้งได้จัดทำขึ้น โดยมิได้ตรวจสอบถึงความถูกต้องตามความจริงและครบถ้วนตามกฎหมาย อีกทั้งต้องมีหน้าที่รับรองความถูกต้องด้วย จำเลยจึงมีความผิดตามบทบัญญัติดังกล่าว