คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ราคาจริง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5363/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อผิดนัด ยึดรถได้ก่อนบอกเลิกสัญญา ค่าเสียหายคิดจากราคาจริงรถยนต์
โจทก์กับจำเลยที่ 1 ตกลงกันตามสัญญาเช่าซื้อว่า ถ้าจำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ชำระเงินใด ๆ จำเลยที่ 1 ยอมให้ผู้แทนหรือลูกจ้างของโจทก์เข้าไปยังสถานที่ของจำเลยที่ 1เพื่อยึดรถยนต์ได้ไม่ว่าโจทก์จะได้บอกเลิกสัญญากับจำเลยที่ 1 แล้วหรือไม่ก็ตาม การที่โจทก์ติดตามยึดรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนจากจำเลยที่ 1 จึงเป็นกรณีที่โจทก์สามารถกระทำได้โดยที่ยังมิได้มีการบอกเลิกสัญญากันและต่อมาภายหลังโจทก์จึงได้บอกเลิกสัญญาแก่จำเลยที่ 1 โดยที่จำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายอันเป็นค่าขาดราคารถยนต์แก่โจทก์
เมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกกัน คู่สัญญาแต่ละฝ่ายต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคแรก โจทก์จึงไม่อาจบังคับให้จำเลยที่ 1 ชำระค่าขาดราคารถยนต์เท่ากับค่าเช่าซื้อที่ยังขาดได้ เพราะจะมีผลเท่ากับบังคับให้จำเลยที่ 1 ปฏิบัติตามสัญญาเช่าซื้อที่เลิกกันไปแล้ว หากโจทก์ยังได้รับความเสียหายในส่วนราคารถยนต์ที่ขาด โจทก์สามารถเรียกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคท้าย แต่ค่าเสียหายที่โจทก์เรียกได้นี้คือค่าขาดราคาไปจากราคารถยนต์ที่แท้จริง ไม่ใช่ค่าขาดราคาไปจากราคาตามสัญญาเช่าซื้อ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3329/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของหัวหน้าแผนกคลังต่อการสูญหายของทรัพย์สินราชการ และการคำนวณค่าเสียหายตามราคาจริง
จำเลยเป็นหัวหน้าแผนกคลัง แม้จำเลยได้ใช้ความระมัดระวังจัดเวรยามเฝ้าดูแลบริเวณรอบนอกคลังพัสดุที่เก็บทรัพย์สินของทางราชการตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว แต่ทรัพย์สินที่หายได้เก็บรักษาไว้ในตู้เหล็กในคลังพัสดุโดยไม่ได้ใส่กุญแจ เพียงแต่ใช้กระดาษเขียนชื่อเจ้าหน้าที่ปิดไว้เท่านั้น ทั้งทรัพย์สินที่หายก็มีขนาดเล็ก สามารถเอาแอบซุกซ่อนไปกับตัวได้โดยสะดวก เมื่อปรากฏว่า คนร้ายที่ลักทรัพย์ดังกล่าวไปเป็นเจ้าหน้าที่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของจำเลยเอง จึงถือได้ว่าจำเลยประมาทเลินเล่อแล้ว เพราะการที่จะป้องกันทรัพย์สินให้พ้นจากการลักขโมยของคนภายในด้วยกันเองนั้น นอกจากจะต้องเก็บรักษาไว้ในสถานที่อันเหมาะสมกับลักษณะของตัวทรัพย์แล้ว ยังจะต้องอยู่ในสภาพที่ยากต่อการที่บุคคลจะหยิบฉวยเอาไปได้โดยง่ายอีกด้วย
กรณีที่พัสดุของทางราชการได้จัดหามาโดยการซื้อขายพอเป็นพิธีเพื่อมิให้ขัดต่อระเบียบของทางราชการ และราคาที่จัดซื้อมาก็ต่ำต่างกับราคาที่แท้จริงมาก การจะให้ผู้ต้องรับผิดชดใช้ราคาของทรัพย์สินนั้น ต้องถือตามราคาที่แท้จริง
ข้าราชการกองทัพเรือประมาทเลินเล่อทำให้ทรัพย์สินของกองทัพเรือสูญหายไป อายุความ 1 ปี เริ่มนับตั้งแต่วันที่ผู้บัญชาการทหารเรือได้ลงนามรับทราบรายงานผลการสอบสวนว่าจำเลยจะต้องรับผิด มิใช่เริ่มนับในวันที่รู้ว่าเกิดมีการทำละเมิดขึ้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2961/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดิน การซื้อขายไม่ตรงกับราคาจริง และการแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ตามส่วน
จำเลยเป็นฝ่ายออกเงินซื้อที่ดินแปลงพิพาททั้งหมดในราคา 60,000 บาท แล้วใส่ชื่อโจทก์เป็นเจ้าของร่วมด้วย การที่สัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทระบุว่าตกลงซื้อขายกันในราคา 25,000 บาทแต่จำเลยนำสืบว่าซื้อมาในราคา 60,000 บาทเป็นการนำสืบถึงความเป็นจริงในระหว่างผู้มีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ย่อมนำสืบได้ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94(ข)
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินพิพาทโดยอ้างว่าเป็นของตนครึ่งหนึ่งทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์มีส่วนเพียง 1 ใน 3 ส่วนของเนื้อที่ทั้งหมด ศาลพิพากษาให้โจทก์ได้รับส่วนแบ่งตามความเป็นจริงได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(2)
คดีที่พิพาทกันเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสอง แม้เป็นคดีมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 50,000 บาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ก็ไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินมีโฉนดที่โจทก์ครอบครอง โดยอ้างว่าเป็นของโจทก์ครึ่งหนึ่งของโฉนด แม้มิได้ขอเจาะจงว่าที่ดินส่วนใดเป็นของโจทก์ แต่เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าที่พิพาทตอนใต้ของถนนเนื้อที่ 1 ใน 3 ส่วนของเนื้อที่ทั้งหมด จำนวน1301/2 ตารางวาเป็นของโจทก์ ศาลย่อมพิพากษาว่าที่พิพาทด้านทิศใต้ของถนนตลอดแนวเป็นของโจทก์ได้ หาเป็นการพิพากษาเกินคำขอหรือคำฟ้องไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมบังคับคดีและการถอนการยึดทรัพย์: คิดจากราคาจริงของทรัพย์สิน ผู้ค้ำประกันต้องชำระครบถ้วน
ตามตาราง 5 ข้อ 3 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเมื่อยึดทรัพย์สินซึ่งไม่ใช่ตัวเงินและไม่มีการขายหรือจำหน่าย ให้คิดค่าธรรมเนียมร้อยละ 3 ครึ่ง ของราคาทรัพย์ที่ยึด จึงต้องคิดค่าธรรมเนียมตามราคาที่แท้จริงของทรัพย์ที่ยึด แม้ทรัพย์นั้นจะติดจำนองอยู่ ก็จะเอาหนี้จำนองมาหักราคาที่แท้จริงของทรัพย์ที่ยึดแล้วตีราคาตามยอดเงินที่เหลือจากเอาหนี้จำนองหักออกแล้วหาได้ไม่
เมื่อผู้ค้ำประกันขอวางเงินชำระหนี้ให้โจทก์เพื่อขอให้ศาลสั่งถอนการยึดทรัพย์ของผู้ค้ำประกัน ผู้ค้ำประกันต้องชำระค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีให้ครบถ้วนด้วย ศาลจึงจะสั่งถอนการยึดได้(ปัญหาแรก ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 26/2509)