พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3246/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ราคาสินค้านำเข้า: การประเมินราคาอันแท้จริงตามหลักศุลกากรและแนวทางปฏิบัติของกรมศุลกากร
ราคาสินค้าที่เจ้าพนักงานประเมินถือตามเป็นราคาที่ผู้นำเข้าได้นำเข้าก่อนโจทก์ไม่นานนัก และบางรายก็ปรากฏว่าได้นำเข้าหลังโจทก์เพียง 1 วัน เป็นการที่เจ้าพนักงานประเมินได้ปฏิบัติตามคำสั่งเฉพาะของกรมศุลกากรที่ 14/2524 และคำสั่งทั่วไปของกรมศุลกากรที่ 8/2530 ซึ่งแม้คำสั่งดังกล่าวจะมิใช่กฎหมาย แต่ก็แสดงว่าเป็นการปฏิบัติที่มีแนวทางที่ถูกต้องชอบธรรมและกระทำโดยสุจริต เมื่อราคาที่นำเข้ามาก่อนกลับสูงกว่าที่โจทก์นำเข้าจึงมีเหตุให้น่าสงสัยว่า ราคาที่ซื้อมาอาจมิใช่ราคาอันแท้จริงหากราคาที่โจทก์ซื้อต่ำกว่าราคาที่บริษัทอื่นซื้อเพราะโจทก์เป็นลูกค้าประจำและโจทก์สั่งเข้ามาเป็นจำนวนมากหรือเพราะบริษัทผู้ขายย่อมขายให้ลูกค้าแต่ละรายแตกต่างกัน ก็ย่อมแสดงว่าราคาที่โจทก์ซื้อเป็นราคาที่ได้หักทอนหรือลดหย่อน ซึ่งเมื่อไม่ปรากฏว่าเป็นการลดหย่อนทั่ว ๆ ไป การลดหย่อนดังกล่าวจึงเป็นการลดหย่อนกรณีพิเศษเฉพาะราย ซึ่งตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469มาตรา 2 จะถือเอามาเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2227/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ราคาสินค้านำเข้า: การประเมินราคาที่แท้จริงและการอุทธรณ์ผลการประเมินภาษี
ผู้ขายสินค้าในประเทศญี่ปุ่นตั้งราคาสินค้าให้โจทก์ตามราคาที่ปรากฏในใบกำกับสินค้า (อินวอยซ์) และบัญชีราคาสินค้า (ไพรซ์ลิสท์)ซึ่งเป็นราคาที่ขายให้แก่ลูกค้าในประเทศไทย เพราะจำเป็นต้องแข่งขันกับสินค้าของผู้ผลิตรายอื่น อีกทั้งสินค้า เป็นอะไหล่รถจักรยานยนต์รุ่นเก่าแต่ผู้ใช้ในประเทศไทยยังใช้อยู่ ประกอบกับมีอะไหล่เทียมขายแข่งขัน แต่ราคาสินค้าก็ยังสูงกว่า ราคา ของอะไหล่รถจักรยานยนต์ยี่ห้ออื่น ซึ่งราคานี้ทางเจ้าพนักงาน ของ จำเลยรับรองหรืออนุมัติราคาไว้แล้ว ดังนี้ ย่อมถือว่าราคาตาม ใบกำกับสินค้าและบัญชีราคาสินค้าเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาด จำเลย จะ นำเอาราคาตามบัญชีราคาสูงสุด (เอ็กซ์ปอร์ตไพรซ์ลิสท์) ที่ จำเลย ขอจากผู้ขายในประเทศญี่ปุ่นและเป็นราคาที่ผู้ขายตั้ง ไว้ สำหรับ เสนอขายแก่ลูกค้าทั่วโลกมาใช้โดยที่ยังไม่ปรากฏว่า เป็น ราคา ที่ ผู้ขายได้ขายตามราคานั้นให้แก่ผู้ใดบ้าง หรือไม่ปรากฏ ว่า โจทก์ ซื้อ สินค้าจากผู้ขายในราคาที่สูงกว่าราคาที่ปรากฏตาม ใบกำกับสินค้า และบัญชีราคาสินค้าไม่ได้ ประกาศกระทรวงการคลังว่าด้วยการแต่งตั้งเจ้าพนักงาน (ฉบับที่ 2)เรื่อง ยกเลิกและแต่งตั้งเจ้าพนักงานประเมินตาม ประมวลรัษฎากร กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยอยู่ในฐานะ เจ้าพนักงานประเมินด้วยเมื่อเจ้าพนักงานได้โต้แย้งราคาสินค้า สั่งให้ตัวแทนของโจทก์แก้ไขเพิ่มเติมราคาสินค้าตลอดจนค่าอากรขาเข้า ภาษีการค้า และภาษีบำรุงเทศบาลเพิ่มขึ้น จึงถือได้ว่าคำสั่งของ เจ้าพนักงานประเมินดังกล่าวเป็นการแจ้งประเมินค่าภาษีการค้า และภาษีบำรุงเทศบาล ด้วยโจทก์จึงต้องอุทธรณ์คัดค้านต่อคณะกรรมการ พิจารณาอุทธรณ์เสียก่อนจึงจะมีสิทธินำคดีมาฟ้องศาลเกี่ยวกับ ค่าภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 30.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1722/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ราคาสินค้านำเข้า: การเปรียบเทียบราคาเพื่อประเมินภาษีต้องพิจารณาสภาพตลาดและระยะเวลาที่สมเหตุสมผล
จำเลยนำสินค้าพิพาทจากประเทศ สิงคโปร์ เข้ามา 2 ครั้ง ครั้งแรกแบบ ซีวีโอ700จำนวน150ชุดครั้งที่2แบบซีวีโอ 500 จำนวน204 ชุด โดยสั่งซื้อ จากบริษัท ช. ราคาสินค้าพิพาทที่จำเลยสำแดงก็เท่ากับที่ผู้นำเข้ารายอื่นนำเข้าทางท่าเรือกรุงเทพในระยะเวลานั้น การที่โจทก์นำราคาสินค้าชนิดเดียวกันซึ่ง ว. สั่งซื้อ จากผู้ขายต่าง รายกัน และนำเข้าในจำนวนน้อยกว่ามาก โดย นำเข้าแบบซีวีโอ500จำนวน100ชุดและแบบซีวีโอ 700 จำนวนเพียง 2 ชุดเพียงรายเดียว มาเปรียบเทียบกับราคาสินค้าของจำเลย โดย ถือว่าเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดแล้วเรียกเก็บภาษีอากรเพิ่มเติมจากจำเลย ทั้ง ๆ ที่ระยะเวลานำเข้าก็ต่างกันเกือบ 1 ปี และต่าง ปีกันจึงไม่ถูกต้อง ถือได้ว่าราคาสินค้าที่จำเลยสำแดงไว้เป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 587/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินราคาสินค้านำเข้า: ราคาอันแท้จริงในท้องตลาดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร
โจทก์สำแดงราคาสินค้าในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเท่ากับราคาสินค้าในบัญชีราคาสินค้าและหลักฐานเอกสารการชำระเงินให้แก่ผู้ขายและโจทก์นำสืบว่าราคาดังกล่าวเป็นราคาแท้จริงจึงควรเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดของราคาสินค้าซึ่งต้องใช้เป็นเกณฑ์คำนวณภาษีอากร แต่พระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช 2469 มาตรา 2 นิยามคำว่า 'ราคาอันแท้จริงในท้องตลาด' หมายความว่า ราคาขายส่งเงินสด (ในส่วนของขาเข้าไม่รวมค่าอากร) ซึ่งจะพึงขายของประเภทและชนิดเดียวกันได้โดยไม่ขาดทุน ณ เวลา และที่ที่นำของเข้าหรือส่งของออกแล้วแต่กรณีโดยไม่มีหักทอนหรือลดหย่อนราคาอย่างใด ตามความหมายนี้ ราคาที่โจทก์ซื้อสินค้ามาโดยอ้างว่าเป็นราคาแท้จริง จึงมิใช่เป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดเสมอไป แม้โจทก์จะนำสืบว่าเคยนำเข้าสินค้าชนิดเดียวกันมาก่อนในราคาเดียวกับการนำเข้าครั้งนี้ก็ปรากฏว่าเป็นการนำเข้าของโจทก์เอง ซึ่งซื้อจากผู้ขายรายเดียวกัน นอกจากนี้โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นแสดงให้เห็นว่าราคาขายเงินสด ซึ่งจะพึงขายของประเภทและชนิดเดียวกันได้ โดยไม่ขาดทุน ณ เวลาที่นำเข้าและสถานที่ที่นำเข้า ซึ่งเป็นความหมายของราคาอันแท้จริงในท้องตลาดว่าเป็นราคาเท่าใด ดังนี้ยังถือไม่ได้ว่าราคาที่โจทก์สำแดงไว้ในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้านั้นเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดของสินค้า อันจะใช้เป็นเกณฑ์ในการคำนวณภาษีอากรได้
จำเลยให้เจ้าหน้าที่ซึ่งประจำเมืองฮ่องกง อันเป็นสถานที่ที่โจทก์สั่งซื้อสินค้าเข้ามา สืบราคาตามร้านใหญ่ ๆ หลายร้านราคาที่สืบได้ส่วนใหญ่ใกล้เคียงกัน เมื่อนำมาเฉลี่ยแล้วราคาขายปลีกสินค้าพิพาทกิโลกรัมละ 3,974.87 เหรียญฮ่องกงคำนวณเป็นราคาขายส่งโดยคิดลดลง 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นราคาขายส่ง เอฟ.โอ.บี.กิโลกรัมละ 3,180 เหรียญฮ่องกง อันถือเป็นราคาอันแท้จริงที่ซื้อขายกัน คำนวณเป็นราคา ซี.ไอ.เอฟ. โดยนำค่าขนส่งทางอากาศและค่าประกันภัยในบัญชีราคาสินค้าตามที่โจทก์สำแดงไว้ บวกเข้าไป ผลออกมาเป็นราคา ซี.ไอ.เอฟ. กิโลกรัมละประมาณ 3,200เหรียญฮ่องกง การหาราคาอันแท้จริงของจำเลยได้กระทำตามขั้นตอนมีการคิดคำนวณรายละเอียดต่าง ๆ อย่างมีเหตุผลและเป็นวิธีที่ถูกต้องน่าเชื่อถือ เป็นการสืบหาราคาในเวลาที่ใกล้เคียงพอสมควรกับเวลาที่โจทก์นำเข้า ฟังได้ว่าราคาอันแท้จริงในท้องตลาดของสินค้าพิพาทกิโลกรัมละ 3,200 เหรียญฮ่องกงมิใช่ราคากิโลกรัมละ 750 เหรียญฮ่องกง ดังที่โจทก์สำแดงราคาไว้.
จำเลยให้เจ้าหน้าที่ซึ่งประจำเมืองฮ่องกง อันเป็นสถานที่ที่โจทก์สั่งซื้อสินค้าเข้ามา สืบราคาตามร้านใหญ่ ๆ หลายร้านราคาที่สืบได้ส่วนใหญ่ใกล้เคียงกัน เมื่อนำมาเฉลี่ยแล้วราคาขายปลีกสินค้าพิพาทกิโลกรัมละ 3,974.87 เหรียญฮ่องกงคำนวณเป็นราคาขายส่งโดยคิดลดลง 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นราคาขายส่ง เอฟ.โอ.บี.กิโลกรัมละ 3,180 เหรียญฮ่องกง อันถือเป็นราคาอันแท้จริงที่ซื้อขายกัน คำนวณเป็นราคา ซี.ไอ.เอฟ. โดยนำค่าขนส่งทางอากาศและค่าประกันภัยในบัญชีราคาสินค้าตามที่โจทก์สำแดงไว้ บวกเข้าไป ผลออกมาเป็นราคา ซี.ไอ.เอฟ. กิโลกรัมละประมาณ 3,200เหรียญฮ่องกง การหาราคาอันแท้จริงของจำเลยได้กระทำตามขั้นตอนมีการคิดคำนวณรายละเอียดต่าง ๆ อย่างมีเหตุผลและเป็นวิธีที่ถูกต้องน่าเชื่อถือ เป็นการสืบหาราคาในเวลาที่ใกล้เคียงพอสมควรกับเวลาที่โจทก์นำเข้า ฟังได้ว่าราคาอันแท้จริงในท้องตลาดของสินค้าพิพาทกิโลกรัมละ 3,200 เหรียญฮ่องกงมิใช่ราคากิโลกรัมละ 750 เหรียญฮ่องกง ดังที่โจทก์สำแดงราคาไว้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4268/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ราคาสินค้านำเข้า: การประเมินราคาต้องอ้างอิงราคาอันแท้จริงในท้องตลาด ไม่ใช่ราคาที่สืบจากแหล่งข่าวที่ไม่ชัดเจน
จำเลยได้สำแดงราคาสินค้าไว้ในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดในเวลาและสถานที่ซึ่งนำของเข้าเพื่อเสียภาษีถูกต้องแล้ว กรมศุลกากรกับกรมสรรพากรโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าราคาสินค้าที่จำเลยสำแดงเพื่อเสียภาษีต่ำกว่าราคาที่โจทก์ถือเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดเพื่อเป็นการประเมินเรียกเก็บภาษี ดังนั้นการประเมินราคาสินค้าให้สูงขึ้นกว่าที่จำเลยสำแดงเพื่อเรียกเก็บภาษีเพิ่มของโจทก์จึงไม่ชอบ
จำเลยฟ้องแย้งขอให้โจทก์คืนเงินประกันแก่จำเลยพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันชำระเงิน ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์คืนเงินประกันแก่จำเลยพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันที่ศาลพิพากษา จำเลยไม่อุทธรณ์ ดังนี้ปัญหาว่าโจทก์ต้องชำระดอกเบี้ยให้แก่จำเลยตั้งแต่เมื่อใด ย่อมไม่เป็นประเด็นในชั้นอุทธรณ์
จำเลยฟ้องแย้งขอให้โจทก์คืนเงินประกันแก่จำเลยพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันชำระเงิน ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์คืนเงินประกันแก่จำเลยพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันที่ศาลพิพากษา จำเลยไม่อุทธรณ์ ดังนี้ปัญหาว่าโจทก์ต้องชำระดอกเบี้ยให้แก่จำเลยตั้งแต่เมื่อใด ย่อมไม่เป็นประเด็นในชั้นอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3337/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ราคาสินค้านำเข้า: การประเมินราคาตามบัญชีราคาเดิมที่ไม่สอดคล้องกับสภาวะตลาดและปัจจัยที่เปลี่ยนแปลง
โจทก์นำกระจกเข้ามาในราชอาณาจักรและสำแดงราคาเพื่อเสียภาษีอากรตามที่ซื้อมา แต่เป็นราคาต่ำกว่าที่ระบุไว้ในบัญชีกำหนดราคาสินค้าซึ่ง จำเลยได้ใช้เป็นเกณฑ์ในการประเมินราคาสินค้ากระจกที่โจทก์นำเข้าในครั้งก่อน ๆ เมื่อปรากฏว่าในระหว่างเวลานำเข้านั้นราคากระจกลดลงเพราะราคาน้ำมันดิบลดลงค่าขนส่งลดลง เงินฟรังก์ของฝรั่งเศสซึ่งเป็นประเทศที่โจทก์ซื้อกระจกมีค่าต่ำลง และบัญชีกำหนดราคาสินค้าดังกล่าวถูกยกเลิกโดยบริษัทผู้ผลิตและใช้บัญชีใหม่แทน จำเลยจึงไม่อาจใช้ราคาตามที่ระบุไว้ในบัญชีกำหนดราคาสินค้าดังกล่าวเป็นเกณฑ์ในการเพิ่มราคากระจกและเก็บภาษีอากรเพิ่มเติมจากโจทก์ได้ ราคากระจกที่โจทก์สำแดงไว้ดังกล่าวเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดตามความในมาตรา 2 ของ พระราชบัญญัติ ศุลกากร พุทธศักราช 2469 การเสียภาษีอากรของโจทก์ตามราคาที่โจทก์สำแดงไว้ดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมาย.