พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1035/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องอาญา: รายละเอียดการกระทำความผิดไม่จำเป็นต้องระบุในคำฟ้อง หากโจทก์บรรยายการกระทำความผิดให้จำเลยเข้าใจได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายโดย จับแขนผู้เสียหายไว้ทำให้ผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้แล้วจำเลยทั้งสองร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เป็นคำฟ้อง ที่บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยที่ 2 ได้กระทำผิด พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยที่ 2 เข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ส่วนที่ จำเลยทั้งสองร่วมกันประทุษร้ายโดยจำเลยคนใดเป็นผู้จับแขนข้างใดจำเลยร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายอย่างไร จำเลยคนใดทำหน้าที่อะไรนั้น เป็นเพียงรายละเอียดที่นำสืบได้ในชั้นพิจารณา ไม่จำเป็นต้องบรรยายมาในคำฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587-1588/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา การบรรยายรายละเอียดการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340
ฟ้องข้อ 1 ว่าจำเลยปล้นกระบือโดยใช้ปืนขู่เข็ญจะยิงพวกเจ้าทรัพย์ระบุการกระทำที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิดและระบุรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาและสถานที่เกิดเหตุไว้ด้วย แต่ในฟ้องข้อ 1 นี้โจทก์มิได้บรรยายว่าจำเลยใช้ปืนยิงในการปล้นนี้เลย ต่อมาในข้อ 2 โจทก์จึงบรรยายว่า ในวันเวลาเดียวกันกับฟ้องข้อ 1 เจ้าพนักงานติดตามทันจำเลยกับพวกขณะกำลังไล่กระบือ 5 ตัว ที่จำเลยปล้นไป จำเลยกับพวกใช้ปืนยิงมายังเจ้าพนักงานเจ้าพนักงานจึงใช้ปืนยิงไปยังจำเลยกับพวกเพื่อป้องกันตัว กระสุนปืนถูกจำเลยบาดเจ็บแต่หลบหนีไปได้ เจ้าพนักงานจึงยึดได้กระบือ 5 ตัวเป็นของกลางและได้กระบือในที่ใกล้เคียงอีก 5 ตัว ถือว่าฟ้องของโจทก์ดังกล่าวไม่เป็นฟ้องที่ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยตามวรรคสี่ แห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340(คือ ใช้ปืนยิงในการปล้น)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2552 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเพียงพอของฟ้องอาญา: รายละเอียดการกระทำความผิดและพยานแวดล้อมเพียงพอให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้
โจทก์บรรยายฟ้องเกี่ยวกับวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ รวมทั้งมูลเหตุจูงใจที่ทำให้จำเลยทั้งสองกระทำความผิด โดยได้ระบุด้วยว่ามีผู้เห็นเหตุการณ์ที่บ่งชี้ว่าขณะที่เกิดเหตุการฆ่ามีจำเลยทั้งสองเท่านั้นที่อยู่ในที่เกิดเหตุ คนร้ายไม่มีทางที่จะเป็นผู้อื่น แม้ไม่มีรายละเอียดโดยชัดแจ้งเกี่ยวกับการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสองว่าร่วมยิงอย่างไร ใครเป็นผู้ยิง และผู้ตายถูกยิงที่ส่วนใดของร่างกาย ด้วยอาวุธปืนชนิดใดทั้งไม่มีข้อยืนยันว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันยิงผู้ตายก็เป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) ที่ประสงค์แต่เพียงให้มีรายละเอียดพอสมควรที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีก็พอแล้ว ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากันในชั้นสืบพยาน เมื่ออ่านฟ้องของโจทก์โดยตลอด จำเลยทั้งสองย่อมเข้าใจได้ว่าโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืนยิงและไตร่ตรองไว้ก่อน