คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ริบข้าว

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2555/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบข้าวตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว ต้องเป็นข้าวที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดโดยตรง
คำว่า "ข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดให้ริบเสีย" ตามมาตรา 21 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการค้าข้าวนั้น จะต้องเป็นข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดโดยตรงจำเลยเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวโดยชอบแล้ว ความผิดของจำเลยอยู่ที่ละเว้นไม่ทำรายงานการค้าข้าวแสดงปริมาณข้าวในครอบครองเท่านั้น ข้าวของกลางไม่เกี่ยวเนื่องกับความผิดของจำเลยแต่อย่างใด จึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่จะพึงริบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 491/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจผู้ว่าฯ ออกประกาศบังคับทำรายงานค้าข้าว-การริบข้าวจากความผิดละเว้นรายงาน
คณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. 2489 ออกประกาศฉบับที่ 69 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2499 แต่งตั้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ มีอำนาจสั่งให้ผู้ประกอบการค้าข้าวแจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าวได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสจึงออกประกาศฉบับที่ 2 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2507 ให้ผู้ได้รับหนังสืออนุญาตประกอบการค้าข้าวทำรายงานการค้าข้าวประจำวันให้เสร็จสิ้นในวันรุ่งขึ้นและเก็บไว้ ณ สถานที่ประกอบการค้าข้าว ดังนี้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่ารายงานการค้าข้าวประจำวันนั้นก็คือ การแจ้งปริมาณข้าวที่คงเหลือในวันหนึ่ง ๆ นั่นเอง ฉะนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสจึงมีอำนาจออกประกาศให้ทำรายงานการค้าข้าวได้ตามอำนาจในประกาศคณะกรรมการฉบับที่ 69 ข้อ 6 (5) และผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสย่อมจะมีอำนาจกำหนดระยะเวลาให้ผู้ค้าข้าวทำรายงานดังกล่าวให้เสร็จในวันรุ่งขึ้นได้ด้วยอำนาจที่ให้ไว้ในมาตรา 12 ประกอบด้วยมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. 2489
บรรยายฟ้องว่า จำเลยทำรายงานการค้าข้าวประจำวันครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2508 โดยลงบัญชีข้าวสารเจ้าเหลือเมื่อสิ้นวัน จำนวน 8,800 กิโลกรัม ครั้นต่อมาเมื่อระหว่างตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2508 ตลอดมาถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2508 เวลากลางวัน จำเลยได้บังอาจละเว้นไม่ทำรายงานการค้าข้าวประจำวันให้เสร็จสิ้นในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2508 ซึ่งเป็นวันรุ่งขึ้น และจำเลยได้ฝ่าฝืนมิได้ทำรายงานการค้าข้าวประจำวันให้เสร็จในวันรุ่งขึ้นตลอดมาจนถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2508 ฟ้องเช่นนี้ย่อมมีความหมายที่เข้าใจได้ชัดเจนอยู่ในตัวแล้วว่า จำเลยทำรายงานการค้าข้าวครั้งสุดท้ายเพียงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2508 เท่านั้น หลังจากนั้น คือ วันที่ 14 - 19 พฤศจิกายน 2508 ตลอดมา จำเลยมิได้ทำรายงานประจำวันเลย และจำเลยก็ให้การรับสารภาพชี้แจงเหตุผลว่าที่ไม่ได้ทำรายงานเพราะคนทำบัญชีเกิดเจ็บป่วย ตัวจำเลยเองโง่เขลารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดังนี้ ย่อมแสดงว่าจำเลยเข้าใจข้อหาของโจทก์ดีอยู่แล้ว ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุมอย่างใด ส่วนที่โจทก์กล่าวมาในฟ้องด้วยว่าเจ้าพนักงานได้ตรวจพบการกระทำผิดของจำเลยเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2508 นั้น ไม่เป็นเหตุให้ฟ้องเสียไป เพราะเจ้าพนักงานอาจพบว่าจำเลยไม่ทำรายงานการค้าข้าวตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2508 นั้นได้ และตราบใดที่จำเลยยังคงไม่ทำรายงาน จำเลยก็ย่อมได้ชื่อว่ากระทำผิดทุกวันตลอดมา
คำว่า "ข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดให้ริบเสีย" ตามมาตรา 21 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการค้าข้าวฯ นั้น จะต้องเป็นข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดโดยตรง จำเลยเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบการค้าข้าวโดยชอบแล้ว จำเลยทำผิดเพียงละเว้นไม่ทำรายงานการค้าข้าวประจำวันเท่านั้น ยังถือไม่ได้ว่าข้าวนั้นได้เกี่ยวเนื่องกับความผิดของจำเลยอย่างใดจึงไม่ริบข้าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 383/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักย้ายข้าวสารออกจากสถานที่เก็บตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว ถือเป็นความผิดสำเร็จและต้องริบข้าว
ทำสัญญาซื้อข้าวกัน 1000 กระสอบ แล้วส่งคนเอาเรือเอี้ยมจัดการขนข้าวจากโกดังที่บรรทุกลงเรือพอบรรทุกลงได้ 716 กระสอบ ก็ถูกจับต้องฟังว่า จำเลยได้ยักข้าว 716 กระสอบจากที่เก็บ ฝ่าฝินประกาศคณะการปฏิบัติการตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว 2489 ซึ่งห้ามมิให้ผู้ใดยักย้ายข้าวจากสถาน ฯลฯ เป็นความผิดสำเร็จตาม พ.ร.บ.การค้าข้าวตามมาตรา 17 ซึ่งได้แก้ไขเติมโดยฉบับที่ 2 พ.ศ.2489 ว่า 10 ข้าว 716 กระสอบซ้ายแล้ว ก็ตกเป็นข้าวที่ซึ่งต่อเนื่องกับความผิด ซึ่งตามมาตรา 21 ทวิ บัญญัติให้ริบเสีย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 503/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบข้าวสารลักลอบนำออกนอกราชอาณาจักร แม้จำเลยจะขายไปแล้ว ก็ยังสามารถบังคับตามกฎหมายได้
จำเลยมีผิดฐานลักลอบนำข้าวสาร 14 กระสอบ ราคา 1680 บาทออกไปนอกราชอาณาจักร และข้าวรายนี้กำลังอยู่ในความรักษาของเจ้าหน้าที่ในเมืองต่างประเทศ ดังนี้ ตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา 29 ศาลย่อมพิพากษาให้ริบข้าวสาร 14 กระสอบได้ ถ้าจำเลยส่งข้าวสารไม่ได้ ก็ต้องใช้ราคาข้าวแทน
(ดูฎีกาที่ 742/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 413/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองข้าวเกินเกณฑ์โดยไม่แจ้งตามกฎหมาย ทำให้ข้าวทั้งหมดต้องถูกริบ
จำเลยมีผิดเพราะมีข้าวเกินกว่า 1 เกวียน ไม่แจ้งปริมาณข้าวทั้งหมดจึงเป็นข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดต้องริบ ไม่มีทางแบ่งแยกไม่ริบเฉพาะ 1 เกวียนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 707/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าพนักงานห้ามยักย้ายข้าว, การริบข้าวของกลาง, และการฟ้องที่ไม่ต้องระบุฐานะผู้ค้าข้าว
เจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.การค้าข้าวมีอำนาจประกาศห้ามยักย้ายข้าวในเวลากลางคืนได้
ในกรณีที่เจ้าพนักงานห้ามยักย้ายข้าวในเวลากลางคืน ฟ้องไม่ต้องระบุว่า จำเลยเป็นผู้ค้าข้าวหรือไม่ (เพราะไม่ได้ห้ามเฉพาะผู้ทำการค้า)
การยักย้ายข้าวฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงาน ย่อมริบข้าวได้ตาม มาตรา 21ทวิ โดยมาตรา 21ทวิ มีข้อความมุ่งให้ริบข้าวของกลางที่เกี่ยวกับความผิดในมาตราอื่นๆ ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 686/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักย้ายข้าวเวลากลางคืนเป็นความผิด ฟ้องไม่จำเป็นต้องระบุว่าจำเลยเป็นผู้ค้าข้าว และริบข้าวได้
ในกรณีที่เจ้าพนักงานห้ามยักย้ายข้าวเวลากลางคืนนั้น ฟ้องไม่จำต้องระบุว่า จำเลยเป็นผู้ค้าข้าวหรือไม่
การที่เจ้าพนักงานประกาศห้ามยักย้ายข้าวเวลากลางคืน ย่อมอยู่ภายในบังคับของมาตรา 8
การยักย้ายข้าวฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงาน ย่อมริบข้าวได้ตามมาตรา 21 ทวิ.
กับมีคดีและข้อวินิจฉัยอย่างเดียวกัน คือ
คดีดำ 636/91 ฎีกาที่ 682/91
คดีดำ 637/91 ฎีกาที่ 683/91
คดีดำ 638/91 ฎีกาที่ 707/91
คดีดำ 639/91 ฎีกาที่ 684/91
คดีดำ 640/91 ฎีกาที่ 685/91

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 686/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักย้ายข้าวผิดประกาศห้ามยักย้ายเวลากลางคืน: ฟ้องไม่จำเป็นต้องระบุว่าเป็นผู้ค้าข้าว และริบข้าวได้ตามกฎหมาย
ในกรณีที่เจ้าพนักงานห้ามยักย้ายข้าวเวลากลางคืนนั้น ฟ้องไม่ต้องระบุว่า จำเลยเป็นผู้ค้าข้าวหรือไม่
การที่เจ้าพนักงานประกาศห้ามยักย้ายข้าวเวลากลางคืน ย่อมอยู่ภายในบังคับของ มาตรา 8
การยักย้ายข้าวฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงาน ย่อมริบข้าวได้ตาม มาตรา 21 ทวิ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักย้ายข้าวฝ่าฝืนประกาศห้ามยักย้ายเวลากลางคืน และการริบข้าวเป็นของกลาง
ในกรณีที่เจ้าพนักงานห้ามยักย้ายข้าวเวลากลางคืนนั้นฟ้องไม่ต้องระบุว่า จำเลยเป็นผู้ค้าข้าวหรือไม่
การที่เจ้าพนักงานประกาศห้ามยักย้ายข้าวเวลากลางคืน ย่อมอยู่ภายในบังคับของ มาตรา 8
การยักย้ายข้าวฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงาน ย่อมริบข้าวได้ตามมาตรา 21