พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2425/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบอาวุธปืนของกลาง: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาใหม่เกินกรอบประเด็นข้อเท็จจริงที่อุทธรณ์
โจทก์ฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ. 2490มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง,72 ทวิ วรรคสอง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371,376 ฐานพาอาวุธปืนฯ เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 72 ทวิ วรรคสอง ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด ปรับ 2,000 บาท ฐานยิงปืนโดยใช่เหตุ ปรับ 500 บาท รวมปรับ 2,500 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ในชั้นอุทธรณ์จำเลยอุทธรณ์แต่เฉพาะ ปัญหาข้อเท็จจริงว่าศาลชั้นต้นไม่ควรใช้ดุลพินิจ ริบอาวุธปืนของกลาง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีจึงต้องห้ามคู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218จำเลยฎีกาว่า อาวุธปืนของกลางมิใช่ทรัพย์ที่มีไว้เป็น ความผิดหรือใช้ในการกระทำความผิด จึงริบไม่ได้ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 และ 33 จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ทั้งคดีนี้เมื่อจำเลยยอมรับว่าเป็นผู้ใช้อาวุธปืน ของจำเลยยิงในหมู่บ้านจริง อาวุธปืนของกลาง จึงเป็นทรัพย์ที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิด ข้อฎีกาของจำเลยดังกล่าวจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับ การวินิจฉัย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 ประกอบ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6107/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบอาวุธปืน: แม้ไม่ใช้ยิง แต่ใช้อาการกระแทกทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายก็สามารถริบได้
แม้ลักษณะการใช้อาวุธปืนของจำเลยในการกระทำความผิดจะไม่ตรงกับลักษณะของอาวุธปืนที่มีไว้เพื่อใช้ยิงโดยตรงก็ตามแต่ตามสภาพอาวุธปืนเป็นวัตถุแข็ง การที่จำเลยใช้อาวุธปืนกระแทกทำร้ายที่บริเวณหน้าอกของเด็กชาย ธ. โดยแรงเป็นเหตุให้เด็กชาย ธ. มีบาดแผลถลอกช้ำบวมที่บริเวณหน้าอก แม้บาดแผลดังกล่าวจะไม่ร้ายแรงเช่นเดียวกับการใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายก็ตาม แต่ก็เป็นบาดแผลที่เกิดจากการที่จำเลยใช้อาวุธปืนทำร้ายเด็กชาย ธ. โดยตรง จึงถือได้ว่าอาวุธปืนเป็นทรัพย์สินที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1) ซึ่งศาลมีอำนาจสั่งให้ริบอาวุธปืนของกลางได้ ทั้งนี้ โดยไม่ต้องคำนึงว่าอาวุธปืนที่จำเลยใช้กระทำความผิดนั้นจะบรรจุกระสุนหรือไม่ เพราะมิใช่ผลโดยตรงที่จะเป็นเหตุให้เด็กชาย ธ. ได้รับบาดเจ็บ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2145/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบอาวุธปืน: ศาลไม่อาจริบได้หากลงโทษอาวุธปืนฯ แล้ว แม้มีบทบัญญัติอาญาที่ให้ริบได้
เมื่อศาลลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯมาตรา8ทวิวรรคสอง,72ทวิวรรคสองซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดและเป็นกรรมเดียวกับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา371แล้วก็จะอาศัยประมวลกฎหมายอาญามาตรา371มาสั่งริบอาวุธปืนของกลางไม่ได้จำเลยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนดังกล่าวได้โดยชอบเมื่อความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯที่ลงโทษจำเลยไม่ได้บัญญัติเรื่องริบทรัพย์ไว้ศาลก็ริบอาวุธปืนของกลางไม่ได้และเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2456/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบอาวุธปืนของจำเลยร่วมที่เสียชีวิต: สิทธิในการริบระงับเมื่อสิทธิในการฟ้องอาญาและโทษระงับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมจำเลยกับ อ. ในข้อหามีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีน อ. ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตาย เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดอาวุธปืนดังกล่าว ซึ่งเป็นปืนมีทะเบียนพร้อมกระสุน 4 นัดและปลอกกระสุนปืน 1 ปลอกเป็นของกลาง เมื่อ อ. ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตาย สิทธินำคดีอาญามาฟ้อง อ. ย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39และโทษย่อมระงับไปด้วยความตายของผู้กระทำผิดตาม ป.อ. มาตรา 38จึงไม่อาจริบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2627/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาต: ศาลไม่สามารถริบได้หากลงโทษตามบทหนักของ พ.ร.บ.อาวุธปืน
จำเลยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวจำเลยพาอาวุธปืนนั้นไปในทางสาธารณะในเมือง โดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ มาตรา 8 ทวิ, 72 ทวิ และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 เมื่อลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ มาตรา 8 ทวิ, 72 ทวิ ซึ่งเป็นบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 แล้ว จะอาศัยบทเบาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 มาเพื่อริบอาวุธปืนของกลางไม่ได้ อาวุธปืนของกลางจำเลยได้รับอนุญาตให้มีและใช้ได้โดยชอบ เมื่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ ที่ลงโทษจำเลยไม่ได้บัญญัติเรื่องริบไว้ ศาลก็ริบอาวุธปืนของกลางไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14477/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบอาวุธปืน: การบรรยายฟ้อง 'ไม่ปรากฏเครื่องหมายทะเบียน' ไม่ทำให้เป็นทรัพย์สินที่ต้องริบ หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นของผู้อื่นที่มีทะเบียน
คำว่า "ปรากฏ" ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ให้ความหมายว่า สำแดงออกมาให้เห็น เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องเกี่ยวกับอาวุธปืนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองว่า เป็นอาวุธปืนที่ไม่ปรากฏเครื่องหมายทะเบียนของเจ้าพนักงานประทับ จึงมีความหมายว่า เป็นอาวุธปืนที่ไม่สำแดงออกมาให้เห็นถึงเครื่องหมายทะเบียนของเจ้าพนักงานประทับ กรณีจึงยังไม่เป็นการแน่นอนว่าอาวุธปืนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองนั้น เป็นอาวุธปืนที่มีหมายเลขทะเบียนของเจ้าพนักงานประทับไว้หรือไม่ จึงต้องฟังข้อเท็จจริงให้เป็นคุณแก่จำเลยว่า อาวุธปืนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตนั้น เป็นอาวุธปืนที่เป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นความผิดฐานมีอาวุธปืนมีทะเบียนของผู้อื่นไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และความผิดดังกล่าวอยู่ที่การไม่ได้รับใบอนุญาต หาทำให้อาวุธปืนของกลางที่ชอบด้วยกฎหมายเป็นอาวุธปืนผิดกฎหมายไปไม่ อาวุธปืนของกลางจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิดอันจะพึงต้องริบ และไม่ใช่ทรัพย์สินที่ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดตาม ป.อ. มาตรา 32, 33 ไม่อาจริบตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ได้ ชอบที่จะต้องส่งคืนแก่เจ้าของ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8474/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบอาวุธปืน: ความผิดฐานมีอาวุธปืนของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ทำให้ทรัพย์สินนั้นเป็นทรัพย์สินที่ต้องริบ
จำเลยกระทำความผิดฐานมีอาวุธปืนมีทะเบียนของผู้อื่นไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ความผิดจึงอยู่ที่การไม่ได้รับใบอนุญาต หาทำให้อาวุธปืนและซองกระสุนปืนที่ชอบด้วยกฎหมายเป็นอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมายไปไม่ อาวุธปืนดังกล่าวจึงไม่ใช่เป็นทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิดอันจะพึงต้องริบ และไม่ใช่ทรัพย์สินที่ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดตาม ป.อ. มาตรา 32, 33 ไม่อาจริบตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ได้ ชอบที่จะต้องส่งคืนแก่เจ้าของ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2171/2554
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ไม่มีทะเบียน แม้ผู้กระทำผิดเสียชีวิต ศาลยังคงมีอำนาจริบได้
เมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติแล้วว่า อาวุธปืนของกลางที่ไม่มีเครื่องหมายทะเบียนประจำอาวุธปืนของเจ้าพนักงานประทับไว้ จึงเป็นทรัพย์สินที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่า ผู้ใดทำหรือมีไว้เป็นความผิดที่ ป.อ. มาตรา 32 บัญญัติให้ริบเสียทั้งสิ้น ไม่ว่าเป็นของผู้กระทำความผิดและมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่ ดังนั้น แม้ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 1 ผู้ถูกฟ้องว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนกระบอกนี้เนื่องจากจำเลยที่ 1 ถึงแก่ความตายแล้วก็ตาม ก็ต้องอยู่ในบังคับแห่ง ป.อ. มาตรา 32 ที่ศาลจะต้องสั่งให้ริบเสียทั้งสิ้น
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2554)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2554)