พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 383/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องรื้อถอนเรือนบุกรุกที่ดิน: ไม่ถือเป็นฟ้องซ้ำ แม้คดีก่อนพิพากษาเรื่องกรรมสิทธิ์
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากเรือนพิพาท อ้างว่าเรือนพิพาทเป็นของโจทก์ คดีถึงที่สุดศาลพิพากษาว่าเรือนพิพาทเป็นของจำเลยโจทก์ขอให้ขับไล่จำเลยออกจากเรือนพิพาทไม่ได้ โจทก์มาฟ้องใหม่ว่าเรือนพิพาทเป็นของจำเลยได้ปลูกอยู่ในที่ดินของโจทก์โดยไม่มีสิทธิขอให้รื้อถอนเรือนพิพาทไป ดังนี้ ประเด็นที่จะวินิจฉัยไม่ใช่อาศัยเหตุอย่างเดียวกันไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 255/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิร่วม, การรื้อถอนเรือน, สิทธิของเจ้าของร่วม, การต่อสู้คดี, ข้อเท็จจริงยังไม่ชัดเจน
มีผู้ทำลายเรือนอันเป็นของเจ้าของร่วม 2 คน เจ้าของร่วมเพียงคนเดียวก็มีสิทธิฟ้องผู้ทำลายนั้นให้ปลูกเรือนให้ใหม่
ตามสถาพเดิม หรือถ้าไม่สามารถทำได้ ก็ให้ใช้ค่าเสียหายได้.
ลูกสะใภ้มีสิทธิฟ้องบิดาของสามีได้ ไม่เป็นอุหลุม.
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยหลายเรือนออกจากที่พิพาทไป ขอให้จำเลยนำเรือนที่จำเลยรื้อไปมาปลูกใหม่ตามสภาพเดิม จำเลยแก้คดีข้อนี้ ว่าจำเลยอยู่เรือนพิพาทเรือนนั้นผู้ฟังไปจนจำเลยอยู่ไม่ได้ จึงซื้อเรือนอยู่ในบ้านนั้น 1 หลัง แล้ว
จำเลยอยู่มาจนบัดนี้ความเสียหายตามฟ้องจำเลยจึงไม่ต้องรับฟิด คำกล่าวแก้เช่นนี้พอเข้าใจได้แล้วว่า จำเลยต่อสู้
ว่าไม่ได้หลายเรือน./
ตามสถาพเดิม หรือถ้าไม่สามารถทำได้ ก็ให้ใช้ค่าเสียหายได้.
ลูกสะใภ้มีสิทธิฟ้องบิดาของสามีได้ ไม่เป็นอุหลุม.
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยหลายเรือนออกจากที่พิพาทไป ขอให้จำเลยนำเรือนที่จำเลยรื้อไปมาปลูกใหม่ตามสภาพเดิม จำเลยแก้คดีข้อนี้ ว่าจำเลยอยู่เรือนพิพาทเรือนนั้นผู้ฟังไปจนจำเลยอยู่ไม่ได้ จึงซื้อเรือนอยู่ในบ้านนั้น 1 หลัง แล้ว
จำเลยอยู่มาจนบัดนี้ความเสียหายตามฟ้องจำเลยจึงไม่ต้องรับฟิด คำกล่าวแก้เช่นนี้พอเข้าใจได้แล้วว่า จำเลยต่อสู้
ว่าไม่ได้หลายเรือน./