พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4801/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องลาภมิควรได้: นับแต่วันรู้สิทธิหรือวันที่สิทธิเกิด ขึ้นอยู่กับว่าเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นก่อน
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยคืนเงินอันเป็นลาภมิควรได้โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยได้ขอออกน.ส.3ทับที่ดินของบุคคลภายนอกวันเดียวกับวันทำสัญญาขายให้แก่โจทก์เป็นการแสดงว่าจำเลยมีเจตนาไม่สุจริตมาแต่เริ่มแรกและโจทก์มีสิทธิที่จะเรียกเงินค่าซื้อที่ดินคืนจากจำเลยตั้งแต่วันดังกล่าวเมื่อโจทก์ฟ้องคดีพ้น10ปีจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา419
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 903/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความลาภมิควรได้, การยอมรับข้ออ้าง, และการรู้สิทธิเรียกร้องของโจทก์
คำฟ้องโจทก์บรรยายว่า กรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ทราบข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุให้โจทก์มีสิทธิเรียกร้องจากจำเลยเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2522ส่วนการบอกกล่าวติดตามทวงถามให้จำเลยคืนเงินตามที่โจทก์บรรยายในคำฟ้องนั้นหาจำต้องแสดงหลักฐานการบอกกล่าวในคำฟ้องด้วยไม่ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม โจทก์แสดงข้ออ้างในคำฟ้องว่ารถยนต์คันพิพาทของจำเลยซึ่งโจทก์เช่าเกิดอุบัติเหตุชนกับรถคันอื่นโจทก์นำเข้าซ่อมและจำเลยได้รับรถคืนไปแล้วแต่เมื่อจำเลยขอเบิกค่าเช่าหลังจากรับรถคืนไปแล้วโจทก์หลงเชื่อโดยสำคัญผิดในข้อเท็จจริงได้จ่ายเงินให้จำเลยรับไปข้ออ้างของโจทก์ดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 จำเลยจะต้องให้การว่ายอมรับหรือปฏิเสธเมื่อจำเลยไม่ให้การปฏิเสธก็ต้องถือว่าจำเลยยอมรับศาลรับฟังข้ออ้างของโจทก์ตามฟ้องได้อยู่แล้ว โดยโจทก์ไม่ต้องนำสืบหรือพิสูจน์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 84 เจ้าหน้าที่ของโจทก์ตรวจสอบพบเรื่องที่จำเลยรับเงินไปโดยไม่มีสิทธิจะได้รับตามกฎหมายแล้วจึงได้รายงานให้ล.กรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ทราบเมื่อวันที่ 6 มีนาคม2522ถือได้ว่าบริษัทโจทก์เพิ่งรู้ว่าตนมีสิทธิเรียกคืนเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2522. โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่6 มีนาคม 2523 ยังไม่พ้นกำหนดปีหนึ่งนับแต่เวลาที่โจทก์รู้ว่าตนมีสิทธิเรียกคืนฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกคืนเงินลาภมิควรได้จากนิติกรรมโมฆะ: การรู้สิทธิและพยานหลักฐาน
ในกรณีที่นิติกรรมเป็นโมฆะ สิทธิเรียกคืนทรัพย์ที่กระทำเพื่อชำระหนี้ของฝ่ายผู้เสียเปรียบย่อมเกิดขึ้นทันทีที่อีกฝ่ายหนึ่งได้ทรัพย์มาโดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้
เมื่อมีกฎหมายบัญญัติไว้แล้วว่าการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ถ้ามิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ย่อมเป็นโมฆะ ต้องถือว่าบุคคลทุกคนได้รู้ถึงบทบัญญัตินั้นแล้ว ผู้ใดอ้างว่าไม่รู้จะต้องแสดงให้เห็นพฤติการณ์เฉพาะตัวเป็นพิเศษโดยแน่ชัดว่าตนไม่รู้และไม่อยู่ในฐานะที่อาจรู้ได้เช่นนั้น
ในกรณีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินคืนจากจำเลยในฐานลาภมิควรได้นั้น โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะสืบแสดงว่าโจทก์ไม่รู้และไม่อยู่ในฐานะที่อาจรู้ได้ว่านิติกรรมระหว่างโจทก์จำเลยเป็นโมฆะ อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่นำไปสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ และเป็นสารสำคัญในประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยเมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้งดสืบพยาน โดยยังมิได้พิจารณาหรือวินิจฉัยข้อเท็จจริงดังกล่าว ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพยานคู่ความในปัญหาข้อเท็จจริงดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 240(3),247
เมื่อมีกฎหมายบัญญัติไว้แล้วว่าการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ถ้ามิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ย่อมเป็นโมฆะ ต้องถือว่าบุคคลทุกคนได้รู้ถึงบทบัญญัตินั้นแล้ว ผู้ใดอ้างว่าไม่รู้จะต้องแสดงให้เห็นพฤติการณ์เฉพาะตัวเป็นพิเศษโดยแน่ชัดว่าตนไม่รู้และไม่อยู่ในฐานะที่อาจรู้ได้เช่นนั้น
ในกรณีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินคืนจากจำเลยในฐานลาภมิควรได้นั้น โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะสืบแสดงว่าโจทก์ไม่รู้และไม่อยู่ในฐานะที่อาจรู้ได้ว่านิติกรรมระหว่างโจทก์จำเลยเป็นโมฆะ อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่นำไปสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ และเป็นสารสำคัญในประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยเมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้งดสืบพยาน โดยยังมิได้พิจารณาหรือวินิจฉัยข้อเท็จจริงดังกล่าว ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพยานคู่ความในปัญหาข้อเท็จจริงดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 240(3),247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความเรียกทรัพย์คืนจากนิติกรรมโมฆะ เริ่มนับจากวันที่รู้สิทธิ ไม่ใช่วันที่คดีถึงที่สุด
สิทธิเรียกทรัพย์คืนที่กระทำเพื่อชำระหนี้ในนิติกรรมที่เป็นโมฆะนั้นย่อมเกิดขึ้นทันทีที่อีกฝ่ายหนึ่งได้รับ ซื้อขายที่ดินทำกันเอง ผู้ซื้อฟ้องขอบังคับตามสัญญาแต่ถูกศาลยกฟ้อง ผู้ซื้อจึงมาฟ้องเรียกราคาคืนฐานลาภมิควรได้นั้น ต้องเริ่มนับอายุความตั้งแต่วันผู้ซื้อว่าตนมีสิทธิเรียกคืน ไม่ใช่เริ่มนับอายุความตั้งแต่วันที่คดีก่อนถึงที่สุด เมื่อมีกฎหมายบัญญัติว่าการซื้อขายที่มิได้ทำต่อเจ้าพนักงานเป็นโมฆะแล้วก็ต้องถือว่าบุคคลรู้บทบัญญัตินั้น ผู้ใดอ้างว่าไม่รู้จะต้องแสดงพฤติการณ์พิเศษเฉพาะตัว เรื่องใช้สิทธิเลิกสัญญาอาจนับอายุความ นับแต่วันมีคำพิพากษาให้เลิกสัญญาต่อกัน