พบผลลัพธ์ทั้งหมด 29 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2951/2545
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น: การกระทำร่วมและเจตนาในการทำร้าย
จำเลยที่ 1 นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันกับจำเลยที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 2 ต่อสู้กับผู้ตาย จำเลยที่ 1 ชักอาวุธมีดออกมาเข้าไปช่วยจำเลยที่ 2 แม้จะไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ใช้อาวุธมีดแทงผู้ตาย แต่จำเลยที่ 1 ก็อยู่กับจำเลยที่ 2 โดยตลอด อีกทั้งเข้าร่วมต่อสู้ด้วยและหลบหนีไปด้วยกัน เมื่อการตายของผู้ตายเกิดจากการที่จำเลยที่ 2 ใช้อาวุธมีดแทงร่างกายบริเวณที่สำคัญ ย่อมถือได้ว่า จำเลยที่ 1 เป็นตัวการร่วมในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นด้วย
ตามพฤติการณ์แห่งคดีการที่จำเลยทั้งสองร่วมกันฆ่าผู้ตาย มีสาเหตุจากการทะเลาะวิวาทกันและผู้ตายก็มีอาวุธมีดต่อสู้ด้วย โทษจำคุกที่ศาลล่างทั้งสองกำหนดมานั้นหนักเกินไป สมควรลดลงให้เหมาะสมแก่รูปคดี แม้จำเลยที่ 2 ไม่ได้ฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจที่จะพิพากษาไปถึงจำเลยที่ 2 ด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 ประกอบมาตรา 225
ตามพฤติการณ์แห่งคดีการที่จำเลยทั้งสองร่วมกันฆ่าผู้ตาย มีสาเหตุจากการทะเลาะวิวาทกันและผู้ตายก็มีอาวุธมีดต่อสู้ด้วย โทษจำคุกที่ศาลล่างทั้งสองกำหนดมานั้นหนักเกินไป สมควรลดลงให้เหมาะสมแก่รูปคดี แม้จำเลยที่ 2 ไม่ได้ฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจที่จะพิพากษาไปถึงจำเลยที่ 2 ด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 ประกอบมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5578/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการกระทำความผิดร่วมกันฆ่า: ความไม่พอใจส่วนบุคคล ไม่ถือเป็นเจตนาเดียวกัน
++ เรื่อง ความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อร่างกาย
++ โปรดดูย่อจากหนังสือคำพิพากษาศาลฎีกา สำนักงานศาลยุติธรรม
++ เล่มที่ 6 หน้า 216 ++
++ ขอดูชุดพิเศษโปรดติดต่อห้องบริการเอกสารสำเนาคำพิพากษา (ห้องสมุด) ชั้น 4, 5 ++
++ โปรดดูย่อจากหนังสือคำพิพากษาศาลฎีกา สำนักงานศาลยุติธรรม
++ เล่มที่ 6 หน้า 216 ++
++ ขอดูชุดพิเศษโปรดติดต่อห้องบริการเอกสารสำเนาคำพิพากษา (ห้องสมุด) ชั้น 4, 5 ++
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยานจำได้จากเหตุการณ์กลางวัน ชี้ตัวผู้ต้องหาได้
ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางวันพยานโจทก์และโจทก์ร่วม ทั้งสามมีโอกาสได้เห็นหน้าจำเลยในลักษณะเต็มใบหน้าในท่าตรง ในระยะใกล้เป็นเวลานานพอสมควร เมื่อเจ้าพนักงาน ตำรวจจับกุมจำเลยได้ พยานโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสาม ก็สามารถชี้ตัวจำเลยได้ถูกต้องโดยระบุว่าจำเลยไม่ใช่ คนร้ายที่ใช้มีดแทงผู้ตาย แต่เป็นคนนั่งซ้อนท้าย รถจักรยานยนต์ไปกับคนร้ายที่ใช้มีดแทงผู้ตาย พยานโจทก์ และโจทก์ร่วมทั้งสามเบิกความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกัน ประกอบ กับพยานโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสามไม่มีสาเหตุโกรธเคือง กับจำเลยจึงไม่มีเหตุที่พยานโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสามจะ แกล้งเบิกความปรักปรำจำเลยให้ต้องรับโทษคำเบิกความ ของพยานโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสามจึงมีน้ำหนักฟังได้ จำเลยนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปกับคนร้ายอีก 2 คนและหลังจากคนร้ายที่นั่งซ้อนท้าย รถจักรยานยนต์เป็นคนที่สองใช้มีดแทงผู้ตายแล้ว จำเลยนั่งซ้อนท้าย รถจักรยานยนต์หลบหนีไปกับคนร้าย 2 คนนั้นด้วย แสดงให้เห็นว่าจำเลยร่วมรู้เห็นกับคนร้ายในการไปฆ่าผู้ตาย เพราะตามปกติ วิสัยคนร้ายที่จะไปกระทำความผิดจะไม่นำบุคคล ที่ไม่ได้เป็นพวกเดียวกันไปด้วยเพื่อให้รู้เห็นการกระทำ ความผิดของตน และการที่คนร้ายใช้มีดแทงผู้ตายก็อยู่ ในความรู้เห็นของจำเลย แต่จำเลยก็ยังนั่งซ้อนท้าย รถจักรยานยนต์คนร้ายหลบหนีไปด้วยกัน ถือได้ว่าจำเลยได้ร่วม คบคิดกับคนร้ายอีก 2 คน ไปฆ่าผู้ตายมาตั้งแต่ต้น จำเลยจึงมี ความผิดฐานร่วมกับพวกฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3347/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดฐานตัวการในคดีร่วมกันฆ่า แม้ไม่ชัดเจนว่าเป็นผู้ลงมือ
จำเลยได้ร่วมกับพวกมาหาเรื่องกับกลุ่มผู้ตาย โดยจำเลยมีอาวุธปืนติดตัวมาด้วย ตามพฤติการณ์ย่อมเล็งเห็นได้ว่าอาจจะมีการใช้อาวุธปืนยิงคนในกลุ่มผู้ตายถึงแก่ความตายได้ ดังนั้นแม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้แน่ชัดเพียงว่ามีคนในกลุ่มจำเลยซึ่งไม่แน่ว่าจะเป็นจำเลยหรือไม่ ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตายและผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส จำเลยก็ต้องรับผิดฐานเป็นตัวการด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2290/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ร่วมกันวางแผนฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ศาลฎีกาปรับบทกฎหมาย
การที่จำเลยกับพวกร่วมกันวางแผนหลอกผู้ตายออกมาจากร้านอาหารไปที่ถนนริมคลองชลประทานที่เกิดเหตุ แล้วพวกจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย หลังจากฆ่าผู้ตายแล้วจำเลยกับพวกก็หลบหนีไปด้วยกัน ถือได้ว่าเป็นการร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มิใช่เป็นเพียงผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 แต่โจทก์ก็มิได้ฎีกาขอให้เพิ่มเติมโทษจำเลย ศาลฎีกาจึงไม่อาจลงโทษจำเลยให้หนักไปกว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ได้ แต่มีอำนาจพิพากษาปรับบทกฎหมายให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1851/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: ตัวการร่วม
จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์พาคนร้ายไปบ้านผู้ตาย และจอดรถยนต์รออยู่ที่หน้าบ้านผู้ตาย หลังจากคนร้ายสองคนเข้าไปยิงผู้ตายแล้ว ได้วิ่งมาขึ้นรถยนต์ที่จำเลยที่ 1 จอดรออยู่ แล้วจำเลยที่ 1 ก็ขับรถยนต์พาคนร้ายหลบหนีไปพฤติการณ์ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ร่วมคบคิดกับพวกวางแผนมาฆ่าผู้ตายโดยแบ่งหน้าที่กันทำ จำเลยที่ 1 จึงเป็นตัวการร่วมกับพวกคนร้ายฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 503/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พยานหลักฐานแน่นหนา ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้อื่น มีและพาอาวุธปืนยกฟ้องในข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ แม้จำเลยจะอุทธรณ์ว่า จำเลยไม่ได้เป็นคนร้ายที่กระทำความผิดตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษ ก็ไม่มีประเด็นข้อโต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ได้วินิจฉัยว่า จำเลยไม่ได้กระทำความผิดในข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่นั้นไม่ถูกต้องอย่างไร ข้อหาดังกล่าวย่อมยุติ ไม่มีประเด็นที่ศาลอุทธรณ์จะต้องวินิจฉัยซ้ำอีก คำให้การพยานโจทก์ซึ่งให้การไว้ในชั้นสอบสวนใกล้เวลาเกิดเหตุไม่ทันได้คิดเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงย่อมมีน้ำหนักรับฟังได้ กฎหมายหาได้จำกัดให้รับฟังเฉพาะคำให้การพยานโจทก์ในชั้นศาลเท่านั้นไม่เมื่อคำให้การพยานโจทก์ในชั้นสอบสวนมิได้เกิดขึ้นจากการจูงใจมีคำมั่นสัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวง หรือมิชอบประการอื่น ศาลย่อมรับฟังมาประกอบพยานหลักฐานอื่นของโจทก์ว่าจำเลยกระทำความผิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานเพียงพอสนับสนุนคำเบิกความของประจักษ์พยานและคำรับสารภาพของผู้ร่วมกระทำความผิด ทำให้ฟังได้ว่าจำเลยร่วมฆ่าผู้ตาย
เหตุเกิดเวลากลางวัน แม้โจทก์มีประจักษ์พยานเพียงปากเดียวแต่ขณะเกิดเหตุพยานอยู่ห่างคนร้ายประมาณ 1 วา และน่าเชื่อว่าพยานไม่ตกใจถึงกับจะไม่รับรู้เหตุการณ์ คนร้ายปฏิบัติการอยู่นานมีการยิงซ้ำผู้ตาย พยานวิ่งไปประมาณ 10 เมตร แล้วได้หันกลับมามองเห็นจำเลยยิงผู้ตายซ้ำ ในชั้นสอบสวนพยานให้การยืนยันว่าจำคนร้ายได้ และให้การถึงรูปพรรณคนร้ายในคดีที่ จ. ถูกฟ้องว่าเป็นคนร้ายคนหนึ่ง พยานก็ได้เบิกความยืนยัน เมื่อจับตัวจำเลยได้แล้วพยานก็ชี้ตัวจำเลยได้ถูกต้องไม่ลังเลใจ และได้ลงชื่อรับรองความถูกต้องของบันทึกการชี้ตัวไว้ในชั้นจับกุมจำเลยให้การรับสารภาพโดยสมัครใจ นอกจากนี้ในคดีที่ จ. ถูกฟ้อง จ. รับสารภาพว่าร่วมกับจำเลยและ พ. กระทำผิด แม้ตามปกติคำซัดทอดระหว่างผู้ต้องหาด้วยกันจะไม่มีน้ำหนักที่จะรับฟัง แต่เมื่อฟังประกอบกับคำประจักษ์พยานโจทก์แล้ว ย่อมสนับสนุนคำของประจักษ์พยานให้มีน้ำหนักยิ่งขึ้น ดังนี้พยานหลักฐานของโจทก์ดังกล่าวแล้ว จึงมีน้ำหนักเพียงพอฟังได้โดยมั่นคงว่าจำเลยร่วมกับ จ. และพวกเป็นคนร้ายฆ่าผู้ตาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1524/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ร่วมวางแผนฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: การแบ่งหน้าที่และสังเกตการณ์
การที่จำเลยได้พูดปรึกษากับ ธ. และ ม. พร้อมทั้งได้มอบอาวุธปืนสั้นให้ ธ. แล้วมานอนคอยสังเกตการณ์อยู่ในร้านที่เกิดเหตุจนกระทั่ง ธ.ย้อนกลับมายิงผู้ตายถึงแก่ความตายนั้น เป็นพฤติการณ์ที่บ่งชี้ให้เห็นอย่างแน่ชัดว่าจำเลยกับพวกได้ร่วมกันวางแผนฆ่าผู้ตายโดยแบ่งหน้าที่กันทำ จึงถือว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 650/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกันฆ่าโดยเจตนา แม้ไม่มีประจักษ์พยาน พยานหลักฐานอื่นประกอบเชื่อได้ว่าจำเลยที่ 3 ร่วมกระทำผิด
แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานมาสืบยืนยันว่า จำเลยที่ 3 ได้ ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วย และคำให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน ของจำเลยที่ 1 ที่กล่าวอ้างว่า จำเลยที่ 3 ร่วมกระทำผิดด้วยเป็น คำบอกเล่ามีน้ำหนักน้อย แต่โจทก์มีพยานหลักฐานอื่นประกอบให้เห็นว่า คำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 1 เป็นความจริง และพยานหลักฐาน โจทก์ประกอบคำให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 3 มีน้ำหนัก รับฟังได้ว่า จำเลยที่ 3 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ใช้ไม้ท่อนวิ่งไล่ตีผู้ตายเข้าไปในสวนยางจนผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 3 จึง มีความผิดฐานร่วมกับจำเลยที่ 1 ฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน.