คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ร่วมกันทำร้าย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 23 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1335/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย: การแบ่งแยกความผิดของผู้ใช้อาวุธปืนและผู้ร่วมทำร้าย
จำเลยทั้งสามร่วมกันทำร้ายผู้ตาย และจำเลยที่ 1 ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย แต่จำเลยทั้งสามร่วมกันทำร้ายผู้ตายและผู้ตายถึงแก่ความตายโดยจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่รู้ว่าจำเลยที่ 1 มีอาวุธปืนไปด้วย ฉะนั้น จำเลยที่ 1ซึ่งเป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายต้องรับผิดฐานฆ่าผู้ตายเป็นการเฉพาะตัวส่วนจำเลยที่ 2 และที่ 3 ร่วมกับจำเลยที่ 1 ทำร้ายผู้ตายมาแต่ต้นจึงต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 วรรคหนึ่งมิใช่มีความผิดตามมาตรา 295 ดังที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามาแต่เมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกาจึงแก้ไขเพียงปรับบทลงโทษจำเลยที่ 2 และที่ 3 เสียให้ถูกต้อง แต่ไม่อาจเพิ่มเติมโทษจำเลยที่ 2และที่ 3 ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212ประกอบมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1738/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดต่างกรรมกัน: การยิงป้องกันตัวแยกจากความผิดฐานร่วมกันบุกรุกและทำร้าย
แม้การกระทำของจำเลยที่3และที่4ต่อผู้เสียหายที่7เป็นเวลาใกล้ชิดกับที่จำเลยที่3และที่4ใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในบ้านโจทก์ร่วมแต่เมื่อจำเลยที่3ที่4มิได้ตั้งใจมาฆ่าผู้เสียหายที่7โดยตั้งใจมาฆ่าโจทก์ร่วมและผู้เสียหายอื่นในบ้านโจทก์ร่วมเท่านั้นการที่จำเลยที่3และที่4เพิ่งมาคิดฆ่าผู้เสียหายที่7ในขณะพบเห็นเพื่อป้องกันมิให้ผู้เสียหายที่7ไปช่วยเหลือโจทก์ร่วมจึงเป็นการกระทำความผิดต่างกรรมกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 494/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานร่วมทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย แม้ไม่มีส่วนร่วมโดยตรงในการแทง แต่มีส่วนในการชักชวนทำร้าย
ผู้ตายร้องด่าจำเลยขณะจำเลยกับพวกเดินผ่านไป จำเลยกับพวกย้อนกลับมาแล้วเกิดทะเลาะท้าชกกับผู้ตาย ผู้ตายขี่รถจักรยานจะไปตามพวกก็ถูก อ.พวกของจำเลยใช้มีดแทงผู้ตายวิ่งหนีอ.ถือมีดวิ่งไล่ตามแทงผู้ตายอีกโดยจำเลยวิ่งไล่ตามผู้ตายมาด้วยไม่ปรากฏว่าจำเลยมีส่วนร่วมยุยงส่งเสริมให้ อ. แทงผู้ตายอ. อาจตัดสินใจกระทำเองก็เป็นได้ พฤติการณ์แห่งคดีมีข้อระแวงสงสัย สมควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้เป็นคุณแก่จำเลยแต่การที่จำเลยพาพวกมาท้าผู้ตายชกจนผู้ตายจะไปตามพวกมาช่วยเป็นกรณีสมัครใจจะทำร้ายกัน ฟังได้ว่าจำเลยร่วมกับ อ.ทำร้ายผู้ตาย เมื่อผลการกระทำร้ายทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายจำเลยจึงมีความผิดฐานร่วมทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 224/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าร่วมกันทำร้ายถึงแก่ความตาย การร้องเชียร์ให้ทำร้ายเป็นเจตนาในการกระทำผิด
การที่จำเลยที่ 3 ร้องตะโกนบอกจำเลยที่ 1 และที่ 2 ว่า"ตีมันให้หมอบเลย" แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 3 มีเจตนาร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 3 ย่อมเห็นได้ว่าการที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ใช้ไม้ตีทำร้ายผู้ตายที่บริเวณศีรษะและลำตัว อาจทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ ดังนั้น จึงถือได้ว่าจำเลยที่ 3 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ทำร้ายผู้ตายโดยเจตนาฆ่าผู้ตาย เมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะการทำร้ายดังกล่าวจำเลยที่ 3 จึงมีความผิดฐานร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ฆ่าผู้ตายโดยเจตนา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1633/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: ความผิดกรรมเดียวและความรับผิดชอบของผู้ร่วมกระทำ
การที่ผู้เสียหายและผู้ตายอยู่ใกล้กันและจำเลยกับพวกใช้ไม้ตีและใช้มีดแทงผู้เสียหายจนล้มลง ระหว่างนั้นพวกจำเลยอีกคนหนึ่งใช้มีดแทงผู้ตายถึงแก่ความตายโดยจำเลยยืนถือไม้ พวกของจำเลยยืนถือมีดอยู่ข้าง ๆ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งหนึ่งคราวเดียวกันสืบเนื่องจากการโต้เถียงถึงกับจำเลยจะชกต่อยกับผู้ตายและผู้เสียหายกับพวกเข้าไปห้าม พฤติการณ์แห่งคดีฟังได้ว่าจำเลยกับพวกร่วมกันมาทำร้ายผู้ตายและผู้เสียหายกับพวกในคราวเดียวกัน พวกจำเลยใช้มีดปาดตาลยาวประมาณ 1 คืบ เป็นอาวุธแทงผู้ตายถูกที่เหนือราวนมข้างขวาทะลุเข้าปอด เลือดตกในอกขวามาก เป็นการเลือกแทงบริเวณอวัยวะสำคัญ และแทงอย่างแรง ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายในชั่วระยะเวลาไม่นาน เป็นการกระทำโดยเจตนาฆ่า การร่วมกันไปใช้ไม้และมีดปลายแหลมเป็นอาวุธตีและแทงผู้ตายและผู้เสียหายกับพวกที่ไม่ชอบกัน เห็นได้ว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาต้องการทำร้ายผู้ตายและผู้เสียหายกับพวกทุกคนไม่แบ่งแยกว่าใครเป็นใคร ลักษณะของเจตนาในการกระทำความผิดเป็นอันเดียวกันแม้จะมีการกระทำหลายหน ต่อบุคคลหลายคนด้วยกันก็อยู่ภายในเจตนาอันนั้น การพยายามฆ่าผู้เสียหายและฆ่าผู้ตายถือว่าเป็นความผิดกรรมเดียว ซึ่งเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ศาลมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4486/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: การพิสูจน์เจตนาและพฤติกรรมร่วม
จำเลยที่ 1 ถูกผู้ตายข่มเหงก่อน จำเลยทั้งสามจึงปรึกษาวางแผนทำร้ายผู้ตายโดยมี ป. ร่วมอยู่ด้วยและทราบดีถึงการวางแผนดังกล่าวต่อมาเมื่อผู้ตายลุกออกจากวงสุรา จำเลยทั้งสามก็ตามไปรุมชกต่อยผู้ตาย และ ป. ใช้มีดแทงผู้ตายจนถึงแก่ความตายแล้วพากันหลบหนีไปเช่นนี้ ถือได้ว่า จำเลยทั้งสามได้ร่วมกับ ป. ฆ่าผู้ตาย จำเลยทั้งสามจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 83

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3724/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาจากการร่วมกันทำร้ายร่างกายและฆ่าผู้อื่น พยานหลักฐานเชื่อมโยงจำเลยกับเหตุการณ์
แม้ประจักษ์พยานโจทก์จะเบิกความเพียงว่าคนที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารช่วยกันลากร่างผู้ตายโยนลงไปในคลอง โดยมิได้ระบุชื่อว่าคนที่นั่งร่วมโต๊ะมีใครบ้าง มีจำเลยอยู่ด้วยหรือไม่ แต่โจทก์ก็มีพยานยืนยันว่าก่อนเกิดเหตุจำเลยกับพวกและผู้ตายนั่งดื่มสุราอยู่ที่โต๊ะเดียวกันและเหตุการณ์ก็มีอยู่ต่อเนื่องกันไปโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยหรือคนใดกลับไปก่อนหรือใครมาเพิ่มอีก และมีคำให้การชั้นสอบสวนของ น. ซึ่งไม่ได้ตัวมาเบิกความชั้นพิจารณาให้การว่าจำเลยร่วมกระทำความผิดด้วย พยานหลักฐานโจทก์ฟังได้ว่าจำเลยร่วมกับพวกฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3393/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธร้ายแรงหลายคนร่วมกัน ศาลฎีกาวินิจฉัยถึงการเล็งเห็นผลถึงชีวิต
การที่จำเลยกับพวกหลายคนใช้อาวุธมีดและไม้ท่อนซึ่งเป็นอาวุธขนาดใหญ่อาจทำอันตรายถึงชีวิตได้ กลุ้มรุมทำร้ายผู้ตายมีบาดแผล 8 แห่ง ล้วนเป็นบาดแผลฉกรรจ์ กะโหลกศีรษะบิ่นเป็นแนวยาว และกะโหลกศีรษะแตกร้าว บาดแผลที่สำคัญทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย ลึกเข้าช่องอกขวาทะลุปอดและหัวใจแสดงว่าจำเลยกับพวกใช้อาวุธมีด ไม้ ทั้งตี ฟันและแทงผู้ตายอย่างแรงหลายครั้ง ดังนี้ย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นได้ว่าจะทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงมีความผิดฐานร่วมกับพวกฆ่าผู้ตายโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1548/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าและการร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาความรับผิดของแต่ละจำเลยต่างกัน
จำเลยที่ 1 ซึ่งเคยมีเรื่องทะเลาะกับผู้ตายมาก่อนใช้เหล็กตีที่หน้าผู้ตาย และใช้เหล็กแหลมแทงผู้ตายที่ช่องท้องซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญ อาจเล็งเห็นผลได้ว่าทำให้ถึงตายได้ และผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมาจำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนา ส่วนจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 นั้น ได้ความว่าก่อนเกิดเหตุ จำเลยทั้งสามวิ่งตามผู้ตาย และยืนล้อมผู้ตายในลักษณะคุมเชิงอยู่มีพยานเห็นมือใครผลักผู้ตายด้วย เมื่อจำเลยที่ 1 ผละออกจากผู้ตายจำเลยทั้งสามก็ตามไป แต่ก็ไม่ได้ความชัดว่าจำเลยทั้งสามได้ร่วมกันทำร้ายผู้ตายอย่างใดอีก ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสามมีอาวุธมาด้วยหรือมีสาเหตุโกรธเคืองร้ายแรงประการใดมาก่อนกับผู้ตายการที่จำเลยที่ 1 ใช้เหล็กแหลมแทงผู้ตายโดยเจตนาฆ่า จึงเป็นการกระทำของจำเลยที่ 1 แต่โดยลำพัง พฤติการณ์ของจำเลยทั้งสามเป็นเพียงแต่ร่วมกับจำเลยที่ 1 เพื่อไปทำร้ายผู้ตายเท่านั้นแต่การร่วมทำร้ายมีผลให้ผู้ตายถึงแก่ความตายจำเลยทั้งสามจึงมีความผิดฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4804/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันทำร้ายจนถึงแก่ความตาย: ความรับผิดฐานร่วมกันฆ่าโดยเจตนา แม้ไม่ได้ลงมือแทง
กรณีชุลมุน ต่อสู้กันระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป และมีบุคคลถึงตาย ตาม ป.อ. มาตรา 294 หมายถึงกรณีที่ไม่ทราบว่าผู้ใดหรือผู้ใดร่วมกับใครได้ทำร้ายผู้ตายถึงตาย มิใช่กรณีที่ฝ่ายหนึ่งกลุ้มรุมกันทำร้ายผู้ตายถึงตาย ซึ่งฝ่ายนั้นต้องรับผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้ตายโดยเจตนา.
of 3