พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1814/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาต้องระบุองค์ประกอบความผิดให้ชัดเจน หากฟ้องแล้วขอลงโทษฐานอื่นย่อมทำไม่ได้
ความผิดฐานใช้อุบายหลอกลวงไปเพื่อการอนาจาร กับใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อการอนาจาร แม้เป็นความผิดในมาตราเดียวกันแต่ลักษณะของการกระทำต่างกัน องค์ประกอบในการกระทำความผิดจึงต่างกัน เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยกับพวกที่หลบหนีได้บังอาจร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายฉุดลากพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจาร ดังนี้ โจทก์จะกลับขอให้ลงโทษจำเลยฐานใช้อุบายหลอกลวงเพื่อการอนาจารหาได้ไม่ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 วรรคแรก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการแก้ไขคำพิพากษาเมื่อมีเหตุผลสนับสนุนการลงโทษฐานอื่น แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานกรรโชก ชิงทรัพย์ และพาอาวุธไปในเมืองโดยไม่มีเหตุสมควร ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์และพาอาวุธไปในเมือง โดยไม่มีเหตุสมควร จำเลยมิได้อุทธรณ์ แต่โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานกรรโชกด้วยเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดียังไม่พอฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายชิงทรัพย์และพาอาวุธไปในเมืองโดยไม่มีเหตุสมควร แต่เชื่อว่าจำเลยเป็นคนร้ายกรรโชกทรัพย์ผู้เสียหาย ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาแก้เสียให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 โดยไม่ใช่กรณีที่ต้องอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 เพราะมิใช่เป็นเหตุในลักษณะคดี แต่เป็นเรื่องคดียังไม่ถึงที่สุดซึ่งศาลอาจพิพากษาเป็นอย่างอื่นได้