คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ลงโทษได้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1995/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องฐานลักทรัพย์/รับของโจร โดยมีการระบุทรัพย์สินผิดพลาดในฟ้อง หากจำเลยไม่หลงต่อสู้ ศาลลงโทษได้
ฟ้องว่าจำเลยกับพวกร่วมกันลักกำไลข้อมือเพชร แหวนเพชร 2 วง จี้เพชร และสร้อยคอทองคำ หรือรับของโจรแหวนเพชร โดยจำเลยนำแหวนเพชร 1 วงที่ถูกลักนั้นไปขาย ฟ้องดังนี้มิได้ยืนยันว่าจำเลยกระทำผิดทั้งสองฐาน แต่บรรยายข้อเท็จจริงที่ปรากฏให้ศาลวินิจฉัยลงโทษจำเลยฐานใดฐานหนึ่งเท่าที่ทางพิจารณาได้ความ ฟ้องโจทก์ไม่ชัดกันแต่อย่างใด
เมื่อข้อเท็จจริงตามทางพิจาณาปรากฏว่าทรัพย์ที่จำเลยเอาไปขายเป็นกำไลข้อมือเพชร หาใช่แหวนเพชรดังที่กล่าวในฟ้องไม่ ก็เป็นเรื่องโจทก์ระบุตัวทรัพย์ผิดพลาดเพราะโจทก์ได้ระบุด้วยว่าของกลางมีราคาเท่าใด ซึ่งเป็นราคาของกำไลข้อมือเพชร และว่าเป็นทรัพย์ชิ้นหนึ่งในบรรดาทรัพย์ที่หายไป ข้อแตกต่างในเรื่องตัวทรัพย์เพียงเท่านี้ยังไม่พอจะถือว่าเป็นข้อแตกต่างในข้อสาระสำคัญ และเมื่อจำเลยมิได้หลงต่อสู้ ศาลย่อมลงโทษจำเลยได้
(วรรคสอง วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2518)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1285/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก: การอ้างมาตราผิดพลาด ศาลลงโทษได้ตามข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2481 (ฉะบับที่ 3) มาตรา 8 แต่ พ.ร.บ.ฉะบับนี้มีเพียง 5 มาตรา และมาตรา 4 เท่านั้นเป็นบทลงโทษ ฉะนั้นจึงเป็นที่เห็นได้ว่า โจทก์คงจะขอให้ลงโทษตามมาตรา 4 แต่โจทก์อ้างผิดไป ตามมาตรา 192 วรรค 4 ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 627/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักยอกทรัพย์โดยเจ้าพนักงาน: ศาลลงโทษได้แม้ฟ้องอ้างเพียงมาตราเดิม แม้มีการแก้ไขอัตราโทษ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญา ม.131 และ พ.ร.บ.แก้ไขข้างต้น+ศาลย่อมลงโทษจำเลยได้แม้แต่อ้างมาตรา 131 อย่างเดียวศาลก็ลงโทษได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15179/2551 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตควบคุมการแปรรูปไม้: โจทก์ไม่นำสืบประกาศ แต่จำเลยไม่โต้แย้ง ถือว่าจำเลยทราบแล้ว ศาลลงโทษได้
มาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้ ฯ ที่กำหนดให้คัดสำเนาประกาศรัฐมนตรีซึ่งกำหนดขึ้นตามบทแห่งกฎหมายดังกล่าวประกาศไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นแต่เพียงการกำหนดวิธีการให้พนักงานเจ้าหน้าที่กระทำในการประกาศให้ทราบถึงประกาศรัฐมนตรีเท่านั้น ไม่ใช่บทบังคับอันเป็นองค์ประกอบความผิด การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยร่วมกับพวกมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตามประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2499 โดยประกาศดังกล่าวได้มีการคัดสำเนาประกาศไว้ ณ สถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ทราบโดยทั่วกัน และจำเลยกับพวกได้ทราบแล้ว ซึ่งจำเลยไม่เคยโต้เถียงทั้งไม่ฎีกาว่าท้องที่เกิดเหตุมิใช่เขตควบคุมการแปรรูปไม้ แสดงว่าจำเลยทราบประกาศดังกล่าวแล้ว หากจำเลยเห็นว่ายังไม่ได้มีการปิดประกาศดังกล่าว ซึ่งจะใช้บังคับแก่จำเลยไม่ได้ ก็เป็นข้อที่จำเลยจะต่อสู้ขึ้นมาให้เห็นเป็นประเด็นในศาลชั้นต้น ดังนั้น แม้โจทก์จะมิได้นำสืบให้เห็นว่า ได้มีการคัดสำเนาประกาศกระทรวงเกษตร เรื่อง กำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ฯ ปิดประกาศไว้ ณ สถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ก็ลงโทษจำเลยได้