คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ลดมาตราส่วนโทษ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7371/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดมาตราส่วนโทษตาม ป.อ. มาตรา 76 ต้องลดอัตราโทษก่อนลงโทษ ไม่ใช่กำหนดโทษแล้วค่อยลด
การลดมาตราส่วนโทษตาม ป.อ. มาตรา 76 นั้น หมายความว่า ลดอัตราโทษขั้นสูงและขั้นต่ำลงหนึ่งในสามหรือกึ่งหนึ่งจากกำหนดโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดที่จำเลยที่ 1 กระทำ แล้วจึงลงโทษในระวางโทษนั้น มิใช่กำหนดโทษจำเลยที่ 1 ไว้ก่อนแล้วจึงลดจากโทษที่กำหนดไว้ คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 335 (3) (4) (7) (8) วรรคสอง ประกอบมาตรา 83 และ 336 ทวิ ซึ่งมีระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีหกเดือนถึงสิบปีหกเดือน และปรับตั้งแต่สามพันบาทถึงสองหมื่นหนึ่งพันบาท โดยศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจลดมาตราส่วนโทษให้แก่จำเลยที่ 1 กึ่งหนึ่งจากอัตราโทษดังกล่าวตาม ป.อ. มาตรา 76 แล้ววางโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 4 ปี และลดโทษให้แก่จำเลยที่ 1 อีกกึ่งหนึ่ง เพราะมีเหตุบรรเทาโทษตาม ป.อ. มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี จึงเป็นการชอบแล้วโดยไม่จำต้องระบุอัตราโทษของความผิดที่จำเลยที่ 1 กระทำทั้งก่อนและหลังลดมาตราส่วนโทษแล้วลงในคำพิพากษาด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6815/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดมาตราส่วนโทษและการลงโทษปรับสำหรับความผิดทางศุลกากรและยาสูบ การพิจารณาโทษปรับต่อจำเลยคนเดียว
การลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 คือ การลดอัตราโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นๆ ลงกึ่งหนึ่งแล้วจึงลงโทษ มิใช่ศาลกำหนดโทษลงไว้ก่อนแล้วจึงลดมาตราส่วนโทษจากโทษที่ลงไว้ และความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 ทวิ บัญญัติให้ลงโทษปรับสำหรับความผิดครั้งหนึ่งๆ เป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมอากรเข้าด้วยแล้ว มิใช่ให้ปรับสำหรับความผิดครั้งหนึ่งๆ แล้วแบ่งปรับเป็นรายบุคคล คนละเท่าๆ กัน เมื่อจำเลยถูกฟ้อง จำเลยจึงเป็นบุคคลเดียวที่ถูกพิพากษาว่ากระทำความผิดและต้องถูกลงโทษตามคำพิพากษา บุคคลอื่นที่ร่วมกระทำความผิด เมื่อยังไม่ถูกฟ้องย่อมไม่อาจถือเป็นผู้กระทำความผิดอันจะถูกลงโทษตามคำพิพากษาคดีนี้ได้ กรณีไม่อาจแบ่งแยกลดจำนวนความรับผิดสำหรับโทษปรับครั้งนี้แก่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6387/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความถูกต้องของคำพิพากษาอาญา: การระบุมาตราผิดและวิธีการลดมาตราส่วนโทษ
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยศาลชั้นต้นได้พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 มาตรา 48 และมาตรา 73 เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้ระบุอ้างบทมาตราที่เป็นบทความผิดและบทกำหนดโทษยกขึ้นปรับแก่คดีตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186(7)ประกอบมาตรา 214 บัญญัติไว้ถูกต้องแล้ว คำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงชอบด้วยกฎหมาย ส่วนการที่ศาลล่างทั้งสองไม่ได้ระบุว่าการกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดตามวรรคใดนั้นเป็นเพียงการไม่สมบูรณ์ชัดเจนเท่านั้น ไม่ทำให้เป็นคำพิพากษาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย การลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76คือการลดอัตราโทษขั้นสูงและขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดที่จำเลยกระทำโดยลดลงหนึ่งในสามหรือกึ่งหนึ่งแล้วจึงกำหนดโทษที่จะลงในระหว่างนั้น มิใช่ให้ศาลกำหนดโทษที่จะลงไว้ก่อนแล้วจึงลดจากโทษที่ได้กำหนดไว้ จึงต่างกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 54 ซึ่งเป็นเรื่องการคำนวณการเพิ่มโทษหรือลดโทษที่จะลงจากโทษที่ได้กำหนดแล้ว และการลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 มิใช่เป็นบทมาตราซึ่งกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดหรือบทกำหนดโทษแม้ศาลชั้นต้นมิได้ปรับบทที่ลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยที่ 2ว่าเป็นมาตรา 76 ก็ไม่เป็นเหตุให้คำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186(7)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1044/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษทางอาญา: ลดมาตราส่วนโทษ แต่ไม่เปลี่ยนแปลงบทมาตราความผิด - ข้อจำกัดการฎีกาในข้อเท็จจริง
ศาลลงโทษจำเลยเรียงกระทงศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ลดมาตราส่วนโทษตาม มาตรา 76 คงจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปีดังนี้เป็นการแก้เฉพาะกำหนดโทษและลดมาตราส่วนโทษ มิได้แก้บทมาตราความผิด ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2161/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องลดจากอัตราโทษที่กฎหมายกำหนด ไม่ใช่จากโทษที่ศาลกำหนด
การลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 คือการลดอัตราโทษขั้นสูงและขั้นต่ำลงหนึ่งในสามหรือกึ่งหนึ่งแล้วจึงลงโทษระหว่างนั้น หาใช่ศาลกำหนดโทษลงไว้ก่อนแล้วลดจากโทษที่กำหนดไว้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2161/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดมาตราส่วนโทษตาม ป.อาญา มาตรา 76 ต้องลดจากอัตราโทษขั้นสูง-ต่ำ ไม่ใช่ลดจากโทษที่ศาลกำหนด
การลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76คือการลดอัตราโทษขั้นสูงและขั้นต่ำลงหนึ่งในสามหรือกึ่งหนึ่งแล้วจึงลงโทษระหว่างนั้น หาใช่ศาลกำหนดโทษลงไว้ก่อนแล้วลดจากโทษที่กำหนดไว้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1541/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องลดจากโทษที่กฎหมายกำหนด ไม่ใช่ลดจากโทษที่ศาลวางไว้
การลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76พึงวางโทษภายในอัตราที่ได้ลดมาตราส่วนจากโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ๆ แล้ว ไม่ใช่วางโทษตามบทความผิดเสียก่อนเป็นเบื้องต้น แล้วจึงลดจากโทษที่ศาลวางไว้นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1085/2554

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดมาตราส่วนโทษที่ถูกต้อง และข้อจำกัดการแก้ไขโทษของศาลอุทธรณ์โดยที่โจทก์มิได้อุทธรณ์
การลดมาตราส่วนโทษให้แก่จำเลยกึ่งหนึ่งนั้น ศาลต้องลดอัตราโทษขั้นสูงและขั้นต่ำจากโทษที่กฎหมายกำหนดสำหรับความผิดที่จำเลยกระทำลงกึ่งหนึ่ง แล้วจึงกำหนดโทษจำเลยในระวางโทษที่ลดแล้วนั้น จะกำหนดโทษจำเลยก่อน แล้วลดมาตราส่วนโทษลงย่อมไม่ถูกต้อง
ศาลชั้นต้นกำหนดโทษจำเลยจำคุก 18 ปี ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 9 ปี แม้ไม่ถูกต้อง แต่การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาแก้เป็นว่า ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งแล้ว จำคุก 12 ปี โดยโจทก์ไม่อุทธรณ์ ย่อมเป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลย ต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 212 ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นแก้ไขให้ถูกต้องได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบ มาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1133/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดมาตราส่วนโทษโดยคำนึงถึงความรู้สึกผิดชอบของจำเลย แม้ข้อหาบางส่วนต้องห้ามฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาได้
การใช้ดุลพินิจลดมาตราส่วนโทษโดยคำนึงถึงความรู้สึกผิดชอบของจำเลยที่ 3 เป็นข้อเท็จจริงอันเดียวเกี่ยวพันกัน เมื่อศาลฎีกาลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยที่ 3 ในความผิดฐานที่ไม่ต้องห้ามฎีกาแล้ว ก็มีอำนาจลดมาตราส่วนโทษในความผิดฐานที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3345/2560

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดมาตราส่วนโทษเกินอัตราขั้นต่ำตามกฎหมายในคดียาเสพติด ศาลฎีกาเห็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยแล้วเห็นว่า พฤติการณ์แห่งคดียังไม่สมควรลงโทษจำเลยน้อยกว่าอัตราขั้นต่ำตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100/2 แต่เห็นสมควรลงโทษจำเลยเบากว่าที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ และลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยหนึ่งในสามตาม ป.อ. มาตรา 76 ซึ่งความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 91 มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสามปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เมื่อศาลอุทธรณ์ลดมาตราส่วนโทษให้หนึ่งในสามแล้ว คงระวางโทษที่จะลงแก่จำเลยจำคุกตั้งแต่สี่เดือนถึงสองปี หรือปรับตั้งแต่หกพันหกร้อยหกสิบหกบาทหกสิบหกสตางค์ถึงสี่หมื่นบาท ดังนั้น การที่ศาลอุทธรณ์ลดมาตราส่วนโทษให้หนึ่งในสามตาม ป.อ. มาตรา 76 แล้วจำคุก 3 เดือน เป็นการลงโทษจำคุกจำเลยต่ำกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กฎหมายบัญญัติไว้ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย