คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ลบล้าง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5623/2548 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของการถอนฟ้องคดีแพ่งหลังมีคำพิพากษาศาลอุทธรณ์: ฎีกาเป็นอันลบล้าง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานจำเลยต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี แม้จำเลยจะยื่นฎีกา แต่คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ย่อมผูกพันคู่ความอยู่จนกว่าจะถูกเปลี่ยนแปลง แก้ไข กลับหรืองดเสียถ้าหากมี ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 145 วรรคหนึ่ง ดังนี้ต้องถือว่าคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น โจทก์ชอบที่จะถอนฟ้องได้ และศาลชั้นต้นชอบที่จะมีอำนาจสั่ง เมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องโดยจำเลยไม่คัดค้านแล้ว ซึ่งการถอนคำฟ้องย่อมลบล้างผลแห่งการยื่นคำฟ้องรวมทั้งกระบวนพิจารณาอื่นๆ อันมีต่อมาภายหลังยื่นคำฟ้อง และกระทำให้คู่ความกลับคืนสู่ฐานะเดิมเสมือนหนึ่งมิได้มีการยื่นคำฟ้องเลยตามมาตรา 176 ดังนั้น ฎีกาของจำเลยจึงต้องถูกลบล้างไปด้วยผลของการถอนฟ้อง ศาลฎีกาสั่งจำหน่ายคดีจากสารบบความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6866/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งไม่ตกตามฟ้องของโจทก์ทิ้ง แม้ฟ้องโจทก์เป็นเหตุลบล้างกระบวนการ แต่ไม่กระทบสิทธิฟ้องแย้งของจำเลย
ตามคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลย จำเลยมีสิทธิฟ้องโจทก์ได้อยู่แล้ว แม้โจทก์จะไม่ฟ้องจำเลย การที่จำเลยฟ้องแย้งมาในคำให้การก็เพื่อความสะดวกในการดำเนินคดีของจำเลยและการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลมิใช่เพิ่งจะเกิดมีสิทธิที่จะฟ้องโจทก์ขึ้นมาภายหลังจากที่โจทก์ฟ้องจำเลย การที่โจทก์ไม่นำค่าขึ้นศาลมาเสียเพิ่มภายในกำหนดตามคำสั่งศาลชั้นต้น และศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง การทิ้งคำฟ้องของโจทก์แม้จะมีผลลบล้างแห่งการยื่นคำฟ้องรวมทั้งกระบวนพิจารณาอื่น ๆ อันมีมาต่อภายหลังยื่นคำฟ้อง แต่ก็มีผลเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับฟ้องของโจทก์เท่านั้น หามีผลไปถึงฟ้องแย้งของจำเลยไม่ เพราะเป็นคนละส่วนกัน ฟ้องแย้งของจำเลยจึงไม่ตกไปด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1634/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บังคับคดีแพ่งถึงที่สุด แม้มีคดีอาญาเชื่อมโยง ผลคำพิพากษาอาญาไม่อาจลบล้างคำพิพากษาแพ่งได้
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ และดำเนินการเพื่อจะขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยทั้งสองในคดีแพ่งที่ถึงที่สุดแล้วนั้น เป็นกรณีปฏิบัติไปตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ในเรื่องการบังคับคดีตามคำพิพากษาโดยชอบ ซึ่งเป็นการบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของจำเลยทั้งสอง ส่วนคดีอาญาที่จำเลยทั้งสองฟ้องโจทก์นั้น เป็นเรื่องที่จะบังคับเกี่ยวกับตัวโจทก์ เป็นกรณีคนละเรื่องกัน ผลของคำพิพากษาในคดีอาญาไม่อาจลบล้างคำพิพากษาในคดีแพ่งได้ จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะงดการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยทั้งสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาถึงที่สุดผูกพันคู่ความจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง การอ้างเหตุผลจากคดีอื่นมาลบล้างมิได้
คำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีหลังซึ่งยกฟ้องโจทก์โดยฟังข้อเท็จจริงว่า เจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้แก่จำเลยและผู้อื่น ย่อมผูกพันโจทก์จำเลยในคดีหลังกล่าวคือโจทก์หมดสิทธิที่จะได้รับมรดกเฉพาะเกี่ยวกับทรัพย์มรดกที่ว่ากล่าวกันในคดีหลังซึ่งเป็นทรัพย์คนละส่วนกับคดีนี้เท่านั้น จะถือเอาคำพิพากษาในคดีหลังไปลบล้างคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีนี้ที่พิพากษาให้โจทก์มีสิทธิรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม เพื่อมิให้ศาลบังคับจำเลยในคดีนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2154/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงเพื่อป้องกันตัวที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายก่อน การกระทำต่อเนื่องเป็นเหตุผลลบล้าง
จำเลยกับพวกอีกคนหนึ่งเข้ามากลุ้มรุมชกต่อยผู้เสียหายกับพวกที่ใต้ถุนเรือนแล้วออกวิ่งหนี ผู้เสียหายกับพวกไล่ตามไป จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกัน เพราะจำเลยกับพวกเป็นฝ่ายก่อเรื่องก่อน การที่ผู้เสียหายกับพวกไล่ตามจำเลยไป แล้วจำเลยยิงผู้เสียหาย เป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องจากการกระทำผิดครั้งแรกของจำเลยกับพวกยังไม่ขาดตอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 503/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาแสดงออกแล้วมิอาจกลับลบล้างได้ แม้แสดงเจตนาหลอกลวง หากไม่มีนิติกรรมอื่นแฝงอยู่
การที่บุคคลแสดงเจตนาอย่างไรออกไปแล้ว ภายหลังจะมาอ้างว่าตนไม่ได้ตั้งใจจะแสดงเจตนาเช่นนั้น แต่ทำขึ้นหลอกๆ เช่นนี้มิใช่นิติกรรมอำพราง เพราะคู่กรณีมิได้อำพรางนิติกรรมอื่นใดอีกเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1814/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความยินยอมตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ แม้มติคณะกรรมการเปลี่ยนแปลงภายหลัง ก็ไม่ลบล้างความยินยอมที่ได้ทำไปแล้ว
ผู้ให้เช่ายื่นคำร้องขอเข้าอยู่ในห้องเช่าเอง ต่อคณะอนุกรรมการควบคุมค่าเช่าประจำจังหวัด อนุกรรมการได้เชิญให้ผู้ให้เช่าและผู้เช่ามาเพื่อแจ้งมติคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าให้ทราบ ผู้ให้เช่าและผู้เช่าจึงตกลงยินยอมตามกำหนดที่คณะกรรมการกำหนด คือให้ผู้เช่าออกจากห้องเช่าภายใน 8 เดือนและมีความว่าผู้เช่าตกลงยินยอมจะออกจากห้องเช่าของผู้ให้เช่าตามมติของคณะกรรมการควบคุมเช่าภายในกำหนด 8 เดือน ฯลฯ ดังนี้ข้อตกลงเช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นความยินยอมของผู้เช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ มาตรา 16 (5) แล้ว ฉะนั้นภายหลังอนุกรรมการควบคุมค่าเช่า ประจำจังหวัด จะเสนอเรื่องนี้ขึ้นไปยังคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าสั่งตามอำนาจ คณะกรรมการได้ลงมติไม่ให้ผู้เช่าเข้าอยู่ห้องเช่าของผู้ให้เช่าตามคำร้องก็ตามมติกรรมการก็ไม่ลบล้างความยินยอมดังกล่าวแล้ว ผู้เช่าไม่ออกจากห้องเช่า โจทก์ย่อมฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงใหม่ย่อมลบล้างสัญญาเดิม แม้มีการผิดสัญญาเบื้องต้น การเรียกร้องค่าทดแทนจากสัญญาเดิมจึงหมดไป
เมื่อคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งผิดสัญญาไม่ส่งของภายในกำหนดแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งมิได้บอกเลิกสัญญากับรับเอาการปฏิบัติตามสัญญานั้นอีก ดังนี้ ถือว่ามีข้อตกลงกันใหม่ ยกเลิกสัญญาเดิม คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะเรียกร้องให้ใช้ค่าทดแทนเนื่องในการผิดสัญญาเดิมนั้นอีกไม่ได้
สัญญาเดิมมีข้อความตำลงเรื่องมัดจำไว้ เมื่อคู่สัญญาเปลี่ยนข้อตกลงกันใหม่ โดยไม่ได้กล่าวถึงเงินมัดจำและไม่ปรากฎว่าผู้รับมัดจำมีสิทธิ์ยึดมัดจำไว้แล้ว เงินมัดจำนั้นก็ต้องคืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 299/2477

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาหนี้จากการกู้ยืม โดยพิจารณาการยินยอมของคู่สัญญา และการนำสืบพยานเพื่อลบล้างสัญญา
ลักษณพะยาน ข้อนำสืบ พยานบุคคล หักล้างเอกสารได้เพียงใด ต่อสู้ว่าสัญญาก็เป็นโมฆะแล้วย่อมนำพะยานบุคคลมาหักล้างเอกสารได้ ป.พ.พ.ม.38-650 ภรรยากู้หนี้ สามีไม่ได้รู้เห็นยินยอมอนุญาตแล้วย่อมไม่ผูกฟันสินบริคณห์
ป.พ.พ.ม.314-139 อันการชำระหนี้นั้นท่านว่าบุคคลภายนอกจะเป็นผู้ชำระก็ได้ ภรรยาทำสัญญากู้เงินเขา โดยสามีมิได้เป็นคู่สัญญาหรือยินยอมอนุญาตมอบหายให้ทำ สามียังจะเข้ารับใช้หนี้ให้ได้เมื่อยอมรับใช้ให้เท่าใดก็ผูกพันเพียงเท่านั้นไม่ใช่การให้สัตตยาบัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานที่ไม่สามารถซักค้านได้ และพยานหลักฐานลบล้างกันในคดีอาญา
ลักษณพะยาน พะยานชั้นไต่สวนซึ่งจำเลยไม่มีโอกาศที่จะซักค้านได้นั้นฟังไม่ได้ วิธีพิจารณาอาญา หลักวินิจฉัยคำพะยาน
of 2