พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5694/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลวนลามทางเพศด้วยการโอบไหล่ ถือเป็นความผิดฐานกระทำอนาจาร แต่ศาลให้รอการลงโทษ
การที่จำเลยเข้าโอบไหล่ผู้เสียหาย ทั้งที่ไม่เคยรู้จัก กันมาก่อน ถือเป็นการลวนลามผู้เสียหายในทางเพศแล้ว เป็น ความผิดฐานกระทำอนาจาร แต่การกระทำอนาจารของจำเลยดังกล่าว เป็นเพียงการใช้มือโอบไหล่เท่านั้น ไม่น่าจะทำให้ผู้เสียหาย เสื่อมเสียหรือได้รับความอับอายมากนัก ทั้งไม่ปรากฏว่า จำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน เห็นสมควรให้โอกาสจำเลยกลับตน เป็นพลเมืองดีโดย ให้รอการลงโทษจำคุกไว้ แต่เห็นสมควร ลงโทษปรับจำเลยด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2001/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุจากการถูกลวนลาม จำเลยใช้มีดแทงจนถึงแก่ความตาย
ผู้ตายหลอกลวงจำเลยว่า บุตรจำเลยป่วยหนัก สามีจำเลยให้ผู้ตายมารับจำเลยไป ผู้ตายขับพาไปถึงที่เปลี่ยวแล้วลวนลามจำเลย จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายอย่างแรง ถูกอวัยวะสำคัญ ขณะนั้นจำเลยอยู่ในสภาพแต่งกายเรียบร้อยผู้ตายก็ยังนุ่งกางเกงอยู่ ผู้ตายจึงคงลวนลามโดยกอดจูบเท่านั้น ไม่ถึงขั้นจะข่มขืนกระทำชำเราจำเลย กรณียังไม่พอถือว่าเป็นภยันตรายที่จะใกล้จะถึงสำหรับการจะถูกข่มขืนกระทำชำเรา คงเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงเฉพาะที่ผู้ตายกระทำอนาจารเท่านั้น ในขณะที่ผู้ตายกอดปล้ำจำเลย ผู้ตายอาเจียนจำเลยยังดิ้นหลุดออกไปได้บ้างแต่ผู้ตายก็เข้ามากอดปล้ำอีก แสดงว่าผู้ตายเมาสุรามากจนแทบจะครองสติไม่ได้จำเลยอาจกระทำการใดเพื่อป้องกันโดยไม่จำต้องให้ผู้ตายถึงตายก็ได้ การที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายในที่สำคัญจนผู้ตาย ถึงแก่ความตายจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 69
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2001/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุจากการลวนลามทางเพศ ศาลฎีกาพิจารณาจากพฤติการณ์และสภาพจิตของผู้กระทำ
จำเลยกับผู้ตายไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกัน ผู้ตายเคยสู่ขอจำเลยเป็นภริยาแต่จำเลยไม่ตกลงด้วย ในวันเกิดเหตุผู้ตายเมาสุรามากได้หลอกลวงจำเลยว่าบุตรของจำเลยป่วยหนัก สามีจำเลยให้ผู้ตายมารับจำเลยจำเลยจึงยอมนั่งรถจักรยานยนต์ไปกับผู้ตาย เมื่อไปถึงที่เปลี่ยวผู้ตายลวนลามจำเลยด้วยการกอดปล้ำจำเลย จำเลยใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ทีถูกที่อวัยวะสำคัญ ซึ่งขณะนั้นจำเลยอยู่ในสภาพแต่ง กายเรียบร้อยผู้ตายก็ยังนุ่งกางเกงอยู่ กรณียังไม่พอถือว่า เป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงสำหรับการจะถูกข่มขืนกระทำชำเรา เป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงเฉพาะ ที่ผู้ตายกระทำอนาจารเท่านั้นและจำเลยอาจกระทำการใด เพื่อป้องกันโดยไม่จำต้องให้ผู้ตายถึงตาย ก็ได้ การที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายดังกล่าวจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรกว่าเหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2001/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันเกินสมควร: การใช้มีดแทงเพื่อป้องกันการลวนลามทางเพศในสถานการณ์ที่ผู้กระทำอยู่ในอาการมึนเมา
ผู้ตายหลอกลวงจำเลยว่า บุตรจำเลยป่วยหนัก สามีจำเลยให้ผู้ตายมารับจำเลยไป ผู้ตายขับพาไปถึงที่เปลี่ยวแล้วลวนลามจำเลย จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายอย่างแรง ถูกอวัยวะสำคัญขณะนั้นจำเลยอยู่ในสภาพแต่งกายเรียบร้อยผู้ตายก็ยังนุ่งกางเกงอยู่ ผู้ตายจึงคงลวนลามโดยกอดจูบเท่านั้น ไม่ถึงขั้นจะข่มขืนกระทำชำเราจำเลย กรณียังไม่พอถือว่าเป็นภยันตรายที่จะใกล้จะถึงสำหรับการจะถูกข่มขืนกระทำชำเรา คงเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงเฉพาะที่ผู้ตายกระทำอนาจารเท่านั้นในขณะที่ผู้ตายกอดปล้ำจำเลย ผู้ตายอาเจียนจำเลยยังดิ้นหลุดออกไปได้บ้างแต่ผู้ตายก็เข้ามากอดปล้ำอีก แสดงว่าผู้ตายเมาสุรามากจนแทบจะครองสติไม่ได้จำเลยอาจกระทำการใดเพื่อป้องกันโดยไม่จำต้องให้ผู้ตายถึงตายก็ได้ การที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายในที่สำคัญจนผู้ตายถึงแก่ความตายจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 69.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1032/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามชิงทรัพย์: การประสงค์ต่อทรัพย์เป็นสำคัญ แม้มีการข่มขู่และลวนลาม
จำเลยใช้มีดปลายแหลมจี้คอผู้เสียหายพร้อมกับขู่ไม่ให้ร้องมิฉะนั้นจะปล้ำเมื่อผู้เสียหายปฏิบัติตามก็โยนเหล็กปลายแหลมทิ้งแล้วกอดผู้เสียหายไว้ใช้มือคลำคอผู้เสียหายถามหาสร้อยคอเมื่อทราบว่าไม่มีก็ถามถึงแหวนที่ผู้เสียหายสวมอยู่พอทราบว่าเป็นของปลอมก็ปล่อยมือจากการกอดผู้เสียหายวิ่งหนีไปได้พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยประสงค์ต่อทรัพย์ของผู้เสียหายเป็นสำคัญเพราะเสาะหาแต่สร้อยคอกับแหวนเท่านั้นการที่จำเลยใช้เหล็กปลายแหลมขู่จะปล้ำผู้เสียหายก็ดีกอดตัวผู้เสียหายเมื่อค้นหาทรัพย์ก็ดีเป็นการขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายและใช้กำลังประทุษร้ายตามความหมายแห่งป.อ.มาตรา339การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์ ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกจำเลยฐานพยายามชิงทรัพย์6ปี8เดือนฐานกระทำอนาจาร4เดือนรวมจำคุก7ปี2เดือนและลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก3ปี7เดือนยังไม่ถูกต้องเมื่อรวมโทษแล้วต้องเป็นจำคุก7ปีลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก3ปี6เดือนปัญหาข้อนี้แม้จำเลยจะมิได้ฎีกาแต่ก็เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยและแก้ให้ถูกต้องได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2467/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยเกินกว่าเหตุ: การแทงหลายครั้งหลังถูกลวนลาม
ส. บุตรสาวของจำเลยลงไปอาบน้ำที่บันไดริมแม่น้ำในเวลา 1 ทุ่มเศษน้ำลึกแค่หน้าอกผู้ตายดำน้ำมากอดเอวจับนมและของลับของส.ส.ร้องเรียกให้จำเลยช่วย จำเลยจึงคว้ามีดไปช่วยและแทงผู้ตายจนผู้ตายจมหายไป ดังนี้ ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันส.แต่ผู้ตายเพียงแต่ดำน้ำมาจับนมและของลับของส. เท่านั้นการที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายไปหลายครั้ง จนปรากฏบาดแผลที่ตัวผู้ตายถึง 5 แผล คือ ที่นมขวา เหนือลิ้นปี่ ต้นแขนขวาต้นแขนซ้าย และส้นเท้าซ้าย ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 886/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุกรุกเคหสถาน แม้มุ่งลวนลาม ไม่ใช่เจตนาลักทรัพย์
เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยบังอาจเข้าไปในเคหะสถานที่อยู่อาศัยของนางสินโดยเจ้าของมิได้อนุญาตให้เข้าไปแล้วลักเอาสร้อยคอ 1 เส้นราคา 600 บาทของนางสินไปโดยใช้กริยาฉกฉวยพาหนีไปต่อหน้า ขอให้ลงโทษตาม กฎหมายอาญามาตรา 294,297,60
ดังนี้แม้ข้อเท็จจริงฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยมึนเมาสุราแล้วถือวิสาสะเข้าไปลวนลามเจ้าทรัพย์จำเลยไม่มีเถยยะจิตต์คิดจะเอาทรัพย์แต่อย่างใดแต่จำเลยรับว่าได้เข้าไปในเคหะของเจ้าทรัพย์จริงและฟังไม่ได้ว่าเจ้าทรัพย์เรียกจำเลยเข้าไปคุยด้วยก็ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตามมาตรา329(2) ได้
ดังนี้แม้ข้อเท็จจริงฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยมึนเมาสุราแล้วถือวิสาสะเข้าไปลวนลามเจ้าทรัพย์จำเลยไม่มีเถยยะจิตต์คิดจะเอาทรัพย์แต่อย่างใดแต่จำเลยรับว่าได้เข้าไปในเคหะของเจ้าทรัพย์จริงและฟังไม่ได้ว่าเจ้าทรัพย์เรียกจำเลยเข้าไปคุยด้วยก็ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตามมาตรา329(2) ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุจากการทำร้ายและการลวนลาม
ผู้เสียหายเมาสุราแล้วขึ้นไปลวนลามภรรยาจำเลยบนเรือนและทำร้ายจำเลยจำเลยจึงต่อสู้ แล้วโดดหนี ผู้เสียหายกลับแสดงอาการจะทำร้ายอีก จำเลยจึงทำร้ายผู้เสียหายรวม13 แห่งถึงสาหัส ดังนี้ถือว่า จำเลยได้กระทำการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1671/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายโดยบรรดาลโทสะจากเหตุลวนลามภรรยา ศาลลดโทษได้
ผู้เสียหายได้ไปลวนลามภรรยาจำเลย จำเลยจึงตามมาทำร้ายผู้เสียหาย ดังนี้ ฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำไปโดยบรรดาลโทษะ ควรลดโทษให้จำเลยตามมาตรา 55 ก.ม.ลักษณะอาญา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6816/2554
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา ต้องมีการกระทำใกล้ชิดถึงขั้นพยายามสอดใส่ มิใช่แค่การลวนลาม
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งมิใช่ภริยาของตน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคแรก (เดิม) ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ในขณะจำเลยกระทำความผิด และต้องใช้บังคับแก่คดี เนื่องจากกฎหมายที่แก้ไขในภายหลังไม่เป็นคุณแก่จำเลยนั้น มิได้ให้คำนิยามของการกระทำชำเราไว้ แต่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง ที่แก้ไขในภายหลัง ให้คำนิยามของการกระทำชำเราไว้ว่า หมายความว่าการกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำโดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำ กระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือ ช่องปากของผู้อื่น หรือ การใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น ซึ่งเป็นเพียงการขยายความแต่ก็ยังคงเทียบเคียงการกระทำชำเราหญิงตามกฎหมายเดิมได้
ความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราหญิงนั้น ผู้กระทำจะต้องใช้อวัยวะเพศของตนกระทำในลักษณะใกล้ชิดพร้อมที่จะใช้อวัยวะเพศสอดใส่กับอวัยวะเพศของหญิงผู้ถูกกระทำ การกระทำของจำเลยที่ใช้แรงกายบังคับฉุดกระชากลากตัวผู้เสียหายเข้าไปในห้องน้ำ ล๊อกประตูห้องน้ำ ถอดกางเกงชั้นนอกและกางเกงในของผู้เสียหายออก แล้วจับนมและอวัยวะเพศของผู้เสียหาย ซึ่งถือเป็นการกระทำการลวนลามผู้เสียหายแล้ว แต่จำเลยยังไม่ได้ถอดกางเกงที่ตนเองสวมใส่ออก การกระทำของจำเลยจึงยังไม่ถึงขั้นที่พยายามใช้อวัยวะเพศของตนเองสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหาย จึงถือว่าลักษณะการกระทำความผิดของจำเลยยังไม่อยู่ในวิสัยที่จะกระทำการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดเพียงฐานกระทำอนาจารผู้เสียหายเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสเท่านั้น
ความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราหญิงนั้น ผู้กระทำจะต้องใช้อวัยวะเพศของตนกระทำในลักษณะใกล้ชิดพร้อมที่จะใช้อวัยวะเพศสอดใส่กับอวัยวะเพศของหญิงผู้ถูกกระทำ การกระทำของจำเลยที่ใช้แรงกายบังคับฉุดกระชากลากตัวผู้เสียหายเข้าไปในห้องน้ำ ล๊อกประตูห้องน้ำ ถอดกางเกงชั้นนอกและกางเกงในของผู้เสียหายออก แล้วจับนมและอวัยวะเพศของผู้เสียหาย ซึ่งถือเป็นการกระทำการลวนลามผู้เสียหายแล้ว แต่จำเลยยังไม่ได้ถอดกางเกงที่ตนเองสวมใส่ออก การกระทำของจำเลยจึงยังไม่ถึงขั้นที่พยายามใช้อวัยวะเพศของตนเองสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหาย จึงถือว่าลักษณะการกระทำความผิดของจำเลยยังไม่อยู่ในวิสัยที่จะกระทำการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดเพียงฐานกระทำอนาจารผู้เสียหายเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสเท่านั้น