พบผลลัพธ์ทั้งหมด 37 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5389/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุหย่า: การต่อว่า-ขับไล่ ไม่ถึงขั้นร้ายแรง/จงใจละทิ้ง
การที่ภริยาต่อว่าญาติและเพื่อนของสามีต่อหน้าสามีว่า ทำไมไม่ออกเงินค่าสุราอาหารเองบ้าง และการที่ภริยากล่าวว่า ตนโตมาได้เพราะพ่อแม่ชุบเลี้ยงไม่ใช่เพราะแม่ของสามี ยังไม่ถึงขนาดทำให้สามีได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรงหรือเป็นการเหยียดหยามบุพการีของสามีอย่างร้ายแรงไม่เป็นเหตุหย่าตามกฎหมาย
การที่ภริยาออกจากบ้านที่อยู่กินกับสามี เพราะสามีนำหญิงอื่นมาพักอาศัยในบ้านแล้วขับไล่ภริยาออกจากบ้าน ถือไม่ได้ว่าภริยาจงใจละทิ้งร้างสามี
การที่ภริยาออกจากบ้านที่อยู่กินกับสามี เพราะสามีนำหญิงอื่นมาพักอาศัยในบ้านแล้วขับไล่ภริยาออกจากบ้าน ถือไม่ได้ว่าภริยาจงใจละทิ้งร้างสามี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1267/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสิทธิครอบครองที่ดินจากการละทิ้ง และการได้มาซึ่งสิทธิครอบครองใหม่ของผู้อื่น
ที่ดินพิพาทโจทก์มีแต่ สิทธิครอบครอง เมื่อโจทก์ละทิ้ง ที่ดิน พิพาทมานานถึง 7-8 ปี ถือ ได้ ว่าโจทก์สละเจตนาครอบครองหรือ ไม่ยึดถือทรัพย์สินพิพาทต่อไปการครอบครองของโจทก์ย่อมสุดสิ้นลงตาม ป.พ.พ. มาตรา 1377 ดังนี้ เมื่อจำเลยเข้ายึดถือที่ดิน พิพาททำประโยชน์ปลูกยางพาราโดย เจตนายึดถือเพื่อตน หลังจากการครอบครองของโจทก์สุดสิ้นแล้ว ดังนี้ จำเลยได้ สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทตาม ป.พ.พ. มาตรา 1367 และไม่เป็นการละเมิดต่อ โจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1441-1444/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสิทธิครอบครองที่ดินเมื่อเจ้าของเดิมละทิ้งการครอบครอง และมีการครอบครองโดยผู้อื่นต่อเนื่องเกิน 1 ปี
ตามฟ้องโจทก์อ้างว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน แต่ทางพิจารณาได้ความว่าที่พิพาทเป็นของกรมประชาสงเคราะห์ แม้จะฟังว่าในขั้นแรกโจทก์เป็นผู้ยึดถือที่พิพาทโดยเสียค่าตอบแทนให้ ท.แล้วปลูกห้องแถวขึ้นก็ตาม แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ ถ. ซื้อห้องแถวดังกล่าวได้แล้ว ได้ขายต่อให้กับบุคคลอื่น และมีการโอนต่อมาจนกระทั่งถึงจำเลยซึ่งได้เข้าครอบครองติดต่อกันมา โดยมิได้มีการรื้อถอนแต่อย่างใด เป็นเวลาเกินกว่า 1 ปีแล้ว โจทก์มิได้เข้าเกี่ยวข้องกับที่พิพาทเลย แสดงว่าโจทก์มิได้ยึดถือที่พิพาทต่อไปแล้ว ทั้งโจทก์มิได้มอบให้ผู้ใดยึดถือที่พิพาทแทน การครอบครองของโจทก์ย่อมสุดสิ้นลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377 วรรคแรก โจทก์มิใช่เจ้าของที่พิพาท และไม่มีสิทธิครอบครอง จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 329/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุหย่า: การเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยาและละทิ้งกัน สิทธิฟ้องร้องระงับใน 2 ปี
การกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยานั้น. เมื่อพ้นกำหนด 2 ปีแล้วสิทธิการฟ้องร้องย่อมระงับไป.
โจทก์จำเลยทะเลาะกันด่ากัน. โจทก์จะกล่าวอ้างว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์เพื่อยกเป็นเหตุฟ้องหย่าหาได้ไม่.
โจทก์จำเลยทะเลาะกันด่ากัน. โจทก์จะกล่าวอ้างว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์เพื่อยกเป็นเหตุฟ้องหย่าหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1599/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าทารกแรกเกิด: การกระทำแสดงเจตนาฆ่า แม้จะอ้างเพียงต้องการละทิ้ง
เมื่อรูปคดีฟังได้ว่า จำเลยคลอดบุตรออกมาแล้วไม่ขอความช่วยเหลือใคร ไม่บอกให้ใครทราบ จำเลยได้ดึงสายสะดือเด็กจนขาด แล้วทิ้งรกลงในส้วมและลาดน้ำล้างโลหิตจนหมด เอาเด็กวางไว้ในอ่างปัสสาวะ เปิดน้ำไหลลาดท่วมตัว ทำให้น้ำเข้าปากและปอดเด็ก แล้วเด็กนั้นตายเพราะปอดบวมในวันรุ่งขึ้น ถือได้แล้วว่าเป็นการที่จำเลยกระทำโดยรู้สึกในการที่กระทำนั้น และจำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่า การทำดังนี้ เด็กบุตรของจำเลยอาจตายได้ ประกอบกับเหตุที่จำเลยทำไปทั้งนี้ก็เพราะจำเลยไม่ต้องการบุตรคนนี้ จึงเป็นการกระทำโดยเจตนาฆ่า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคสอง
กรณีตามพฤติการณ์หาใช่จำเลยมีเจตนาเพียงต้องการทิ้งบุตรของจำเลยไว้ให้แก่โรงพยาบาลไม่
กรณีตามพฤติการณ์หาใช่จำเลยมีเจตนาเพียงต้องการทิ้งบุตรของจำเลยไว้ให้แก่โรงพยาบาลไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 458/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหย่าเนื่องจากสามีละทิ้งภรรยาและบุตร โดยไม่เลี้ยงดูและมีภรรยาใหม่
สามีไม่ทำมาหากินอย่างใด ภรรยาบอกให้ทำงานมาเลี้ยงครอบครัวก็โกรธและขนของออกจากบ้านไปได้หญิงอื่นเป็นภรรยาในเวลากระชั้นชิดไปแล้วก็ไม่ส่งเงินเลี้ยงดูภรรยากับบุตรเลย แสดงว่าสามีจงใจละทิ้งภรรยาภรรยาก็ไม่มีความจำเป็นต้องติดตามไปอยู่กับสามีสามีจะอ้างว่าตนเป็นฝ่ายมีสิทธิจะเลือกภูมิลำเนา ให้ภรรยามีหน้าที่ติดตามไปอยู่กับตนหาได้ไม่เมื่อสามีทิ้งร้างไปเกิน 1 ปี ภรรยาก็มีสิทธิขอหย่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ในที่ดินมือเปล่า: สิทธิของผู้ครอบครอง vs. ผู้ละทิ้ง
ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า ไม่ใช่ที่ดินที่มีโฉนด และไม่ใช่ที่บ้านที่สวน โจทก์ได้ขอจับจองที่พิพาทแล้วบุกเบิกทำเป็นนาในระหว่างที่ผู้ร้องสอดได้ทิ้งร้างที่พิพาทนี้ไว้ตั้งแต่ พ.ศ.2492 โจทก์ได้เข้าครอบครองทำกินโดยสงบเปิดเผยและโดยเจตนายึดถือเป็นเจ้าของมาแต่พ.ศ.2495จนถึงวันฟ้องคดีเป็นเวลา 5 ปี ผู้ร้องสอดเคยจับจองที่พิพาทไว้ แต่ได้ละทิ้งไปเสียนานเกือบ 10 ปี เช่นนี้ผู้ร้องสอดย่อมหมดสิทธิในที่พิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1609/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องหย่าเนื่องจากระหองระแหง, ละทิ้ง, และหมดความรักใคร่ต่อกัน
ตามจดหมายที่จำเลยมีไปถึงโจทก์ 2 ฉบับ แสดงออกชัดว่ามีการระหองระแหง จำเลยบอกใบ้จะมีภรรยาใหม่ รบเร้าให้เพิกถอนทะเบียนสมรส และจำเลยก็มิได้ให้เห็นเหตุเป็นอย่างอื่น จดทะเบียนสมรสแล้วหลับนอนกันคืนแรกคืนเดียวต่อๆ มายิ่งนานก็ยิ่งแสดงออกว่าหมดความรักใคร่ต่อกันยิ่งขึ้น และมิได้ส่งเสียเลี้ยงดูโจทก์มาเป็นเวลากว่าปีแล้ว ถือว่ามีเหตุสมควรที่จะให้หย่ากันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องหย่าเนื่องจากสามีมีภรรยาใหม่และละทิ้งโจทก์ แสดงเจตนาสละภรรยาเดิม
สามีแยกกับภรรยาเดิมไปประกอบพิธีแต่งงานกับหญิงอื่นใหม่เช่นนี้เป็นการกระทำแสดงออกชัดว่าสามีสละละทิ้งภรรยาเด็ดขาดไปแล้ว กล่าวคือถ้าจำเลยไม่รับรองต่อภรรยาคนใหม่ว่าเลิกกับภรรยาเดิมเด็ดขาดแล้ว ภรรยาคนใหม่และผู้ปกครองจะไม่ประกอบพิธีให้ หากเป็นการที่จำเลยตั้งใจกล่าวเท็จแก่ภรรยาคนใหม่ให้หลงเข้าใจผิดก็เป็นการกระทำที่เย้ยหยันแก่ภรรยาเดิมให้ได้รับความอัปยศอดสูเป็นอย่างยิ่งเช่นนี้ก็ดี และการที่ภรรยาใหม่อยู่กินกับสามียังบ้านเรือนสามีก็เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันระหว่างสามีกับภรรยาเดิมอย่างร้ายแรงก็ดี ทั้งหลายนี้เป็นเหตุให้ภรรยาฟ้องหย่าได้ อนึ่งแม้จะปรากฎภายหลังว่าภรรยาคนใหม่ได้ละทิ้งสามีไปเสียแล้วก็หาใช่ความดีของสามีที่จะนำมาเป็นเหตุแก้ตัวได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องหย่าเนื่องจากการละทิ้งและประกอบพิธีสมรสใหม่ ถือเป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้
สามีแยกกับภรรยาเดิมไปประกอบพิธีแต่งงานกับหญิงอื่นใหม่เช่นนี้เป็นการกระทำแสดงออกชัดว่าสามีสละละทิ้งภรรยาเด็ดขาดไปแล้ว กล่าวคือถ้าจำเลยไม่รับรองต่อภรรยาคนใหม่ว่าเลิกกับภรรยาเดิมเด็ดขาดแล้วภรรยาคนใหม่และผู้ปกครองจะไม่ประกอบพิธีให้ หากเป็นการที่จำเลยตั้งใจกล่าวเท็จแก่ภรรยาคนใหม่ให้หลงเข้าใจผิดก็เป็นการกระทำที่เย้ยหยันแก่ภรรยาเดิมให้ได้รับความอัปยศอดสูเป็นอย่างยิ่งเช่นนี้ก็ดี และการที่ภรรยาใหม่อยู่กินกับสามียังบ้านเรือนสามีก็เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันระหว่างสามีกับภรรยาเดิมอย่างร้ายแรงก็ดี ทั้งหลายนี้เป็นเหตุให้ภรรยาฟ้องหย่าได้ อนึ่งแม้จะปรากฏภายหลังว่าภรรยาคนใหม่ได้ละทิ้งสามีไปเสียแล้วก็หาใช่ความดีของสามีที่จะนำมาเป็นเหตุแก้ตัวได้ไม่