พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 400/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้อง, อายุความ, และการละเมิดหน้าที่เวรยาม: การพิพากษาคดีอาญาแพ่ง
ขณะที่โจทก์ฟ้องคดี ฉ. อธิบดีกรมการปกครองโจทก์ ไปราชการต่างจังหวัด ช. รองอธิบดีเป็นผู้รักษาการแทนเช่นนี้ ในช่วงนั้นช. ผู้รักษาการแทนย่อมมีฐานะเป็นผู้แทนโจทก์ และมีอำนาจกระทำการต่าง ๆ แทนโจทก์ได้เช่นเดียวกับอธิบดี ตามที่กำหนดไว้ในประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 218 ข้อ 42 วรรคสอง และข้อ 44วรรคแรก ดังนี้ ช. จึงมีอำนาจลงนามในใบแต่งทนายความให้ฟ้องคดีได้โดยมิต้องมีการมอบหมายจากอธิบดี จังหวัดนครพนมเป็นนิติบุคคลต่างหากจากโจทก์ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมมิใช่ผู้แทนโจทก์ ผู้แทนโจทก์คืออธิบดี การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมรู้ถึงตัวผู้ทำละเมิดจะถือว่าโจทก์รู้ยังไม่ได้ เมื่ออธิบดีโจทก์รู้ถึงตัวผู้ทำละเมิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2526 โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 3กุมภาพันธ์ 2527 คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ การที่จำเลยที่ 1 ละเลยต่อหน้าที่โดยไม่บอกกล่าวให้จำเลยที่ 2 จัดเวรยามแทนในเมื่อตนเองจะต้องไปราชการตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และไม่อาจอยู่เวรยามตามกำหนด ทำให้ไม่มีเวรยามอยู่ดูแล เป็นโอกาสให้คนร้ายเอาทรัพย์สินที่เก็บไว้ในคลังพัสดุไป ดังนี้ การละเลยต่อหน้าที่ของจำเลยที่ 1 จึงเป็นเหตุโดยตรงต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่โจทก์ ต้องถือว่าจำเลยที่ 1ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1030/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยประเด็นละเมิดหน้าที่ราชการและการผูกพันคำพิพากษาในคดีแพ่ง
คดีที่กระทรวงการคลังและการสื่อสารแห่งประเทศไทยฟ้องโจทก์กับพวก ศาลฎีกาได้วินิจฉัยว่า โจทก์มิได้กระทำละเมิดต่อกระทรวงการคลังและการสื่อสารแห่งประเทศไทย โดยร่วมกับ ส.จงใจเบียดบังเงินค่าภาษีอากรเงินรายได้อื่นและเงินทุนไปรษณีย์ตามฟ้อง แต่คดีนี้มีประเด็นที่พิพาทกันว่าโจทก์ละเว้นปฏิบัติการตามหน้าที่โดยไม่ตรวจตราควบคุมดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในการปฏิบัติงานเป็นเหตุให้ ส. เบียดบังเอาเงินดังกล่าวไปหรือไม่ ซึ่งศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยประเด็นนี้ให้ในคดีก่อน จึงหามีข้อเท็จจริงในคดีก่อนมาผูกพันคดีนี้ที่โจทก์จะไม่ต้องรับผิดใช้เงินคืนดังที่โจทก์อ้างไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 163/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอดถอนตรัสตี: ไม่ใช่เรื่องสัญญา แต่เป็นผลจากการละเมิดหน้าที่
ผู้ก่อตั้งตรัสต์ได้มอบทรัพย์สินของตนให้แก่ตรัสตีเป็นผู้ดูแลจัดการผลประโยชน์เพื่อรับประโยชน์แห่งตรัสต์นั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องสัญญาต่างตอบแทนที่คู่สัญญาจะต้องปฎิบัติการชำะระหนี้แต่อย่างใด ฉะนั้น เมื่อตรัสตีคนใดทำผิดหน้าที่และละเมิดตรัสต์ ศาลก็ย่อมจะพิพากษาถอดถอนตรัสตีผู้นั้นเสียได้ โดยไม่ต้องเลิกล้มทำลายหนังสือสัญญาก่อตั้งตรัสต์
การถอดถอนตรัสตีนั้นไม่มีหลัก ก.ม.ว่าทรัสตีจะต้องกระทำการถึงเป็นการทุจริตจึงจะถอดถอนได้ เพียงแต่ละเลยไม่ปฎิบัติหน้าที่ของตนถึงขนาดไม่สมควรจะดำรงตำแหน่งเป็นตรัสตีต่อไปแล้ว ศาลก็ย่อมถอดถอนได้
ฟ้องขอให้ถอดถอนตรัสตีตามตราสารก่อตั้งตรัสต์ที่ได้กระทำไว้ในประเทศไทย นั้นแม้ทรัพย์สินอันเป็นกองตรัสต์ส่วนมากจะอยู่ในต่างประเทศก็ฟ้องในศาลไทยได้ เพราะมิใช่เรื่องที่จะต้องบังคับแก่ทรัพย์สินแต่อย่างใด
การถอดถอนตรัสตีนั้นไม่มีหลัก ก.ม.ว่าทรัสตีจะต้องกระทำการถึงเป็นการทุจริตจึงจะถอดถอนได้ เพียงแต่ละเลยไม่ปฎิบัติหน้าที่ของตนถึงขนาดไม่สมควรจะดำรงตำแหน่งเป็นตรัสตีต่อไปแล้ว ศาลก็ย่อมถอดถอนได้
ฟ้องขอให้ถอดถอนตรัสตีตามตราสารก่อตั้งตรัสต์ที่ได้กระทำไว้ในประเทศไทย นั้นแม้ทรัพย์สินอันเป็นกองตรัสต์ส่วนมากจะอยู่ในต่างประเทศก็ฟ้องในศาลไทยได้ เพราะมิใช่เรื่องที่จะต้องบังคับแก่ทรัพย์สินแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 54/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้อำนาจของผู้พิพากษาในการถอนประกันและสั่งขังต้องไม่เจตนาละเมิดอำนาจหน้าที่
ผู้พิพากษาสั่งถอนประกันแล้วสั่งขังจำเลยโดยไม่ปรากฏว่ามีเจตนาร้ายละเมิดอำนาจและหน้าที่ ย่อมไม่มีมูลเป็นความผิดทางอาญา.