พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1396/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำหรือไม่: คดีลักกระแสไฟฟ้า vs. คดีละเมิดสัญญาจากเครื่องวัดไฟเสียหาย
พนักงานอัยการเคยเป็นโจทก์ฟ้องอาญาต่อจำเลยในมูลคดีเดียวกับคดีนี้กล่าวหาว่าจำเลยลักกระแสไฟฟ้าของโจทก์และขอให้จำเลยชำระเงินค่ากระแสไฟฟ้าที่ลักไปคืนแก่โจทก์ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องโจทก์แล้ว โจทก์มาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ในฐานะจำเลยที่เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้กระแสไฟฟ้าให้รับผิดชำระค่ากระแสไฟฟ้าและค่าเสียหายตามสัญญาซึ่งจำเลยทำไว้กับโจทก์ ดังนี้แม้โจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายจะมิได้เข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีดังกล่าวก็ถือว่าพนักงานอัยการฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนส่วนแพ่งแทนโจทก์สำหรับสภาพแห่งความรับผิดอันเกิดจากการกระทำละเมิดของจำเลยแล้ว แต่ความรับผิดซึ่งโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีนี้ซึ่งเป็นความรับผิดตามลักษณะของสัญญาเป็นคนละเหตุกับที่พนักงานอัยการฟ้องขอให้จำเลยชดใช้ราคาในคดีอาญา ฟ้องของโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำกับฟ้องของพนักงานอัยการในคดีก่อน เมื่อข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยแก้ไขเครื่องวัดการใช้กระแสไฟฟ้าอันจำเลยจะต้องชดใช้ค่าปรับตามสัญญาโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องให้จำเลยชดใช้ค่าปรับตามสัญญาได้และปัญหาข้อนี้เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะมิได้ฎีกา ศาลฎีกาหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5)ประกอบมาตรา 246 และมาตรา 247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 877/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักกระแสไฟฟ้าเป็นความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 หรือ 335
การลักกระแสไฟฟ้า ย่อมเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 หรือ 335 แล้วแต่กรณี
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2501)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 877/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักกระแสไฟฟ้าเข้าข่ายความผิดฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา
การลักกระแสไฟฟ้า ย่อมเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 หรือ 335 แล้วแต่กรณี (ประชุมใหญ่ครั้งที่8/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12328/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักกระแสไฟฟ้า - ความรับผิดของกรรมการผู้จัดการ - การยอมชำระหนี้เป็นหลักฐาน
แม้โจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นว่าจำเลยทั้งสามเป็นคนตัดสายคอนโทรลเคเบิล แต่จุดที่มีการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าของจำเลยที่ 1 อยู่ภายในบริเวณรั้วของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นการยากที่บุคคลภายนอกที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจะเข้าไปตัดสายคอนโทรลเคเบิลในที่เกิดเหตุได้ และการที่สายคอนโทรลเคเบิลถูกตัด มีผลทำให้มิเตอร์ไฟฟ้าคิดค่าไฟฟ้าต่ำกว่าความจริง ทั้งยังพบว่ามีสายไฟฟ้าซึ่งต่อกับสายคอนโทรลเคเบิลถูกลากไปที่โรงเก็บของจำเลยที่ 1 แม้สายไฟฟ้าดังกล่าวถูกตัดไปและไม่พบสวิตช์ควบคุมในโรงเก็บของจำเลยที่ 1 ก็ตาม แต่จำเลยทั้งสามไม่ได้นำสืบปฏิเสธว่าสายคอนโทรลเคเบิลไม่ได้ถูกตัด ประกอบกับจำเลยที่ 1 ยอมชำระค่าปรับกรณีละเมิดการใช้ไฟฟ้าและตกลงยอมชำระค่าไฟฟ้าที่มีการปรับปรุงเพิ่ม ตามหนังสือรับสภาพหนี้ ซึ่งเป็นจำนวนเงินค่ากระแสไฟฟ้าที่สูงมาก หากจำเลยที่ 1 ไม่ได้กระทำผิดจริงก็ไม่มีเหตุผลใดที่จำเลยที่ 1 จะยอมเสียค่าปรับและทำหนังสือรับสภาพหนี้ดังกล่าว พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาจึงมีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ลักกระแสไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคผู้เสียหาย ส่วนจำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นกรรมการผู้จัดการของจำเลยที่ 1 อยู่ในขณะเกิดเหตุ จึงเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินกิจการของจำเลยที่ 1 เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำผิด ต้องถือว่าเป็นการกระทำของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ด้วย