คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ลำดับหนี้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1720/2548 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องล้มละลายต้องมีหนี้ที่จำนวนแน่นอนและบังคับได้ตามลำดับก่อน
คำพิพากษาส่วนแพ่งในคดีอาญาที่โจทก์นำมาฟ้องจำเลยให้ล้มละลายเป็นมูลหนี้ที่ให้จำเลยส่งมอบเครื่องพิมพ์ดีดจำนวน 2 เครื่อง หรือใช้ราคาเป็นเงิน 34,922 บาท แก่โจทก์ จึงมีลักษณะเป็นการกำหนดลำดับในการบังคับชำระหนี้ที่จำเลยจะปฏิบัติชำระหนี้โดยการใช้เงินจำนวน 34,922 บาท แก่โจทก์ได้ก็ต่อเมื่อการคืนเครื่องพิมพ์ดีดจำนวน 2 เครื่อง ไม่สามารถกระทำได้แล้วเท่านั้น การบังคับคดีตามคำพิพากษาส่วนแพ่งดังกล่าวจึงต้องเป็นไปตามลำดับ เมื่อทางนำสืบโจทก์ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานใดเลยว่าเครื่องพิมพ์ดีดที่จำเลยจะต้องส่งคืนแก่โจทก์นั้นได้ถูกทำลายหรือบุบสลายไปแล้ว ซึ่งจะทำให้จำเลยไม่อาจคืนทรัพย์ดังกล่าวได้ หนี้ส่งมอบเครื่องพิมพ์ดีดจำนวน 2 เครื่องคืนแก่โจทก์ยังอยู่ในสภาพที่อาจบังคับกันได้ สิทธิเรียกร้องในหนี้เงินราคาเครื่องพิมพ์ดีดจำนวน 2 เครื่อง พร้อมดอกเบี้ยซึ่งเป็นสิทธิที่โจทก์จะมีสิทธิบังคับลำดับถัดมายังไม่อาจบังคับได้ จึงยังไม่อาจกำหนดได้โดยแน่นอนตาม พ.ร.บ.ล้มละลายฯ มาตรา 9 (3) โจทก์ไม่อาจนำหนี้เงินดังกล่าวมาฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1720/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้บังคับชำระตามลำดับ: สิทธิเรียกร้องยังไม่ถึงกำหนดบังคับ จึงไม่สามารถฟ้องล้มละลายได้
พนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีอาญาจำเลยกับพวกและมีคำขอแทนผู้เสียหายคือโจทก์ในคดีนี้ให้จำเลยกับพวกร่วมกันคืนทรัพย์สินหรือใช้ราคาที่สูญเสียไปเนื่องจากการกระทำผิด ศาลอาญามีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยกับพวกในความผิดฐานรับของโจรเครื่องพิมพ์ดีดจำนวน 2 เครื่อง และให้จำเลยกับพวกร่วมกันคืนหรือใช้ราคาเครื่องพิมพ์ดีดดังกล่าวเป็นเงิน 34,922 บาท แก่โจทก์ คำพิพากษาส่วนแพ่งในคดีดังกล่าวมีลักษณะเป็นการกำหนดลำดับในการบังคับชำระหนี้ที่จำเลยจะปฏิบัติชำระหนี้โดยการใช้เงินจำนวน 34,922 บาท แก่โจทก์ได้ก็ต่อเมื่อการคืนเครื่องพิมพ์ดีดจำนวน 2 เครื่อง ไม่สามารถกระทำได้แล้วเท่านั้น การบังคับคดีตามคำพิพากษาส่วนแพ่งดังกล่าวจึงต้องเป็นไปตามลำดับ เมื่อจำเลยไม่เคยนำทรัพย์ที่รับของโจรไว้มาคืน โดยไม่ปรากฏว่าเครื่องพิพม์ดีดที่จำเลยจะต้องคืนแก่โจทก์นั้นได้ถูกทำลายหรือบุบสลายไปแล้ว ศึ่งจะทำให้จำเลยไม่อาจคืนทรัพย์ดังกล่าวได้เช่นนี้ หนี้ส่งมอบเครื่องพิมพ์ดีดจำนวน 2 เครื่องคืนแก่โจทก์ยังอยู่ในสภาพที่อาจบังคับกันได้ สิทธิเรียกร้องในหนี้เงินราคาเครื่องพิมพ์ดีดจำนวน 2 เครื่อง พร้อมดอกเบี้ยตามฟ้องซึ่งเป็นสิทธิที่โจทก์ จะมีสิทธิบังคับลำดับถัดมายังไม่อาจบังคับได้ จึงไม่อาจกำหนดจำนวนได้โดยแน่นอนตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 9 (3) โจทก์ไม่อาจนำหนี้เงินดังกล่าวมาฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6132/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับการชดใช้หนี้สัญญาข้าราชการศึกษาต่อ: พิจารณาจากจำนวนเงินที่ต้องชดใช้เป็นหลัก
จำเลยมีภาระต้องทำงานชดใช้หนี้ตามสัญญาข้าราชการไปศึกษาต่อภายในประเทศเป็นเวลา 5 ปี 10 เดือน 24 วัน คิดเป็นเงินที่ต้องชดใช้จำนวน 160,089.99 บาท และต้องทำงานชดใช้หนี้ตามสัญญาข้าราชการไปศึกษาหรือฝึกอบรม ณ ต่างประเทศเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน 2 วัน คิดเป็นเงินที่ต้องชดใช้จำนวน 556,199.90 บาท ซึ่งในการพิจารณาว่าหนี้รายใดจะตกหนักที่สุดแก่จำเลยนั้นจะต้องพิจารณาจากภาระที่จำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์เป็นประเด็นสำคัญ แม้ระยะเวลาทำงานชดใช้ตามสัญญาข้าราชการไปศึกษาต่อภายในประเทศยาวนานกว่าก็ตาม แต่กรณีได้ผ่านพ้นระยะเวลาที่จะต้องทำงานชดใช้ไปแล้วเนื่องจากโจทก์อนุญาตให้จำเลยลาออกจากราชการ จำเลยจึงมีหน้าที่เพียงชดใช้เงินให้แก่โจทก์เท่านั้น ดังนั้นจึงต้องพิจารณาจากจำนวนเงินที่จำเลยจะต้องชดใช้ให้แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย ดังนั้นหนี้ตามสัญญาข้าราชการไปศึกษาหรืออบรม ณ ต่างประเทศจึงเป็นรายที่ตกหนักที่สุดแก่จำเลยจึงต้องให้หนี้ตามสัญญาดังกล่าวได้เปลื้องไปก่อนตาม ป.พ.พ.มาตรา 328 โดยนำเวลาที่จำเลยกลับเข้าทำงานชดใช้เป็นเวลา3 ปี 1 เดือน 24 วัน ไปชดใช้เวลาที่จำเลยต้องทำงานชดใช้จำนวน 1 ปี6 เดือน 2 วัน ก่อน ซึ่งยังเหลือเวลาที่จำเลยทำงานชดใช้ไว้อีก 1 ปี 7 เดือน22 วัน และถือว่าจำเลยได้ทำงานชดใช้ตามสัญญาข้าราชการไปศึกษาหรือฝึกอบรมณ ต่างประเทศครบตามสัญญาแล้ว จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาดังกล่าวอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6132/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับการชำระหนี้สัญญาข้าราชการทุน, การนำเวลาทำงานชดใช้หนี้มาหักหนี้รายที่ตกหนักที่สุด
จำเลยมีภาระต้องทำงานชดใช้หนี้ตามสัญญาข้าราชการไปศึกษาต่อภายในประเทศเป็นเวลา5ปี10เดือน24วันคิดเป็นเงินที่ต้องชดใช้จำนวน160,089.99บาทและต้องทำงานชดใช้หนี้ตามสัญญาข้าราชการไปศึกษาหรือฝึกอบรมณต่างประเทศเป็นเวลา1ปี6เดือน2วันคิดเป็นเงินที่ต้องชดใช้จำนวน556,199.90บาทซึ่งในการพิจารณาว่าหนี้รายใดจะตกหนักที่สุดแก่จำเลยนั้นจะต้องพิจารณาจากภาระที่จำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์เป็นประเด็นสำคัญแม้ระยะเวลาทำงานชดใช้ตามสัญญาข้าราชการไปศึกษาต่อภายในประเทศยาวนานกว่าก็ตามแต่กรณีได้ผ่านพ้นระยะเวลาที่จะต้องทำงานชดใช้ไปแล้วเนื่องจากโจทก์อนุญาตให้จำเลยลาออกจากราชการจำเลยจึงมีหน้าที่เพียงชดใช้เงินให้แก่โจทก์เท่านั้นดังนั้นจึงต้องพิจารณาจากจำนวนเงินที่จำเลยจะต้องชดใช้ให้แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยดังนั้นหนี้ตามสัญญาข้าราชการไปศึกษาหรืออบรมณต่างประเทศจึงเป็นรายที่ตกหนักที่สุดแก่จำเลยจึงต้องให้หนี้ตามสัญญาดังกล่าวได้เปลื้องไปก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา328โดยนำเวลาที่จำเลยกลับเข้าทำงานชดใช้เป็นเวลา3ปี1เดือน24วันไปชดใช้เวลาที่จำเลยต้องทำงานชดใช้จำนวน1ปี6เดือน2วันก่อนซึ่งยังเหลือเวลาที่จำเลยทำงานชดใช้ไว้อีก1ปี7เดือน22วันและถือว่าจำเลยได้ทำงานชดใช้ตามสัญญาข้าราชการไปศึกษาหรือฝึกอบรมณต่างประเทศครบตามสัญญาแล้วจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาดังกล่าวอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8853/2550

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับการชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: หนี้จากการบริการฟื้นฟูกิจการต้องมีความเกี่ยวข้องกับแผนเพื่อได้รับสิทธิพิเศษ
การขอรับชำระหนี้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 หมวด 3/1 ส่วนที่ 11 นั้น หากเป็นหนี้ซึ่งผู้บริหารแผนก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ในการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ได้โดยไม่อยู่ภายใต้บังคับมาตรา 94 (2) แต่หนี้ดังกล่าวจะจัดอยู่ในลำดับเดียวกับค่าใช้จ่ายของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้ตามมาตรา 130 (2) ได้ก็ต่อเมื่อเป็นหนี้ซึ่งผู้บริหารแผนก่อขึ้นตามแผนก่อขึ้นตามแผนเพื่อประโยชน์ในการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ตามมาตรา 90/77 วรรคสาม
หนี้ค่าบริการและค่าธรรมเนียมวิชาชีพตามคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ที่ผู้บริหารแผนได้ตกลงว่าจ้างเจ้าหนี้ให้สอบทานความถูกต้องของระบบการรับ - จ่าย เงินสด งบกระแสเงินสด และบัญชีการเงินกับต้นทุน ของลูกหนี้ในระหว่างการฟื้นฟูกิจการ เป็นหนี้ที่ก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ในการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้เท่านั้น ไม่ปรากฏมีความสำคัญเกี่ยวข้องกับแผนฟื้นฟูกิจการอย่างไรบ้าง จึงยังถือไม่ได้ว่าเป็นหนี้ซึ่งผู้บริหารแผนก่อขึ้นตามแผนเพื่อประโยชน์ในการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ที่เจ้าหนี้จะมีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนในลำดับเดียวกับค่าใช้จ่ายของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 130 (2) ประกอบมาตรา 90/77 วรรคสาม