คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
วรรค

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2537/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุมาตราในฟ้องอาญา ไม่จำเป็นต้องระบุวรรค ศาลมีหน้าที่ปรับบทตามข้อเท็จจริง
ป.วิ.อ. มาตรา 158 บัญญัติว่า "ฟ้องต้องทำเป็นหนังสือและมี... (6) อ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่า การกระทำเช่นนั้นเป็นความผิด..." เห็นได้ว่าบทบัญญัติดังกล่าว เพียงแต่อ้างบทมาตราก็เพียงพอแล้วหาจำต้องระบุวรรคด้วยไม่ เพราะการกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดวรรคใดเป็นหน้าที่ของศาลที่จะปรับบทมาตราและวรรคให้ถูกต้องตามฟ้องและข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2537/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชอบด้วยกฎหมายของฟ้องอาญาที่ไม่ระบุวรรคของมาตราที่อ้างถึง ศาลมีอำนาจปรับบทมาตราเองได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(6)บัญญัติเพียงแต่ให้อ้างบทมาตราซึ่งกฎหมายบัญญัติว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดก็เพียงพอแล้วหาจำต้องระบุวรรคด้วยไม่เพราะการกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดวรรคใดเป็นหน้าที่ของศาลปรับบทมาตราและวรรคให้ถูกต้องตามฟ้องและข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2517/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษตามกฎหมายยาเสพติด: ศาลต้องระบุมาตราและวรรคที่ผิดชัดเจน การแก้คำพิพากษาโดยอุทธรณ์ชอบแล้ว
พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2528 มาตรา 8เป็นบทกำหนดโทษที่แก้ไขใหม่ของมาตรา 76 แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2528 มาตรา 8เท่ากับลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 76(ที่แก้ไขใหม่) ซึ่งความผิดตามมาตรา 76 ดังกล่าวมีหลายวรรคแต่ละวรรคกำหนดโทษไว้แตกต่างกัน การที่ศาลชั้นต้นไม่ระบุว่าจำเลยมีความผิดวรรคใดย่อมไม่ถูกต้อง ศาลอุทธรณ์แก้เสียให้ถูกต้องได้ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1814/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน: การระบุวรรคของมาตรา 340 ในคำพิพากษา
จำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นคนร้ายปล้นทรัพย์โดยจำเลยที่ 1 มีอาวุธปืนติดตัวเพื่อกระทำผิด การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 340 วรรคสอง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 340 โดยไม่ได้ระบุวรรคใด นั้นไม่ถูกต้อง สมควรระบุเสียให้ถูกต้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2785/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานชิงทรัพย์ที่ผิดวรรคตามประมวลกฎหมายอาญา การพิจารณาอัตราโทษที่ถูกต้อง
ความผิดฐานชิงทรัพย์ จะปรับบทลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคแปด ย่อมไม่ถูกต้องเพราะความในบทบัญญัติมาตรานี้มีเพียง 5 วรรคเท่านั้นและที่ลงโทษจำคุก 12 ปีนั้นอยู่ในระวางโทษของวรรคสี่แต่เมื่อการชิงทรัพย์รายนี้เพียงแต่กระทำในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ จึงเข้าเกณฑ์ของวรรคสอง ไม่ใช่วรรคสี่โทษที่ลงแก่จำเลยนั้นจึงเกินอัตราไปด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2479

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานทำให้เสื่อมเสียอิศรภาพ ต้องพิจารณาตามวรรคของมาตรา 268 ที่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง หากไม่เข้าข่ายวรรคอื่น ต้องลงโทษตามวรรค 1 เท่านั้น
การที่จะวางอัตราโทษจำเลยตามมาตรา 268 นั้น ถ้าหากข้อเท็จจริงไม่ปรากฎว่าความผิดของจำเลยต้องด้วยวรรค 2 - 3 หรือ 4 แห่ง ม.268 แล้ว ก็ต้องลงโทษจำเลยได้แต่เพียงตามอัตราโทษที่วางไว้ในวรรค 1 เท่านั้น จำเลยจับตัวเจ้าทุกข์ไปแล้วขู่ให้ส่งเงินให้จำเลยมีผิดฐานทำให้เสื่อมเสียอิศรภาพ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3889/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมชิงทรัพย์-การพิพากษาเกินคำขอ: ศาลชอบที่จะลงโทษตามวรรคที่ข้อเท็จจริงฟังได้ แม้โจทก์มิได้ระบุวรรคในคำขอท้ายฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยชิงทรัพย์ผู้เสียหายในเวลากลางคืนโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปอันเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 339 วรรคสอง โจทก์ไม่จำต้องระบุวรรคของบทมาตราที่ขอให้ลงโทษมาในคำขอท้ายฟ้องด้วยเนื่องจาก ป.วิ.อ. มาตรา 158 (6) มิได้บังคับไว้เช่นนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 339 วรรคสอง ตรงตามโจทก์บรรยายฟ้อง ศาลก็ชอบที่จะพิพากษาลงโทษจำเลยตามนั้น มิได้เป็นการพิพากษาเกินคำขอ