คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
วางเงินชำระหนี้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3861/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางเงินชำระหนี้เช็คและการรอการลงโทษ: ศาลอุทธรณ์มีอำนาจวินิจฉัยการรอการลงโทษได้แม้จะมีการวางเงินชำระหนี้
การที่จำเลยขอวางเงินต่อศาลชั้นต้นเพื่อชำระหนี้ตามเช็คแก่โจทก์ จำเลยสามารถทำได้โดยไม่จำต้องได้รับอนุญาตจากศาลอุทธรณ์ส่วนการที่จำเลยขอให้ศาลอุทธรณ์รอการลงโทษเป็นเรื่องที่ศาลอุทธรณ์จะต้องวินิจฉัยในคำพิพากษาจากข้อเท็จจริงในสำนวนซึ่งศาลอุทธรณ์ก็ได้ทำคำพิพากษาเสร็จแล้ว เมื่อจำเลยยังมิได้วางเงินต่อศาลชั้นต้นเพื่อชำระหนี้ตามเช็คแก่โจทก์ จึงไม่มีเหตุที่ศาลอุทธรณ์จะต้อง ทำคำพิพากษาใหม่ ชอบที่จะสั่งยกคำร้องของจำเลยเสียได้ จำเลยอายุ 50 ปี อาชีพค้าขาย สำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยมีภรรยาและบุตรผู้เยาว์ 4 คน อยู่ในความอุปการะเลี้ยงดู และในระหว่าง การพิจารณาของศาลฎีกาจำเลยได้บรรเทาผลเสียหายโดยวางเงิน จำนวนตามเช็คต่อสำนักงานวางทรัพย์กลางเพื่อชำระแก่โจทก์ไม่ปรากฏ ว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อน สมควรรอการลงโทษให้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16134/2556

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางเงินชำระหนี้ต่อศาล: ศาลต้องแจ้งเจ้าหนี้ หากไม่แจ้งเงินไม่ตกเป็นของแผ่นดิน
การที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาวางเงินต่อศาลชั้นต้นเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ตามคำพิพากษานั้น เป็นการกระทำเพื่อปฏิบัติตามคำพิพากษาโดยมุ่งประสงค์ให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษามารับไป ศาลชั้นต้นจึงมีหน้าที่ต้องดำเนินการให้โจทก์ทราบ หากโจทก์ทราบแล้วไม่มารับเงินภายในห้าปีนับแต่มีการวางเงิน เงินดังกล่าวจึงจะถือว่าเป็นเงินค้างจ่ายและทำให้ตกเป็นของแผ่นดิน แต่คดีนี้หลังจากลูกหนี้ตามคำพิพากษาวางเงินต่อศาลชั้นต้นเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว ศาลชั้นต้นมิได้ดำเนินการใด ๆ เพื่อให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาทราบ เงินดังกล่าวจึงยังไม่เป็นเงินค้างจ่ายอยู่ที่ศาลชั้นต้นที่ผู้มีสิทธิต้องเรียกเอาเสียภายในห้าปีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 323 และยังไม่ตกเป็นของแผ่นดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3067/2550

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางเงินชำระหนี้ต่อศาล: ผลของการไม่รับรองการชำระหนี้ และการตกเป็นของแผ่นดิน
คำแถลงขอวางเงินของจำเลยฉบับลงวันที่ 22 ธันวาคม 2540 คงปรากฏเพียงลายมือชื่อของหัวหน้าฝ่ายการเงิน บัญชี และพัสดุใต้ข้อความว่า "รับลงบัญชีแล้ว" กับมีใบเสร็จรับเงินแนบติดอยู่ โดยไม่ปรากฎว่ามีการเสนอคำแถลงของจำเลยต่อศาลเพื่อมีคำสั่งว่าจะให้รับเงินนั้นไว้เพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ต่อไปตามที่จำเลยขอมาในคำแถลงหรือไม่ เมื่อโจทก์ขอให้ออกหมายบังคับคดีโดยอ้างว่าจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นก็ออกหมายบังคับคดีให้ตามคำขอของโจทก์ แสดงว่าขณะนั้นศาลชั้นต้นยังไม่ถือเอาว่าเงินที่จำเลยนำมาวางศาลนั้นศาลได้รับไว้เพื่อให้โจทก์มาขอรับไป มิฉะนั้นแล้วก็ไม่มีเหตุที่ศาลชั้นต้นจะออกหมายบังคับคดีเพื่อให้โจทก์ดำเนินการบังคับคดีแก่จำเลยอีก ดังนั้น เมื่อโจทก์มาขอรับเงินในวันที่ 21 เมษายน 2547 ศาลชั้นต้นจะกลับมาถือเอาในชั้นหลังนี้ว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ค้างจ่ายอยู่ในศาลซึ่งผู้มีสิทธิได้เรียกเอาภายใน 5 ปี ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 323 ย่อมเป็นการไม่ชอบ ต้องถือว่าเงินที่จำเลยนำมาวางศาลเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาในคดีนี้ยังไม่ตกเป็นของแผ่นดิน