พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776-777/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทิศที่ดินให้ศาลจ้าวต้องทำตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด ผู้มีกรรมสิทธิ์จะยกให้กันเองไม่ได้
ผู้ที่ปรารถนาจะอุทิศที่ดินของตนให้เป็นสมบัติของศาลจ้าว ต้องยื่นเรื่องราวแสดงความปรารถนาเป็นลายลักษณ์อักษรมอบหมายให้แก่นายอำเภอผู้ปกครองท้องที่ จะทำหนังสือยกให้กันเองหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1506/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีเกี่ยวกับศาลจ้าวเป็นของผู้จัดการศาลจ้าว ไม่ใช่ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือคู่สัญญาเช่า
ศาลจ้าวเป็นที่กุศลสถานประเภทหนึ่งตามกฎเสนาบดีกระทรวงนครบาลและกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 15 มีนาคม 2463 ออกตามความในพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา123 ซึ่งรัฐบาลเป็นผู้จัดการปกครองและและตรวจตราสอบส่องอยู่โดยเฉพาะ หาใช่ที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินไม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงหามีอำนาจฟ้องห้ามมิให้ผู้อื่นครอบครองห้องพิพาทของศาลจ้าวได้ไม่.
ตามกฎเสนาบดีกระทรวงนครบาลว่าด้วยที่กุศลสถานชนิดศาลจ้าว ข้อ 14 ก. อำนาจฟ้องเกี่ยวด้วยเรื่องศาลจ้าวทุกประการเป็นของผู้จัดการปกครองศาลจ้าว และตามพระราชบัญญัติปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 123 เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองมีหน้าที่เพียงคอยตรวจตราอุดหนุนผู้ปกปักรักษาวัดหรือกุศลสถานอย่างอื่นเท่านั้นการที่กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้มีชื่อเป็นของในโฉนดก็ตาม เป็นผู้มีชื่อเป็นคู่สัญญากับผู้ทำสัญญาเช่าที่ดินบริเวณศาลจ้าวในหนังสือสัญญาก็ตาม ก็เป็นการกระทำแทนและในนามศาลจ้าวซึ่งมีผู้จัดการปกครองศาลจ้าวเป็นผู้มีอำนาจฟ้องอยู่แล้วตามกฎหมาย กระทรวงมหาดไทยจะเป็นโจทก์ฟ้องคดีนี้หาได้ไม่.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2503)
ตามกฎเสนาบดีกระทรวงนครบาลว่าด้วยที่กุศลสถานชนิดศาลจ้าว ข้อ 14 ก. อำนาจฟ้องเกี่ยวด้วยเรื่องศาลจ้าวทุกประการเป็นของผู้จัดการปกครองศาลจ้าว และตามพระราชบัญญัติปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 123 เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองมีหน้าที่เพียงคอยตรวจตราอุดหนุนผู้ปกปักรักษาวัดหรือกุศลสถานอย่างอื่นเท่านั้นการที่กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้มีชื่อเป็นของในโฉนดก็ตาม เป็นผู้มีชื่อเป็นคู่สัญญากับผู้ทำสัญญาเช่าที่ดินบริเวณศาลจ้าวในหนังสือสัญญาก็ตาม ก็เป็นการกระทำแทนและในนามศาลจ้าวซึ่งมีผู้จัดการปกครองศาลจ้าวเป็นผู้มีอำนาจฟ้องอยู่แล้วตามกฎหมาย กระทรวงมหาดไทยจะเป็นโจทก์ฟ้องคดีนี้หาได้ไม่.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1029/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และหน้าที่การพิสูจน์ของโจทก์เกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน
ฟ้องของโจทก์มีว่า ยายโจทก์ได้ให้ศาลจ้าวจีนอาศัยปลูกสร้างศาลจ้าวลงในที่ดินพิพาท บัดนี้ที่ดินตกเป็นของโจทก์โจทก์จึงขอให้ขับไล่
กรรมการศาลจ้าว ซึ่งเป็นจำเลยให้การว่า ยายโจทก์ทำหนังสือยกที่พิพาทให้ทำเป็นศาลจ้าวของเอกชนโดยได้รับค่าตอบแทนไป 300 บาท 10 ปีเศษแล้ว
จำเลยอ้างเอกสาร 2 ฉบับ ซึ่งยายโจทก์ยกที่ดินให้ปลูกศาลจ้าว ซึ่งโจทก์เองเป็นผู้เขียนกับเอกสารการรับเงินค่าตอบแทน 300 บาท โจทก์รับรองเอกสารดังกล่าวแล้ว และว่าได้มอบที่พิพาทให้ในวันทำเอกสาร โจทก์ไปรับโฉนดมา จำเลยไม่ทราบ ดังนี้ เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบว่า จำเลยอาศัยดังข้อกล่าวอ้าง
กรรมการศาลจ้าว ซึ่งเป็นจำเลยให้การว่า ยายโจทก์ทำหนังสือยกที่พิพาทให้ทำเป็นศาลจ้าวของเอกชนโดยได้รับค่าตอบแทนไป 300 บาท 10 ปีเศษแล้ว
จำเลยอ้างเอกสาร 2 ฉบับ ซึ่งยายโจทก์ยกที่ดินให้ปลูกศาลจ้าว ซึ่งโจทก์เองเป็นผู้เขียนกับเอกสารการรับเงินค่าตอบแทน 300 บาท โจทก์รับรองเอกสารดังกล่าวแล้ว และว่าได้มอบที่พิพาทให้ในวันทำเอกสาร โจทก์ไปรับโฉนดมา จำเลยไม่ทราบ ดังนี้ เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบว่า จำเลยอาศัยดังข้อกล่าวอ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 310/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของศาลจ้าวในที่ดินเอกชน: กฎกระทรวงฯ และ พรบ.ปกครองท้องที่ มิได้คุ้มครองศาลจ้าวที่ตั้งอยู่ในที่ดินเอกชน
กฎกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยที่กุศาสถานชะนิดศาลจ้าว พ.ศ. 2463 พรบ ปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 ม. 123 ศาลจ้าวซึ่งตั้งอยู่ในที่ดินอันเอกชนมีกรรมสิทธิเป็นเจ้าของนั้นไม่อยู่ในบังคับแห่งกฎกระทรวงดังกล่าง บทบัญญัติมาตรา 123 แห่ง พรบ ลักษปกครอง ืต้องที่ซึ่งบัญญัติว่ารัฐบาลได้ปกปักรักษาที่กุศลสถานทั้งหมดนั้นหมายความถึงกุศลสถานหรือศาลจ้าวซึ่งตั้งอยู่ในที่ดินซึ่งรัฐบาลเป็นเจ้าของหรือเป็นผู้ปกปักรักษาเท่านั้นไม่กินความถึงศาลจ้าวซึ่งตั้งอยู่ในที่ดินอันเอกชนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ เพียงแต่ให้ศาลจ้าวตั้งอยู่ในที่ของตนโดยไม่แก้โฉนดโอนทะเบียนและทำเรื่องราวขออุทิศ ไม่เรียกว่าเป็นการอุทิศที่ดินนั้นสำหรับศาลจ้าวโดยสิทธิขาด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1409/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะและความคุ้มครองของศาลจ้าวที่ขึ้นทะเบียนก่อนมีกฎกระทรวง และอำนาจการแต่งตั้งผู้ดูแล
ที่ศาลจ้าวซึ่งมีผู้อุทิศให้บ้างเรี่ยไรเงินซื้อบ้างและได้ขึ้นทะเบียนก่อนออกกฎกระทรวงนั้นอยู่ในความคุ้มครองของรัฐบาล ข้าหลวงประจำจังหวัดมีอำนาจแต่งตั้งผู้ดูแลศาลจ้าวนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2210/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลจ้าวไม่ใช่ทรัพย์มรดก การจัดการศาลจ้าวไม่ถือเป็นการปันมรดก ผู้จัดการมรดกมีอำนาจจัดการได้
การร้องขอถอนผู้จัดการมรดกก่อนปันมรดกเสร็จสิ้นแล้วหรือไม่ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1727 เป็นเรื่องอำนาจฟ้องหรืออำนาจยื่นคำร้องอันเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัย ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5)
ศาลจ้าวใต้เซียฮุดโจ๊วตั้งอยู่ในที่ดินซึ่งรัฐเป็นเจ้าของหรือผู้ปกปักรักษาตามกฎเสนาบดีกระทรวงนครบาลและกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 15 มีนาคม 2463 ออกตามความใน พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 123 เป็นกุศลสถานสำหรับมหาชนแม้ผู้ตายจะเป็นผู้ดูแลขณะมีชีวิต ก็หาทำให้ศาลจ้าวใต้เซียฮุดโจ๊วตลอดทั้งทรัพย์สินและผลประโยชน์ของศาลจ้าวนั้นเป็นมรดกของผู้ตายอันจะตกแก่ทายาทตาม ป.พ.พ. มาตรา 1599 วรรคหนึ่ง ที่ผู้ตายจะกำหนดการเผื่อตายเกี่ยวกับทรัพย์สินในพินัยกรรมได้ แม้จะกำหนดไว้ในพินัยกรรมก็ไม่มีผลบังคับ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1646
ผู้ตายเป็นผู้จัดการปกครองดูแลศาลจ้าวใต้เซียฮุดโจ๊วจะต้องมีคุณสมบัติตามกฎเสนาบดีฯ ข้างต้น ซึ่งเป็นการประกอบกิจการอาชีพอันเป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้ ย่อมไม่เป็นมรดกของผู้ตายตาม ป.พ.พ. มาตรา 1600 อันจะตกแก่ทายาทตาม มาตรา 1599 วรรคหนึ่ง
ตามพินัยกรรมที่ผู้ตายทำเมื่อไม่มีทรัพย์สินที่ตามพินัยกรรมที่จะปันแก่ทายาท และทรัพย์สินนอกพินัยกรรมของผู้ตายก็ไม่มีแล้ว การจัดการมรดกของผู้ตายโดยผู้ร้องซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกย่อมเสร็จสิ้น ผู้คัดค้านจึงไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกตาม ป.พ.พ. มาตรา 1727 วรรคหนึ่ง
ศาลจ้าวใต้เซียฮุดโจ๊วตั้งอยู่ในที่ดินซึ่งรัฐเป็นเจ้าของหรือผู้ปกปักรักษาตามกฎเสนาบดีกระทรวงนครบาลและกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 15 มีนาคม 2463 ออกตามความใน พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 123 เป็นกุศลสถานสำหรับมหาชนแม้ผู้ตายจะเป็นผู้ดูแลขณะมีชีวิต ก็หาทำให้ศาลจ้าวใต้เซียฮุดโจ๊วตลอดทั้งทรัพย์สินและผลประโยชน์ของศาลจ้าวนั้นเป็นมรดกของผู้ตายอันจะตกแก่ทายาทตาม ป.พ.พ. มาตรา 1599 วรรคหนึ่ง ที่ผู้ตายจะกำหนดการเผื่อตายเกี่ยวกับทรัพย์สินในพินัยกรรมได้ แม้จะกำหนดไว้ในพินัยกรรมก็ไม่มีผลบังคับ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1646
ผู้ตายเป็นผู้จัดการปกครองดูแลศาลจ้าวใต้เซียฮุดโจ๊วจะต้องมีคุณสมบัติตามกฎเสนาบดีฯ ข้างต้น ซึ่งเป็นการประกอบกิจการอาชีพอันเป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้ ย่อมไม่เป็นมรดกของผู้ตายตาม ป.พ.พ. มาตรา 1600 อันจะตกแก่ทายาทตาม มาตรา 1599 วรรคหนึ่ง
ตามพินัยกรรมที่ผู้ตายทำเมื่อไม่มีทรัพย์สินที่ตามพินัยกรรมที่จะปันแก่ทายาท และทรัพย์สินนอกพินัยกรรมของผู้ตายก็ไม่มีแล้ว การจัดการมรดกของผู้ตายโดยผู้ร้องซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกย่อมเสร็จสิ้น ผู้คัดค้านจึงไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกตาม ป.พ.พ. มาตรา 1727 วรรคหนึ่ง